จากการค้นหาพบผู้รอดชีวิตทั้งสิ้นจำนวน 8 คน
เป็นชาย 6 คน หญิง 2 คน ซึ่งหลังจากเกิดอุบัติเหตุเรือล่ม ต่างพากันว่ายน้ำหนีออกจากเรือเพื่อขึ้นฝั่ง เจ้าหน้าที่ได้นำร่างสะบักสะบอมผู้รอดชีวิตซึ่งเป็นผู้หญิง 2 คน นำส่งร.พ.นครพนม เพื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนแพทย์อนุญาตให้ญาติพากลับบ้าน ส่วนผู้ชายที่รอดชีวิตเจ้าหน้าที่ได้นำ ตัวไปควบคุมไว้ที่โรงพักสภ.บ้านกลางเป็นการชั่ว คราว เนื่องจากเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเวียดนามที่ลักลอบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
สวบสวนทราบว่า
แรงงานชาวเวียดนามจำนวนทั้งหมด 23 คน เป็นหญิง 10 คน ชาย 13 คน เดินทางกลับจากทำงานที่กทม. เพื่อจะกลับภูมิลำเนาที่จ.วินห์ ฮาตินห์ และเงอาน ซึ่งลักลอบนั่งรถบัสโดยสารมาลงปลายทางที่บ.ข.ส.นครพนมในกลางดึก เช่าเหมารถเพื่อไปลงเรือข้ามฟากไปยังประเทศลาว ก่อนเดินทางกลับบ้านเพื่อไปร่วมฉลองเทศกาลตรุษจีนกับญาติพี่น้อง
ระหว่างที่ลงเรือหาปลาเพื่อข้ามฝั่ง ปรากฏว่า
เรือบรรทุกน้ำหนักมาก ประกอบกับมีสัมภาระเต็มลำ เมื่อแล่นออกจากฝั่งไทยได้ประมาณ 150 เมตร ก่อนจะถึงชายหาด บ.นาดินจี่ แขวงคำม่วน สปป.ลาว ซึ่งอยู่ห่างแค่ 100 เมตร น้ำทะลักเข้าท้องเรือเป็นเหตุให้เรือล่มดังกล่าว
นายทิน บุญทองเทิง อายุ 30 ปี ชาวบ้าน บ.บัว หมู่ 4 ที่ออกเรือไปช่วยค้นหาผู้รอดชีวิตกล่าวว่า หลังเรือล่มตนได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากริมฝั่ง จึงวิ่งไปดู ก่อนโทรศัพท์แจ้งให้นายสมหวาน คำใบ ผู้ใหญ่บ้านบ.บัว หมู่ 4 ออกประกาศเสียงตามสาย ก่อนจะร่วมกันนำเรือหาปลาติดเครื่องยนต์ 3 ลำ แล่นไปช่วยผู้รอดชีวิตกลางแม่น้ำโขง ซึ่งผู้ประสบเหตุส่วนหนึ่งว่ายน้ำหนี บางคนว่ายมาเกาะในกระชังปลา และส่วนหนึ่งว่ายมาเกาะเรือ พบว่ารอดตายได้ทั้งหมด 8 คน ส่วนที่เหลือยังสูญหายและยังไม่ทราบชะตากรรม ส่วนข้าวของและสัมภาระไหลไปตามน้ำหมด
ด้านนายยุ้ง ดิ่งซ้วนยุ่ง อายุ 27 ปี หนึ่งในแรงงานต่างด้าวชาวเวียดนามที่รอดชีวิตกล่าวว่า
ลักลอบหลบหนีไปทำงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในกทม.ได้ 9 เดือน นัดกับเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน 4-5 คน และเพื่อนชายหญิงที่อยู่จ.ฮาติงห์ ที่ไปทำงานอยู่จ.นครปฐม และเพื่อนที่ทำงานในจ.นคร พนม มาเจอบริเวณที่จะลงเรือทั้งหมด 23 คน เพื่อจะกลับไปบ้านเพื่อฉลองเทศกาลตรุษจีน และนำเงินไปให้ครอบครัว
"ขณะลงเรือผมบอกกับคนเรือชาวไทยซึ่งได้ค่าแรงไป-กลับจนถึงฝั่งลาวหัวละ 5,000 บาท ว่าเรือคงไปไม่ได้รอด แต่คนขับเรือบอกไปได้ พอเรือแล่นออกจากฝั่งมากลางแม่น้ำโขง ประกอบกับมีลมแรงน้ำไหลทะลักเข้าสู่ท้องเรือ เป็นเหตุให้เรือเอียงซ้าย ก่อนจะล่มและอับปาง ทุกคนต่างกระโดดหนีเอาตัวรอดและว่ายน้ำเข้าฝั่งมา ส่วนเพื่อนๆ ที่มาด้วยยังไม่ทราบชะตากรรม" นายยุ้งกล่าว
เวลา 08.00 น.วันเดียวกัน ชาวบ้านยังช่วยกันออกค้นหาผู้ที่คาดว่าจะรอดชีวิต โดยมีนายประพันธ์ โด่งดัง ปลัดอำเภอเมืองนครพนม เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และสั่งการให้กำนันผู้ใหญ่บ้านแจ้งให้ลูกบ้านและชาวประมงที่อยู่ท้ายน้ำบริเวณบ.หนาด บ.กลาง เฝ้าดูริมตลิ่งถ้าพบผู้รอดชีวิต หรือพบศพให้รีบรายงานให้ทางอำเภอและเจ้าหน้าที่ทราบเป็นการด่วน
ต่อมาในเวลา 10.30 น. นายคำดี คำใบ อายุ 64 ปี ชาวบ้าน บ.บัว หมู่ 3 ซึ่งกำลังลากอวนหาปลาในน้ำโขง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 ก.ม. ขณะลากอวนพบศพเพศหญิง 2 คน ติดอยู่จึงลากเข้าฝั่งบริเวณริมตลิ่งหน้าวัดป่าบ้านบัว หมู่ 4 ต.ดงขวาง พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ
เจ้าหน้าที่ชันสูตรเบื้องต้นพบว่าเป็นหญิงอายุระหว่าง 25-30 ปี ศพแรกสวมเสื้อยืดสีชมพู ใส่เสื้อยีนส์สีน้ำเงินทับ สวมกางเกงยีนส์สีดำ ศพที่ 2 ใส่เสื้อยืดแขนยาวสีขาวคาดแดง สวมกางเกงยีนส์สีดำ สภาพศพหน้าขาวซีด ริมฝีปากดำคล้ำ มือหงิกงอ คาดว่าเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 ชั่วโมง จึงนำร่างขึ้นฝั่งเพื่อรอให้แพทย์ชันสูตรอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า
ภายหลังเพื่อนชาย 6 คน อายุระหว่าง 25-30 ปี ที่ถูกคุมขังในสภ.บ้านกลาง ทราบข่าวว่าพบศพเพื่อนหญิง ต่างร้องห่มร้องไห้เสียงระงมดังลั่นโรงพัก โดยมีญาติส่วนหนึ่งเดินทางมาให้กำลังใจ
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ยังไม่ลด ละความพยายามที่จะค้นหาผู้เสียชีวิต ล่าสุดพบศพที่ 3 เป็นชาย ทำให้ยอดผู้สูญหายที่คาดว่าเสียชีวิตอีก 12 ราย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
