ศธ.เร่งแก้ไข! ห้องสมุดกาม

จากกรณีนักเรียน นักศึกษา แอบเข้าไปใช้มุมอับในห้องสมุดประชาชนจังหวัดนครศรีธรรมราชมีเพศสัมพันธ์ กันโดยไม่อับอายสายตาผู้คนจะมาพบเห็น

ส่วนบริเวณซอกตึกนอกห้องสมุดประชาชนด้านที่ติดกับสนามเทนนิส ก็กลายเป็นแหล่งมั่วสุมขายบริการทางเพศของเด็กหญิง อายุระหว่าง 13-15 ปี จำนวน 4 คน ใช้เตร็ดเตร่หาลูกค้า คิดค่าบริการครั้งละ 20-30 บาท โดยมีซากถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วถูกทิ้งไว้เกลื่อนพื้นเป็นหลักฐานประจานความฉาวโฉ่ แต่หลังสื่อมวลชนนำเสนอข่าวออกไป เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกลับออกมาตอบโต้ว่าไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น กระทั่งกลุ่มผู้ปกครองต้องบุกเข้าไปพิสูจน์ความจริงด้วยสายตาตัวเอง ก่อนเรียกร้องให้มี การแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนนั้น
 

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อช่วงสายวันที่ 4  ก.พ. 

นายวินัย  ไชยทอง  ผอ.กศน.นครศรีธรรมราช นายสมพงศ์ อยู่เถาว์ หัวหน้าศูนย์ควบคุมความประพฤติ สำนักงานพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1 และคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมห้องสมุดประชาชนจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีนางกาญจนา ไชยสุวรรณ หัวหน้าห้องสมุด พร้อมเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและนำชมจุดที่เกิดเหตุอื้อฉาว บริเวณมุม มสธ.บนชั้น 2 ของห้องสมุด จากการตรวจสอบพบว่ามีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดวางชั้นหนังสือให้ดูโปร่ง มีมุมอับและซอกหลืบลับตาน้อยลง และมีการทำความสะอาดเช็ดล้างคราบเหนียวๆ ที่เปรอะเปื้อนบนผนังห้องออกจนสะอาด
 

ต่อมานายวินัย ไชยทอง ผอ.กศน.นครศรีธรรมราช ได้เปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชน

ระหว่างนั้นมีเจ้าหน้าที่ร่วมคณะ และนักจัดรายการวิทยุท้องถิ่นรายหนึ่ง กล่าวตำหนิการเสนอข่าวนี้อย่างรุนแรง อ้างว่าเป็นการสร้างข่าวขึ้นมาเพื่อทำให้จังหวัดเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งผู้สื่อข่าวชี้แจงว่า การนำเสนอข่าวของนักข่าวทุกสังกัด เป็นการเสนอไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และได้ตัดทอนข้อความ รวมทั้งภาพถ่ายที่อุจาดตาออกไปแล้ว ที่นำเสนอข่าวนี้ เพราะต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกระดับหันมาให้ความสำคัญและตระหนักถึงปัญหาเด็กและเยาวชน พร้อมหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังต่อเนื่อง ก่อนที่ปัญหาจะลุกลามบานปลายและทวีความรุนแรงไปมากกว่านี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และการพัฒนาประเทศในอนาคต
 

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้นำภาพฉาวโฉ่ที่แอบถ่ายได้ภายในห้องสมุด และไม่ได้มีการนำเสนอออกทางสื่อ

เนื่องจากเป็นภาพลามกอนาจารออกมายืนยัน สร้างความตกตะลึงให้กับทุกคนที่อยู่ในห้อง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ ผู้เกี่ยวข้องต่างพากันปิดปากเงียบ ไม่ยอมออกมาโต้เถียงใดๆอีก กล่าวแบบเลี่ยงๆเสียงอ่อยๆว่า เพิ่งเคยเห็น ไม่คิดว่าจะมีเรื่องบัดสีบัดเถลิงถึงขนาดนี้

จากนั้นนายวินัยแถลงกับสื่อมวลชนว่า ห้องสมุดประชาชนจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นห้องสมุดประชาชนขนาดใหญ่ที่สุดของภาคใต้

การดำเนินการที่ผ่านมาประสบความสำเร็จ จนถือเป็นห้องสมุดตัวอย่างระดับประเทศ แต่ในมุม มสธ.ที่อยู่ชั้น 2 และอยู่มุมด้านในสุดทางทิศใต้สมัยก่อนเป็นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ มีประชาชนเข้ามาค้นคว้าหาความรู้เป็นครั้งคราว ปัจจุบันข้อมูลต่างๆ สามารถค้นคว้าได้จากแหล่งข้อมูลอื่นๆมากขึ้น จึงทำให้มีผู้มาใช้บริการไม่มาก ส่งผลให้จุดดังกล่าวไม่พลุกพล่านเหมือนจุดอื่นๆ เด็กและเยาวชนบางคนเลยถือโอกาสเข้าไปใช้พื้นที่แสดงออกในพฤติกรรมไม่เหมาะสม ประกอบกับเจ้าหน้าที่มีน้อย ตรวจตราดูแลไม่ทั่วถึงหรือไม่ต่อเนื่อง เปิดโอกาสให้เด็กที่มีพฤติกรรมนอกรีตแอบเข้าไปมั่วสุมทางชู้สาว 

ผอ.กศน.นครศรีธรรมราชกล่าวต่อว่า หลังตกเป็นข่าว กระทรวงศึกษาธิการได้สั่งการให้ห้องสมุดประชาชนทั่วประเทศปรับปรุงแก้ไขไม่ให้มีจุดอับ หรือมีซอกหลืบที่ลับตาผู้คน

ในส่วนของห้องสมุดประชาชนจังหวัดนครศรีธรรมราชมีการแก้ไขปรับปรุงจัดเปลี่ยนพื้นที่ให้โปร่งโล่งมองเห็นได้ทุกด้าน และจัดเจ้าหน้าที่มานั่งประจำบน ชั้น 2 เพิ่มพนักงานรักษาความปลอดภัยในช่วงกลางวัน และเจ้าหน้าที่จะต้องเดินตรวจตราให้ทั่วบริเวณ ส่วนด้านนอกก็จะประสานงานกับทางเทศบาลเพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ให้ดีขึ้น และขอความร่วมมือจากตำรวจให้แวะเวียนมาตรวจตรา ทั้งด้านในและด้านนอกให้มากขึ้น และจะมีการเขียนคำเตือนติดไว้ตามจุดต่างๆ ทั่วห้องสมุด รวมทั้งจะเสนอของบประมาณมาติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิดด้วย 

นางกาญจนา ไชยสุวรรณ เจ้าหน้าที่บรรณารักษ์ ทำหน้าที่หัวหน้าห้องสมุดประชาชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้สัมภาษณ์ว่า

หลังเกิดข่าวอื้อฉาวขึ้น ทางห้องสมุดได้ปรับเปลี่ยนการทำงาน โดยจัดเจ้าหน้าที่ 3 คน และ รปภ. ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นไปตรวจบนชั้น 2 ของหอสมุด และประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช มาร่วมตรวจด้วย ต่อไปนี้เราจะตรวจตรากันทุกตารางนิ้วของพื้นที่ห้องสมุดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุเสื่อมเสียขึ้นมาอีก นอกจากนี้ จะจัดห้องสำหรับวัยรุ่นโดยเฉพาะ ให้ความรู้กับวัยรุ่นเรื่องโรคเอดส์และยาเสพติด จัดสมุดให้วัยรุ่นได้บันทึกความดี เพื่อให้แสดงออกว่าในวันนี้ได้ทำความดีอะไรมาบ้างแล้ว พร้อมประสานกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด นำโครงการทูบีนัมเบอร์วัน มาทำกิจกรรมที่ห้องสมุดด้วย
 

ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์นักเรียน นักศึกษาที่เข้ามาใช้บริการในห้องสมุดถึงข่าวที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่บอกว่ารู้สึกตกใจ

ไม่คิดว่าจะมีเรื่องเสื่อมเสียในสถานที่ราชการ และเป็นแหล่งให้ความรู้เช่นนี้ อีกทั้งเมืองคอนเป็นเมืองพระ เมืองแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่อยากให้เกิดสิ่งไม่ดีเช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต ขณะที่บางคนยอมรับว่า เคยเห็นเหตุการณ์ฉาวโฉ่มากับตาตัวเอง แต่ไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวด้วยเพราะกลัวถูกทำร้าย เนื่องจากวัยรุ่นสมัยนี้ หากไม่พอใจใคร จะชอบใช้ความรุนแรงเข้าแก้ไขปัญหา
 

ด้านนายวิจิตร ศรีสอ้าน รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า

การปรับกายภาพทั้งในและนอกห้องสมุดไม่ให้มีที่ลับตาคน เป็นแค่ส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหา แต่ไม่ว่าห้องสมุดจะอยู่ในสภาพไหนต้องถือว่าเป็นภาระหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ห้องสมุดที่ต้องดูแลผู้มาใช้บริการว่า มีการใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ การปล่อยปละละเลยถือเป็นข้อบกพร่อง การออกมาบอกว่าสถานที่มีมุมเร้นลับไม่ใช่ข้อแก้ตัวที่ฟังขึ้น เพราะไม่ว่าจะจัดห้องสมุดอย่างไรต้องมีที่เร้นลับ หรือมุมสงบ ดังนั้น เจ้าหน้าที่ต้องดูแลให้การใช้ห้องสมุดเป็นไปตามวัตถุประสงค์ หากมีอะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้นต้องแจ้งความกับตำรวจ เพราะเป็นเรื่องที่หมิ่นเหม่เข้าข่ายกฎหมายอนาจาร

นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า

ขณะนี้ได้ส่งผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว ขณะเดียวกันได้สั่งการให้สำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) มีหนังสือเวียนมาตรการปรับปรุงห้องสมุด 5 ประการไปยังห้องสมุดประชาชนประจำจังหวัด ประจำ อำเภอ ดังนี้ 1. ปรับสภาพห้องสมุดไม่มีมุมอับลับตาหรือซอกหลืบมุมมืด หรือชั้นหนังสือแน่นทึบเป็นกำแพงบังสายตาผู้อื่น ต้องจัดให้โปร่งมองกวาดสายตาเห็นได้ทั้งห้อง 2. ปรับภูมิสถาปัตย์ของสถานที่ภายนอกบริเวณห้อง สมุด ไม่มีมุมอับลับตาโดยเฉพาะห้องน้ำ 3. บรรณารักษ์ห้องสมุดต้องเดินตรวจในบริเวณห้องสมุดบ้าง เอาใจใส่ดูแลผู้มาใช้บริการ 4. จัดกิจกรรมพิเศษเพื่อให้มีผู้มาใช้ห้องสมุดมาก และ 5. เพิ่มคุณค่าทางวิชาการให้ห้องสมุด เช่น บริการจัดการด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ และใช้คอมพิวเตอร์เข้าร่วมด้วย