สาวสก๊อยเครียด-กลัวพ่อแม่ไม่มารับ

วันที่ 5 ก.พ.ที่ศูนย์แรกรับเด็กและเยาวชนชาย (บ้านเมตตา)

นายอาภาพงศ์ กฤตเวทิน ผอ.สถานพินิจเด็กและเยาวชนชายบ้านเมตตา เปิดเผยว่า หลังจากที่เยาวชนชายทั้ง 74 คน ที่ถูกตำรวจ สน.พญาไท จับกุมในคดีแก๊งซิ่ง ถูกส่งเข้ามาที่บ้านเมตตาเมื่อวันที่ 4 ก.พ. และห้ามประกันตัวเป็นเวลา 5 วันเพื่อให้เด็กและเยาวชนเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมตามโปรแกรมช็อกเชอราปี โดยชีวิตความเป็นอยู่ในวันแรกของเด็กเหล่านี้ ทางบ้านเมตตาได้ทำการแยกเด็กออกเป็นกลุ่ม และแยกหอนอน โดยคืนแรกพบว่ามีเยาวชนหลายคนนอนไม่หลับ คิดถึงพ่อแม่ แต่ก็เริ่มหลับกันในช่วงเวลา 21.00 น.มีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง และพบว่ามีเยาวชนบางคนไม่ได้นอนมาถึง 2 วัน พอหัวถึงหมอนก็หลับสนิท

นายอาภาพงศ์ กล่าวต่อว่า กิจกรรมวันนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเยาวชนทุกคนได้ตื่นนอน เวลา 05.30 น.ก่อนอาบน้ำและร่วมกันทำความสะอาดหอนอน โรงฝึกอบรม และเคารพธงชาติ

จากนั้นก็รับประทานอาหารร่วมกัน โดยก่อนรับประทานอาหารเยาวชนทุกคนจะต้องรับการฝึกระเบียบ โดยจะต้องเอามือประสานไว้ที่หน้าอกและสวดมนต์ก่อนทุกครั้ง ส่วนช่วงบ่ายทางบ้านก็จะสอบปากคำเด็กทีละคน และวันที่เหลือ 6-8 ก.พ.ทางนักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ก็จะเข้ามาฝึกอบรมเยาวชนเหล่านี้ ส่วนวันสุดท้ายก็จะเชิญผู้ปกครองมาร่วมฝึกอบรมเยาวชนเพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวกับเยาวชน จากนั้นก็จะอนุญาตให้ผู้ปกครองประกันตัวเด็กได้ และขณะนี้ยังไม่พบว่าเยาวชนเหล่านี้จะก่อเหตุวุ่นวายใดๆ ทุกคนอยู่ในกฎระเบียบของบ้านดี

ส่วนที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนหญิง (บ้านปรานี)

นางนันทนา พันธ์ชื่น หน.สถานแรกรับเด็กและเยาวชนหญิง บ้านปรานี เปิดเผยว่า เยาวชนหญิงที่ถูกจับในคดีเดียวกัน ขณะนี้ถูกส่งเข้ามาทั้งหมด 34 ราย ซึ่งถือว่ามากที่สุดเท่าที่เคยรับไว้ ส่วนมากก็แค่ 1-2 คนเท่านั้น ส่วนการปฏิบัติต่อเยาวชนหญิงนั้นก็ลักษณะคล้ายกับบ้านเมตตา แต่ไม่ต้องตัดผม และวันแรกที่เยาวชนถูกส่งเข้ามาต่างมีอาการซึมเศร้ากลัวผู้ปกครองจะไม่มาประกันตัว และคิดถึงแฟน สาเหตุที่ต้องไปเป็นสก๊อย เยาวชนต่างก็ยอมรับว่าตามเพื่อน และเพื่อความสนุกเท่านั้น

ด้านนายสรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธ์ คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ และผอ.มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก

กล่าวถึงกรณีศาลสั่งจำคุกเด็กแว้นที่ก่อความเดือดร้อนรำคาญโดยไม่ให้ประกันตัวเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีจำนวน 108 คน เพื่อให้เข้าอบรมในบ้านเมตตาและปรานีเป็นเวลา 5 วันว่า การอบรมเด็ก 5 วัน น่าจะเป็นการกระตุ้นให้เด็กได้ฉุกคิดในการปรับหรือควบคุมพฤติกรรมตัวเองได้บ้าง ทั้งนี้ตนเชื่อว่ามาตรการแก้ปัญหาเด็กแว้นครั้งนี้ที่ค่อนข้างเอาจริงเอาจัง เพื่อกระตุ้นให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพ่อแม่ผู้ปกครองรับทราบว่าต้องเลี้ยงดูเอาใจใส่ลูกหลาน อย่าปล่อยปละละเลย โดยต้องรับผิดชอบกับพฤติกรรมของลูกหลาน

"พ่อแม่จะออกมาแสดงความไม่พอใจที่ตำรวจไม่ให้ประกันตัวลูกไม่ได้ เพราะพ่อแม่เองที่ปล่อยลูกมาก่อกวน หากจะรับลูกกลับไปก็ต้องรับปากว่าจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเด็กได้ ต้องแสดงความรับผิดชอบว่าจะเลี้ยงลูกอย่างไรต่อไปไม่ให้ก่อปัญหา เพราะตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก มาตรา 26 อนุ 3 ก็กำหนดไม่ให้พ่อแม่ปล่อยปละละเลยเด็กจนกระทำผิด มีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 30,000 บาท เรื่องนี้ผู้ปกครองจะโวยวายไม่ได้ แต่ต้องมาช่วยกันปรับพฤติกรรมเด็ก" คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติกล่าว