ครูซ่าพานร.เฮ้ว โดดลงแพเธคแด๊นซ์กระจาย มั่วสุม-เมาแอ๋! อ้างพามาทัศนศึกษา

ผู้ว่าฯ เมืองกาญ นำทีมค้น'แพเธค' เจอนร.ประถมเต้นรำสนุกสนาน ทั้งสวมชุดพละ-ถอดเสื้อ ครูตั้งวงเมาสุรา แจงพาเด็กเดินทางมาทัศนศึกษา ขณะที่วัยรุ่นกว่า 30 ราย รวมตัวเช่าเพื่อมานั่งมั่วสุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา

นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมนายอำเภอเมืองกาญจนบุรี คณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ และการขนส่งทางน้ำที่ 3 สาขากาญจนบุรี ได้ลงเรือเร็วออกตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า แพเธคในลำน้ำแควน้อยและแควใหญ่ส่งเสียงดังรบกวน สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ประชาชนที่อาศัยริมสองฝั่งลำน้ำ และมีการทิ้งขยะและสิ่งปฏิกูลทำให้น้ำเน่าเสีย

ทั้งนี้ คณะดังกล่าวนั่งเรือเร็วตรวจสอบบริเวณริมน้ำหน้าเมืองกาญจนบุรี

เมื่อถึงบริเวณเกาะแก้ว และเกาะกรวด ต.หนองหญ้า อ.เมือง ซึ่งเป็นสถานที่ที่แพส่วนใหญ่มักจอดเทียบท่าพักค้างคืน พบแพเธคกำลังเปิดเพลงเสียงดังกระหึ่มและเปิดไฟสีสันต่างๆ โดยมีกลุ่มคนบนแพกำลังเต้นอย่างสนุกสนาน นายอำนาจและคณะจึงขึ้นไปตรวจสอบบนแพ ชื่อ 'แพรวมเพื่อน' เมื่อนายอำนาจขึ้นไปบนแพดังกล่าว ได้สั่งให้ปิดเสียงเพลง พร้อมเปิดไฟให้สว่าง โดยพบว่า กลุ่มที่กำลังเต้นอย่างสนุกสนานเป็นนักเรียนหญิงชายระดับชั้นประถมศึกษา กว่า 20 คน ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ จากนั้นเข้าตรวจแพพักซึ่งอยู่ด้านหลังแพเธค พบครูจำนวนหนึ่งกำลังนั่งดื่มสุรา บางรายอยู่ในสภาพเมามายและหลับ รวมทั้งมีนักเรียนหญิงชายจำนวนหนึ่งนอนรวมอยู่บนแพพักดังกล่าวด้วย จากการสอบถามตัวแทนครูโรงเรียนดังกล่าวแจ้งนายอำนาจว่า นำนักเรียนเดินทางมาทัศนศึกษาและเข้ามาพักบนแพดังกล่าว

นายอำนาจ จึงกล่าวกับตัวแทนครูว่า รู้สึกเสียใจมาก ที่ครูคิดพาลูกศิษย์มาทำกิจกรรมมั่วสุมเช่นนี้ ถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง

เป็นการบ่มเพาะสิ่งที่ไม่ดีให้เด็ก ทั้งๆ ที่เด็กและเยาวชนจะเติบโตเป็นอนาคตของชาติ ครูจึงควรจัดหากิจกรรมที่สร้างสรรค์ และส่งเสริมเยาวชนด้านการศึกษามากกว่าพาเด็กมาทำกิจกรรมมั่วสุม จากนั้นนายอำนาจเดินทางไปตรวจสอบยังแพเธคที่อยู่ใกล้เคียงซึ่งเปิดเพลงเสียงดังให้ลูกค้าเต้นเช่นกัน โดยพบ 'แพเฉลิมชัย' เปิดเสียงเพลงดังมาก ซึ่งบนแพดังกล่าวพบกลุ่มเยาวชนกำลังเต้นอย่างสนุกสนาน เป็นนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น บางรายสวมชุดพละของโรงเรียนอยู่ ขณะที่นักเรียนชายบางรายถอดเสื้อ บางรายไม่สวมเสื้อผ้าแต่นุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวเท่านั้น

ต่อมานายอำนาจเดินทางไปตรวจสอบ 'แพน้องโรจน์' ซึ่งเปิดเพลงให้ลูกค้าเต้นรำ

โดยพบนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นของโรงเรียนแห่งหนึ่ง รวมทั้งแพอีกแห่งที่อยู่ใกล้เคียงมีนักเรียนกำลังเต้นอย่างสนุกสนาน เป็นนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนในจังหวัดอุดรธานี ซึ่งโรงเรียนทั้ง 3 แห่ง มีคณะครูนำนักเรียนมาทัศนศึกษา นายอำนาจ กล่าวว่า ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่ทุกสถาบันการศึกษาต้องให้นักเรียนเตรียมตัวสอบปลายภาค ซึ่งครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องติวเข้มกวดวิชาให้นักเรียนก่อนสอบ แต่ครูกลับนำเด็กมาจัดกิจกรรมบนแพเธค ซึ่งไม่สมควรอย่างยิ่ง ดังนั้น ต้องรายงานพฤติกรรมของครูทั้งหมดต่อกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อพิจารณาสั่งลงโทษครูตามระเบียบของทางราชการอย่างเฉียบขาด เพราะคนที่เป็นพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ของชาติไม่ควรแม้แต่จะคิดจัดกิจกรรมเช่นนี้ เป็นการสร้างปัญหาให้สังคมอย่างมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบพบแพเธคบางแห่ง มีกลุ่มวัยรุ่น 20 - 30 คน

อายุประมาณ 15 - 18 ปี จากจังหวัดใกล้เคียง รวมตัวกันเช่าแพเธคทำกิจกรรมตามลำพัง โดยไม่มีผู้ปกครองหรือผู้ใหญ่บนแพ ซึ่งเสี่ยงต่อการทำกิจกรรมมั่วสุม สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากกลุ่มวัยรุ่นไม่สามารถใช้บริการเธคบนบกได้ จึงหลีกเลี่ยงมาใช้บริการแพเธคซึ่งไม่ได้จำกัดอายุผู้ใช้บริการ และหลบการตรวจตราของเจ้าหน้าที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายอำนาจนำคณะตรวจแพเธคดังกล่าว ก็ได้ประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมทั้งนายกสมาคมชาวเรือชาวแพกาญจนบุรี ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เพื่อร่วมกันหารือมาตรการแก้ไขปัญหา