อุ้มฆ่าโหดพม่า4ศพหมกป่าไชยา

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 5 ก.พ. ร.ต.ท.วันชนะ ทิพย์อาสน์ ร้อยเวร สภ.โมถ่าย อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี

รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายหลายศพ เหตุเกิดที่เขาเฉียงรุน หมู่ 7 ต.ปากหมาก อ.ไชยา จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.สุรศักดิ์ ทิพย์รัตน์ สว.หน.สภ.โมถ่าย นำกำลังตำรวจ แพทย์เวร ร.พ.ไชยา และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาไชยา-ท่าฉาง-สุราษฎร์ธานี รุดไปยังที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุอยู่บนยอดเขาต้องเดินทางด้วยรถขับเคลื่อน 4 ล้อ

โดยจุดเกิดเหตุเป็นถนนลูกรังในสวนยางพารา พบผู้เสียชีวิต 4 ศพ เรียงเคียงกัน โดยศพแรกเป็นผู้หญิงไม่ทราบชื่อ อายุ 30-35 ปี สวมเสื้อลายน้ำตาล นุ่งผ้าถุงสีแดง ถูกมัดมือไพล่หลังด้วยสายไฟ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่เบ้าตาขวาและหน้าอกรวม 3 นัด ศพที่ 2 เป็นชายไม่ทราบชื่อ อายุ 40-45 ปี นุ่งผ้าโสร่งลาย ไม่สวมเสื้อ ถูกมัดมือไพล่หลังด้วยสายยางรัดของ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 ม.ม. เข้ากลางศีรษะและต้นคอรวม 2 นัด ศพที่ 3 เป็นศพผู้หญิงตั้งครรภ์ 5 เดือน อายุ 30-35 ปี สวมเสื้อยืดสีเขียว นุ่งผ้าถุงสีส้ม ถูมัดมือไพล่หลังด้วยสายไฟ ถูกยิงเข้ากลางหน้าผาก 1 นัด และศพที่ 4 เป็นชายไม่ทราบชื่อ อายุ 30-35 ปี นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ ไม่สวมเสื้อ ถูกมัดมือไพล่หลังด้วยสายไฟ ถูกยิงเข้าที่ขมับขวา ปาก และจมูก รวม 3 นัด

จากการตรวจค้นในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 ม.ม. ตกอยู่ 7 ปลอก จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนทั้ง 4 ศพ คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6 ชั่วโมง ค้นในตัวไม่พบหลักฐาน ระบุเป็นใครมาจากไหน ก่อนจะลำเลียงศพส่งร.พ.สุราษฎร์ธานี เพื่อผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง และทราบต่อมาด้วยว่า มีผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว 1 ราย ทราบชื่อนายเอ อายุ 30 ปี ชาวพม่า ถูกยิงเข้าที่ขาขวาและสะโพก ชาวบ้านนำส่งร.พ.สุราษฎร์ธานี

สอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า สวนยางที่เกิดเหตุเป็นของนายจำรัส คงประพันธ์ อายุ 52 ปี สำหรับผู้เสียชีวิตไม่มีใครเคยเห็นหน้า หรือรู้จักมาก่อน

ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 5 ก.พ. มีเสียงปืนดังขึ้นมาจากยอดเขาจุดเกิดเหตุหลายนัดติดต่อกัน แต่ไม่มีใครสนใจ เนื่องจากคิดว่าเป็นพวกล่าสัตว์ กระทั่งชาวบ้านที่เข้าไปกรีดยางผ่านเส้นทางดังกล่าว พบศพนอนกองกันอยู่ จึงแจ้งให้ตำรวจทราบ ด้านนายเอให้การว่า ผู้ตายทั้งหมดทำงานรับจ้างกรีดยางพาราอยู่ในพื้นที่หมู่ 4 ต.ปากหมาก อ.ไชยา โดยพักอาศัยอยู่ในขนำภายในสวนยางพารา ก่อนเกิดเหตุช่วงค่ำวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา นั่งคุยกันอยู่ที่ขนำ มีรถกระบะ 4 ประตู สีเขียว ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบีบน ขับมาจอดที่หน้าขนำ มีชายฉกรรจ์ 7 คน ลงมาจากรถชักอาวุธปืนจี้บังคับไม่ให้ขัดขืน แล้วจับมัดมือไพล่หลังนำตัวขึ้นรถมายังจุดเกิดเหตุ

หนุ่มพม่าให้การต่อว่า คนร้ายลากลงจากรถ ก่อนจะให้นั่งเรียงหน้ากระดาน

โดยมี 1 ในคนร้ายเดินถืออาวุธปืนจ่อยิงทีละคน ส่วนตนโดนยิงเข้า 2 นัด จนฟุบไปกองกับพื้นสลบไป คนร้ายอาจจะคิดว่าทุกคนคงเสียชีวิตแล้ว จึงพากันไปขึ้นรถแล้วขับหลบหนีไป เมื่อฟื้นขึ้นมาพบว่าเพื่อนๆ เสียชีวิตหมดแล้ว จึงเดินจากที่เกิดเหตุไปตามถนน กระทั่งพบชาวบ้านช่วยเหลือนำส่งร.พ.สุราษฎร์ธานี ส่วนสาเหตุไม่ทราบว่าใครมีเรื่องขัดแย้งกับใครบ้าง

ด้าน พ.ต.ท.สุรศักดิ์ กล่าวว่า คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในพื้นที่

รู้จักพื้นที่และชำนาญเส้นทางเป็นอย่างดี เนื่องจากถนนดังกล่าวเป็นเส้นทางยากลำบาก และเป็นทางตัน ห่างไกลบ้านผู้คน คนร้ายจึงเลือกเป็นสถานที่ลงมือยิง โดยคนร้ายจะต้องมีความแค้นกับกลุ่มผู้เสียชีวิตเป็นอย่างมาก จึงลงมือฆ่าหมู่ทีเดียว 4 ศพ โดยตั้งประเด็นความขัดแย้งไว้ 2 เรื่อง คือความขัดแย้งระหว่างกลุ่มแรงงานพม่าด้วยกัน เกี่ยวกับการส่งเงินกลับประเทศโดยผ่านชาวพม่าด้วยกัน อาจหักหลังกัน หรือความขัดแย้งกับคนไทยในพื้นที่ ที่กลุ่มผู้เสียชีวิตคนใดคนหนึ่งไปก่อเหตุไว้ เลยถูกตามมาล้างแค้น