โจรปล้นทองสิ้นคิด โดดแม่น้ำ-ว่ายหนี!?! ตร.ยิ้มนั่งรอจับอีกฝั่ง

ช่วงนี้มีเหตุโจรบุกปล้นร้านทองเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน

ยิ่งราคาทองไม่อยู่นิ่งพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งยั่วน้ำลายเหล่ามิจฉาชีพให้คิดลงมือปล้นทองกันมากเพราะทำแล้วคุ้มค่าเหนื่อยร้านทองจึงกลายเป็นแหล่งทำมาหากินของคนร้ายไปโดยปริยาย

เหมือนกับรายของนายชาญณรงค์ หรือ "จอย" ประดับศรี

ช่างทำกระจกและเหล็กดัด วัย 24 ปี ที่ตัดสินใจเป็นโจรปล้นทองบุกเดี่ยวใช้ท่อนเหล็กเพลารถยนต์เป็นเครื่องทุ่นแรง ทุบตู้ทองในร้านทองกลางเมืองอุตรดิตถ์ หยิบเอาทองคำมูลค่า 8 บาทติดมือหลบหนีไปแต่ด้วยความที่เป็นโจรมือใหม่บวกกับความตื่นเต้น พอปล้นเสร็จจึงไม่รู้จะหนีไปทางไหน สุดท้ายจึงตัดสินใจกระโดดลงแม่น้ำน่านหวังว่ายน้ำข้ามฝั่งหลบหนีไป แต่ทว่างานนี้ตำรวจไม่ขอเปียกด้วย จึงแบ่งกำลังอีกชุดขับรถข้ามฝั่งไปนั่งรอจับคนร้ายอยู่ริมตลิ่งอย่างสบายใจ

ริเป็นโจรก็ต้องเข้าคุกจนได้!!

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นตอนเที่ยงวันที่ 11 ม.ค. ร.ต.ต.เอกพงศ์ ปริษาวงศ์ ร้อยเวรสภ.เมืองอุตรดิตถ์ รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ห้างทองน้ำหนักเต็มเยาวราช เลขที่ 1 ถ.เพลินฤดี ตลาดเทศบาล 4 ต.ท่าอิฐ คนร้ายได้ทองคำรูปพรรณไปจำนวนหนึ่ง หลังรับแจ้งจึงรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.อ.สมพงษ์ เรืองประไพ ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและเจ้าหน้าที่วิทยาการ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าร้านทองดังกล่าวตั้งอยู่ริมถนน

ประตูเลื่อนด้านหน้าซึ่งเป็นกระจกถูกทุบแตกกระจาย ที่พื้นพบท่อนเหล็กซึ่งเป็นเพลารถยนต์ น้ำหนักประมาณ 2-3 กิโลกรัม ยาวประมาณ 9-10 นิ้วตกอยู่ ด้านในร้านเป็นตู้โชว์ทองรูปพรรณซึ่งมีทั้งด้านหน้า และติดผนังถูกคนร้ายทุบแตกกระจายเช่นกัน มีทรัพย์สินเป็นสร้อยทองรูปพรรณ หนัก 1 สลึงและ 2 สลึงหายไปจำนวนหนึ่ง

ในที่เกิดเหตุพบนายธเนศณัฏฐ์ วุฒิชัยอภิรมณ์ อายุ 33 ปี เจ้าของห้างทองน้ำหนักเต็มเยาวราช พร้อมด้วยนางณัฏฐ์ปัณชญา กุนทรยุพารัตน์ ภรรยา ยืนตัวสั่นรอให้การกับเจ้าหน้าที่

ว่าถูกคนร้ายแต่งกายด้วยชุดสีดำ สวมหมวกไหมพรม บุกเดี่ยวเข้ามาในร้านและทุบตู้ทองรูปพรรณ ก่อนจะกวาดเอาทองรูปพรรณแล้ววิ่งหลบหนีไปทางลานอเนกประสงค์เทศบาลริมน้ำน่าน ห่างจากร้านประมาณ 200 เมตร โดยมีพลเมืองดีวิ่งไล่ตามไปติดๆ

เจ้าหน้าที่วิเคราะห์เหตุการณ์แล้วมั่นใจว่าหมอนี่ไม่ใช่โจรอาชีพแน่นอน

เพราะไม่มีอาวุธอะไรติดตัวมามีเพียงเหล็กเพลารถยนต์ที่ใช้ทุบตู้เอาทองเท่านั้น นอกจากนี้ ยังลนลานวิ่งหนีออกจากร้าน โดยไม่กลับไปใช้มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า สีขาวแดง หมายเลขทะเบียน ต-8130 อุตรดิตถ์ ยานพาหนะที่จอดทิ้งไว้ข้างร้านเตรียมหลบหนี พอได้ทองก็วิ่งหน้าตั้งอย่างไม่คิดชีวิต มุ่งหน้าไปที่ริมแม่น้ำน่านซึ่งอยู่ใกล้ร้านทองทันที

รายการตำรวจจับผู้ร้ายจึงเริ่มขึ้น

พ.ต.อ.สมพงษ์ สั่งระดมชุดสืบสวนชุดสายตรวจและชุดปราบปรามสภ.เมืองอุตรดิตถ์หลายสิบนาย กระจายกำลังไล่ตามคนร้ายไปติดๆ ซึ่งในห้วงนั้นตำรวจเห็นหลังคนร้ายไวๆ วิ่งเลาะริมน้ำน่านไปอย่างไม่คิดชีวิต

นาทีนั้นนายชาญณรงค์คงคิดไม่ออกว่าจะหนีไปทางไหนดี จึงหันรีหันขวางก่อนตัดสินใจกระโจนลงแม่น้ำน่าน

แล้วกัดฟันว่ายข้ามฝั่งอย่างไม่คิดชีวิตรวมระยะทางกว่า 200 เมตรเลยทีเดียว โดยมีตำรวจตะโกนให้ว่ายกลับมามอบตัว ก่อนที่จะหมดแรงตายเสียก่อน แต่ทว่านายชาญณรงค์ก็ยังแข็งใจว่ายต่อไป เจ้าหน้าที่จึงแบ่งกำลังอ้อมไปยังฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านปากคลอง ต.ป่าเซ่า เพื่อรอให้หมอนี่ว่ายเข้าฝั่งอย่างเย็นใจ

พอถึงฝั่งปุ๊บก็ถูกจับปั๊บ!!

จากการตรวจค้นตัวนายชาญณรงค์ พบสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง และ 50 สตางค์ ซุกซ่อนไว้ในกระเป๋ากางเกงจำนวน 16 เส้น

และแหวนทองหนัก 1 สลึง 2 วง รวมน้ำหนักทองคำทั้งหมด 8 บาท 50 สตางค์ คิดเป็นเงิน 121,550 บาท จึงอายัดตัวไว้ นำตัวกลับไปสอบปากคำที่สภ.เมืองอุตรดิตถ์

จากการสอบปากคำทราบว่า

หมอนี่มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 48/5 หมู่ 5 ต.งิ้วงาม อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ มีอาชีพรับจ้างทำกระจกและช่างเหล็ก สำหรับการบุกปล้นทองครั้งนี้นายชาญณรงค์อ้างว่าต้องการเงินไปซ่อมแซมบ้านให้เมีย แต่ไม่รู้ว่าจะหาเงินได้จากที่ไหน เลยตัดสินใจบุกเดี่ยวปล้นทอง โดยก่อนหน้านี้ขับมอเตอร์ไซค์วนเวียนหาทำเลอยู่นาน ก็ไม่มีร้านใดปลอดคนเท่าร้านนี้ เพราะมีเพียงเจ้าของร้าน 2 คนผัว-เมียเฝ้าร้านอยู่ จึงตัดสินใจปล้น โดยจอดมอเตอร์ไซค์ทิ้งไว้ใกล้ๆ หวังว่าปล้นเสร็จจะกลับมาขับมอเตอร์ไซค์หลบหนี

แต่พอเอาจริงๆ เกิดตกใจคิดอะไรไม่ออกจึงวิ่งหนีไปเรื่อยๆ

"ผมวิ่งมาถึงริมแม่น้ำน่าน ก็ไม่รู้จะหนีไปไหนต่อ เพราะมีทั้งตำรวจและชาวบ้านวิ่งไล่ตามมาติดๆ สุดท้ายจึงตัดสินใจกระโดดน้ำหวังว่ายข้ามฝั่งไป รอดไม่รอดค่อยว่ากันอีกครั้งหนึ่ง นาทีนั้นต้องหนีไว้ก่อน พอว่ายมาได้ครึ่งทางก็คิดในใจว่าไม่รอดแน่ เพราะเห็นตำรวจไปนั่งรออยู่ฝั่งตรงข้าม จึงยอมจำนนแต่โดยดี" นายชาญณรงค์ กล่าว

และย้ำว่า เข็ดจนตายไม่เอาอีกแล้ว!!

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่นำตัวนายชาญณรงค์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ห้างทองน้ำหนักเต็มเยาวราช ตั้งแต่นาทีขับรถวนเวียนดูทำเลร้านทองและตอนบุกปล้นทองรวมทั้งตอนหลบหนี ท่ามกลางสายตาชาวบ้านที่มามุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก ก่อนที่จะนำตัวคนร้ายกลับมาดำเนินคดีในข้อหาชิงทรัพย์ต่อไป

คิดหาเงินง่ายๆ ก็ต้องเข้าคุกง่ายๆ เช่นกัน

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์