จับแล้วโจรโหด ฆ่าเผาแม่-ลูกปล้นพระ สมเด็จ หลายล้าน

กองปราบฯ-ตร.ปากเกร็ดบุกจับคนร้ายร่วมแก๊งอุ้ม"แม่-ลูก"จากนนทบุรีไปฆ่าเผาที่ชัยภูมิ

เผยเหยื่อเป็นเศรษฐินีเจ้าของอพาร์ตเมนต์วัย 74 ปี กับลูกชายอายุ 55 ปี โดนแก๊งคนร้ายบุกเข้าไปอุ้มถึงในบ้านพักแล้วฆ่าทิ้งเมื่อกลางปี"50 เอาศพไปให้สัปเหร่อเผาที่ชัยภูมิ ตร.เพิ่งตามจับได้ที่สมุทรสาคร แฉปมสังหารชิงทรัพย์พระสมเด็จวัดระฆัง 2 องค์ที่เหยื่อห้อยคอมูลค่า 16 ล้านบาท โดย"ไอ้เชาว์"เป็นหัวหน้าแก๊งนำทีม 7 ลูกน้องเป็นหญิง 4 ชาย 3 ทำทีเป็นติดต่อขอซื้อพระสมเด็จฯ พอเหยื่อเผลอก็ใช้ค้อนทุบหัวตายทั้งคู่แล้วแบกศพไปเผาอำพราง ออกหมายจับแล้วทั้งแก๊ง จับได้แล้ว 4 ยังเหลืออีก 3 รายรวมทั้งไอ้เชาว์ที่ยังหลบหนีอยู่

เมื่อวันที่ 31 ม.ค.

ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป. สั่งการให้พ.ต.อ.ประยนต์ ลาเสือ รองผบก.ป. พ.ต.อ.ชัยทัต บุญขำ ผกก.ปพ.บก.ป. พ.ต.ท.สุริยา อยู่แพทย์ รองผกก.ปพ.บก.ป. พ.ต.ต.อดิเรก ทองแกมแก้ว พ.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ร.ต.อ.ชนะเทพ สวนแก้ว สว.ปพ.บก.ป. ร.ต.อ.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา รองสว.ปพ.บก.ป. ร่วมกับตำรวจสภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จับกุมนายธานี หรือยอด ซ่อนกลิ่น อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93/1 หมู่ 10 ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี เลขที่ 955/2550 ลงวันที่ 2 ก.ย.50 ในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ

โดยตำรวจจับกุมนายธานี หรือยอด ได้ที่โรงอาหารด้านหน้าบริษัท เอเชียคอมแพ็ค จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 16/2 หมู่ที่ 1 ถนนธนบุรี ปากท่อ ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ กล่าวว่า

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ส.ค.2550 นายธานี หรือยอด ร่วมกับพวกอีก 3-4 คนที่ยังหลบหนีร่วมกันปล้นทรัพย์และรุมทำร้ายนางรัชนี ธีระชิต อายุ 74 ปี เศรษฐินีเจ้าของอพาร์ตเมนต์และคอนโดมิเนียมให้เช่า กับนายธีระศักดิ์ ธีระชิต อายุ 55 ปี อดีตนายช่างใหญ่กรุงเทพฯ ลูกชาย และทั้งสองยังเป็นมารดาและพี่ชายของนายอานันท์ ธีระชิต อัยการผู้เชี่ยวชาญประจำสำนักอัยการเขต 5 จ.เชียงใหม่ เสียชีวิตภายในบริเวณบ้านของนางรัชนี ตั้งอยู่เลขที่ 34/1 หมู่ 1 ซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 41 (ศรีตะบันต์) ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

ผู้การฯกองปราบฯ กล่าวว่า

จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้นำศพของคนทั้งสองขึ้นรถตู้ไปเผาทำลายที่เมรุวัดใหม่หนองโสน บ้านห้วยดอนยาว หมู่ 6 ต.หนองบัวโคก อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนติดตามจับกุมนายบุญส่ง สิงห์ครอง อายุ 61 ปี สัปเหร่อวัดใหม่หนองโสน ได้ในเวลาต่อมา หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ร่วมกับฝ่ายสืบสวนภ.จว.นนทบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ร่วมกันสืบสวนหาแนวทางการติดตามคนร้ายและประเด็นสังหาร ช่วงแรกมุ่งไปที่ประเด็นความขัดแย้งส่วนตัวระหว่างคนตายกับสาวทอมคนหนึ่งที่มาติดพันลูกสาวของนางรัชนี

พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ กล่าวว่า

ต่อมาทีมงานตำรวจกองปราบปรามได้ลงพื้นที่ร่วมสืบสวนกับตำรวจสภ.ปากเกร็ด เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม กระทั่งพบประเด็นใหม่พุ่งเป้าไปที่ประเด็นของการชิงทรัพย์พระสมเด็จวัดระฆังมูลค่าหลายล้านบาทที่นายธีระศักดิ์ห้อยคออยู่ เนื่องจากเป็นรุ่นที่เป็นที่ต้องการของตลาดพระเครื่อง อีกทั้งพฤติกรรมของคนร้ายนั้นพบว่าในวันเกิดเหตุมุ่งทำร้ายนายธีระศักดิ์ก่อน ส่วนนางรัชนีถูกทำร้ายภายหลังเมื่อเข้ามาเห็นเหตุการณ์แล้ว ตำรวจจึงสืบสวนสอบสวนจนกระทั่งทราบว่าเป็นฝีมือของนายธานี หรือยอด กระทั่งติดตามจับกุมได้ในที่สุด นอกจากนี้ยังสั่งการให้ตำรวจกองปราบฯ ออกติดตามคนร้ายที่เหลือให้ได้โดยด่วน

จากการสอบสวนนายธานี ให้การปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุในครั้งนี้

แต่ยอมรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับหมายจับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำเบื้องต้นจึงนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวนสภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี สอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สำหรับผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ในขณะนี้เจ้าหน้าที่รู้ตัวหมดแล้วว่ามีใครบ้าง ซึ่งจะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่ออนุมัติต่อศาลออกหมายจับต่อไป

รายงานข่าวเปิดเผยว่า

จากการสืบสวนสอบสวนของตำรวจหลังจากที่จับนายบุญส่ง สิงห์ครอง อายุ 61 ปี สัปเหร่อวัดใหม่หนองโสน ขณะกำลังเผาศพของนางรัชนี กับนายธีระศักดิ์ ในเมรุของวัดดังกล่าว ซึ่งนายบุญส่งให้การซัดทอดว่าผู้ที่นำศพทั้งคู่มาจ้างให้เผาก็คือนายเชาว์ มาขุนทด อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นญาติกัน จากนั้นตำรวจออกหมายจับนายเชาว์ พร้อมด้วยคนร้ายร่วมแก๊งอีก 7 คน ประกอบด้วย น.ส.นุสรา หรือนุส ก้อนเจริญ อายุ 37 ปี น.ส.อัญชลี หรืออ้น โพธิทอง อายุ 27 ปี นายประวิท หรือต่อ เกตสกุล อายุ 43 ปี นายสันติ หรือใหม่ จำนงผล อายุ 23 ปี น.ส.จารุวรรณ ธรรมลังกา อายุ 23 ปี น.ส.รัตนา แสนขัน อายุ 23 ปี และนายธานี หรือยอด ซ่อนกลิ่น และสามารถจับกุมได้แล้ว 4 คนคือนายสันติ หรือใหม่ ซึ่งเป็นคนขับรถตู้ น.ส.จารุวรรณ น.ส.รัตนา คนดูลาดเลา และนายธานี หรือยอด

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่านายเชาว์ เป็นหัวหน้าแก๊ง โดยนายเชาว์มีอาชีพรับจ้างทวงหนี้

และรู้จักกับนายธีระศักดิ์ ผู้ตาย ซึ่งนายเชาว์กับน.ส.นุสรารู้ว่านายธีระศักดิ์ห้อยพระสมเด็จวัดระฆัง 2 องค์ จึงวางแผนเข้าปล้นพระ โดยทำทีเป็นติดต่อขอซื้อพระสมเด็จองค์ละ 8 ล้านบาท รวม 2 องค์ 16 ล้าน โดยวันเกิดเหตุนายเชาว์ นายธานี และน.ส.นุสราเข้าไปพบนายธีระศักดิ์ที่บ้านพัก ทำทีเป็นขอดูพระสมเด็จทั้ง 2 องค์ นายเชาว์ฉวยโอกาสที่นายธีระศักดิ์เผลอ ใช้ค้อนทุบหัวจนแน่นิ่ง บังเอิญช่วงนั้นนางรัชนีเข้ามาเจอพอดีเลยโดนฆ่าอีกศพ จากนั้นจึงช่วยกันแบกศพแม่ลูกขึ้นรถตู้ไปทิ้งไว้ที่บ้านพักของนายเชาว์ที่จ.นครราชสีมา 1 คืน พอวันรุ่งขึ้นก็เอาศพไปให้นายบุญส่งเผาที่จ.ชัยภูมิ แต่มีพระมาเห็นเสียก่อนเรื่องเลยแดง ต่อมาตำรวจตามจับนายสันติ น.ส.จารุวรรณ น.ส.รัตนา ได้ตามลำดับ และจับกุมนายธานีได้เป็นรายล่าสุด ส่วนนายเชาว์ น.ส.นุสรา น.ส.อัญชลี และนายประวิท ยังอยู่ระหว่างการหลบหนีไปบ้านเชาว์ที่โคราช