เหตุการณ์พิลึกพิลั่น แม่เฒ่าจะไปขอใช้บัตร 30 บาท กลับโดนปฏิเสธเพราะว่ามีชื่อเป็นคนที่ตายไปแล้ว
ตรวจสอบพบตัวการเป็นลูกสาวของแม่เฒ่าเอง ดำเนินการแจ้งตายแม่ พร้อมออกใบมรณบัตรเรียบร้อยแล้ว ก่อนทิ้งแม่ให้อยู่กระท่อมซอมซ่อคนเดียว ทั้งยังป่วยเป็นอัมพาตเดินไม่ได้ ลูกชายอีกคนกลับบ้านมาถึงรู้ว่าแม่ถูกน้องทิ้งไปแล้ว ทั้งยังทำเรื่องแจ้งตายแม่ไว้อีกต่างหาก ทางด้านเทศบาลนครเชียงใหม่วุ่น จัดการจำหน่ายใบมรณบัตร พร้อมคืนสภาพคนมีชีวิตให้แม่เฒ่า
เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่ามีหญิงชรารายหนึ่งเข้ามาขอทำบัตรประจำตัวประชาชนที่สำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่
แต่ปรากฏว่าในข้อมูลทะเบียนราษฎร ระบุว่าหญิงชราคนดังกล่าวเสียชีวิตไปแล้ว จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบกับนายยงยุทธ อุ่ยประภัสสร รองปลัดเทศบาลนครเชียงใหม่ นายยงยุทธกล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องจริง หญิงชราดังกล่าวชื่อนางแก้ว จันทร์ฤทธิ์ อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 ต.ป่าตัน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ขณะนี้ป่วย ฐานะที่บ้านยากจน จะไปขอใช้สิทธิ์รักษา 30 บาททุกโรคที่โรงพยาบาล แต่ไปทำการรักษาไม่ได้ เพราะว่ามีข้อมูลแจ้งไว้ว่าเสียชีวิตแล้ว
นายยงยุทธกล่าวว่า ต่อมามีนายสุวรรณ จันทร์ฤทธิ์ อายุ 45 ปี ลูกชายของนางแก้ว
เข้ามายื่นคำร้องที่สำนักงานทะเบียนท้องถิ่น เทศบาลนครเชียงใหม่ แขวงนครพิงค์ ว่านางแก้วยังมีชีวิตอยู่ และไม่ได้เสียชีวิตตามใบมรณบัตรเลขที่ 03-50073884 ออกให้โดยสำนักทะเบียนอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2542 โดยมีนางสุทัด จันทร์ฤทธิ์ ลูกสาวนางแก้วเป็นผู้แจ้งการตาย เพียงแต่ขณะนี้เป็นอัมพาตและไม่สบายเท่านั้น จึงอยากทำบัตรประจำตัวประชาชนให้ใหม่ เพื่อจะได้ไปรักษาตัวได้
รองปลัดเทศบาลนครเชียงใหม่กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งร้องเรียนแล้ว จึงตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีการออกใบมรณบัตรจริง
จากนั้นจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านของนางแก้ว เพื่อดูว่ายังมีชีวิตอยู่ตามที่นายสุวรรณมายื่นคำร้องจริงหรือไม่ เมื่อไปถึงพบนางแก้วอยู่ภายในบ้านที่มีลักษณะโทรมและค่อนข้างเก่า เมื่อดูแล้วเห็นว่ามีชีวิตอยู่จริง เพียงแต่ไม่สบายและเป็นอัมพาตเดินไม่ได้เท่านั้น ทางสำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลนครเชียงใหม่จึงรีบทำหนังสือประสานไปยังสำนักทะเบียนอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อจำหน่ายใบมรณบัตร และทำหนังสือไปยังสำนักทะเบียนกลาง เพื่อคืนสภาพบุคคล เนื่องจากยังมีชีวิตอยู่ และทำบัตรประจำตัวประชาชนให้นางแก้วใหม่อีกครั้ง
สลดแม่อัมพาต โดนลูกแจ้งตาย
ด้านนายสุวรรณลูกชายนางแก้วกล่าวว่า มีพี่น้อง 4 คน ตนเป็นคนที่ 3
ก่อนหน้านี้ไปรับจ้างทำงานอยู่ที่ต่างจังหวัด เพราะเข้าใจว่าแม่คงจะอยู่อย่างสบาย เนื่องจากมีน้องสาวคนสุดท้องคือน.ส.สุทัด จันทร์ฤทธิ์ เป็นคนดูแลอยู่ จนกระทั่งเมื่อประมาณปีพ.ศ.2547 เดินทางกลับมาบ้าน ต้องตกใจ เมื่อเห็นสภาพแม่ที่ต้องนอนอยู่ในบ้านแบบโทรมๆ และไม่มีใครดูแล ส่วนน้องสาวไม่อยู่ ทั้งที่แม่ไม่สบายเดินไม่ได้ ถามแม่ก็ทราบว่าน้องสาวหายออกจากบ้านไปนานแล้ว ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร ทุกวันนี้ก็อยู่ไปวันๆ เผชิญชะตาชีวิตที่ลำบาก รับจ้างเล็กน้อยๆ เพื่อให้มีกินไปวันๆ บางวันจะมีเพื่อนบ้านนำข้าวและน้ำมาให้
นายสุวรรณกล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นและทราบว่าแม่ถูกแจ้งชื่อเสียชีวิตนั้น เพราะพาแม่ไปรักษาที่โรงพยาบาลจึงทราบว่าแม่ถูกแจ้งชื่อว่าเสียชีวิตแล้ว
โดยมีชื่อถูกจำหน่ายว่าตาย จึงมายื่นเรื่องที่เทศบาลนครเชียงใหม่ เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และขอบัตรประจำตัวประชาชนใหม่อีกครั้ง เพื่อยืนยันว่าแม่ไม่ได้เสียชีวิต จะได้มีสิทธิ์รักษา 30 บาททุกโรคในโรงพยาบาลได้ หลังจากยื่นหนังสือคำร้อง ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงใหม่เดินทางมาตรวจสอบที่บ้าน พร้อมทั้งตรวจสอบเรื่องการแจ้งใบมรณบัตร พบว่าคนที่ไปแจ้งคือน.ส.สุทัด โดยแจ้งว่าแม่เสียชีวิตด้วยสาเหตุติดเชื้อในกระแสเลือด กระทั่งเจ้าหน้าที่ออกใบมรณบัตรให้
นายสุวรรณกล่าวต่อว่า ไม่ทราบว่าทำไมถึงออกใบมรณบัตรได้
ทั้งที่มีขั้นตอนว่าต้องได้รับการยินยอมจากผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และถ้าเสียชีวิตผิดปกติต้องมีใบชันสูตรพลิกศพจากแพทย์มายืนยัน จึงจะสามารถออกใบมรณบัตรได้ แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนอำเภอแม่ริมก็ออกใบมรณบัตร ตามใบมรณบัตรเลขที่ 03-50073884 ทั้งที่แม่ยังมีชีวิตอยู่ และไม่ทราบว่าผ่านขั้นตอนต่างๆ มาได้อย่างไร
จากนั้นผู้สื่อข่าวตรวจสอบไปยังอ.แม่ริม สถานที่ออกใบมรณบัตร
พบกับนางอลงกรณ์ จันทร์กระจ่าง ปลัดอำเภอ นางอลงกรณ์โดยกล่าวว่า การออกใบมรณบัตรถูกต้องทุกประการ เพราะได้รับใบแจ้งรับรองการตายจากทางแพทย์ โรงพยาบาลนครพิงค์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ อีกทั้งผู้มาแจ้งเป็นลูกสาว จึงออกใบมรณบัตรให้ตามกฎหมาย ทางอำเภอก็ตรวจสอบไม่ได้ว่าใบรับรองการตายจากโรงพยาบาลนั้นออกโดยใคร เพราะเอกสารนานกว่า 8 ปีแล้ว และทำลายทิ้งไปหมดแล้ว
ด้านน.พ.ฉัตรชัย นพคูณรังษี ผู้ช่วยผอ.โรงพยาบาลนครพิงค์ เปิดเผยว่า
ทางโรงพยาบาลตรวจสอบเอกสารไม่ได้ จึงไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ออกใบรับรองการตายนี้ หรือผู้แจ้งตายปลอมขึ้นมาเองหรือไม่ เพราะเอกสารเก็บไว้นานสุด 5 ปีก็จะทำลายทิ้ง จึงตรวจสอบไม่ได้ว่าเอกสารรับรองการตายออกมาจากโรงพยาบาลนครพิงค์จริงหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงใหม่ ทำบัตรประจำตัวประชาชนให้นางแก้ว
และให้ทางที่ว่าการอำเภอแม่ริม จำหน่ายบัตรมรณภาพนางแก้วเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งส่งตัวนางแก้วไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์เชียงใหม่ต่อไป โดยทางโรงพยาบาลนครพิงค์เชียงใหม่ก็ทำบัตรประกันสุขภาพคนชราให้แก่นางแก้วด้วย