ศปถ.สรุปวันแรกส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ตายแล้ว 33 คน เจ็บ 478 เหตุเมาสุรา ซิ่งเกินกำหนด ตัดหน้ากระชั้นชิด
ที่นครปฐม ดื่มสุราขณะบรถชนท้ายปิกอัพ เสียหลักข้ามเกาะกลางถนนชนเก๋งดับ 5 สาหัส 3 ขณะที่หมอชิต 2-หัวลำโพง คนยังแน่น คาดแรงงานกลับบ้านเกิดวันนี้กว่า 1.5 หมื่นคน
บรรยากาศการเดินทางจากกรุงเทพฯ ออกต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งที่สถานีรถไฟหัวลำโพงและสถานีขนส่งหมอชิตยังคงหนาแน่น มีประชาชนเดินทางซื้อตั๋วอย่างต่อเนื่อง ทำให้การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เพิ่มขบวนรถอีก 3 ขบวน ขณะที่อุบัติเหตุบนท้องถนนยังเกิดขึ้นหลายราย ท่ามกลางการเฝ้าระวังจากภาครับอย่างเข้มงวด"หมอชิต2-หัวลำโพง"คนยังแน่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 ในเช้าวันที่ 29 ธันวาคม ยังคงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว โดยประชาชนเดินทางมารอซื้อตั๋วโดยสารทั้งสายเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือเป็นแถวยาวเหยียดตั้งแต่เช้ามืด ขณะที่การจราจรด้านหน้าสถานีทั้ง 2 ฝั่งหนาแน่น โดยเฉพาะบริเวณทางเข้า ส่งผลให้รถที่จะเข้ามารับผู้โดยสารเข้าไม่ทันตามกำหนดเวลา อย่างไรก็ตามทาง บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ยืนยันว่าสามารถระบายผู้โดยสารได้ทั้งหมดในเวลา 01.00 น. ส่วนที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ประชาชนทยอยเดินทางมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่คืนวันที่ 28 ธันวาคม ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)ได้เพิ่มขบวนรถในวันนี้อีก 3 ขบวน ในเส้นทางกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี และกรุงเทพฯ-อุดรธานี ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีผู้โดยสารมาก ขณะที่ตลอดทั้งวันจะมีรถไฟให้บริการทั้งหมด 153 ขบวน เชื่อว่าจะเพียงพอรองรับประชาชนที่คาดว่าจะมีจำนวนถึง 1.4-1.5 หมื่นคน ขณะที่อคืนที่ผ่านมาพบว่ามีประชาชนเดินทางถึง 2 หมื่นคน
7วันอันตรายตายแล้ว33
นายบัญญัติ จันทน์เสนะ รมช.มหาดไทย ในฐานะรอง ผอ.ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) แถลงสถิติผู้เสียชีวิต บาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2551 ประจำวันที่ 28 ธันวาคม ว่า มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 440 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 33 คน บาดเจ็บ 478 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดเกิดจากการเมาสุรา ร้อยละ 30.91 รองมาคือ ขับรถเร็วเกินกำหนดร้อยละ 23.41 และขับรถตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 15.91 ส่วนของยานพาหนะที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 82.55 รถปิคอัพ ร้อยละ 7.61 และรถนั่งส่วนบุคคล ร้อยละ 3.13 ทั้งนี้อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดในช่วงทางตรง ร้อยละ 53.64 และช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ 16.01-20.00 น. ร้อยละ 35.91
นายบัญญัติ กล่าวว่า จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดได้แก่ ราชบุรี จำนวน 3 คน รองมาจำนวน 2 คน มี 6 จังหวัด ได้แก่ จ.ระยอง ศรีสะเกษ เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ นครปฐม และนครศรีธรรมราช และเสียชีวิต 1 คน มีจำนวน 18 จังหวัด ส่วนจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตมี 51 จังหวัด จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครปฐม จำนวน 25 คน รองมาเชียงใหม่ 22 คน เชียงราย 18 คน ฉะชิงเทรา 16 คนและจังหวัดที่ไม่มีผู้บาดเจ็บ จำนวน 6 จังหวัด สำหรับจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด 23 ครั้ง ได้แก่ เชียงใหม่ รองมาเป็นนครปฐม 21 ครั้ง เชียงราย 16 ครั้งในส่วนจังหวัดที่ยังไม่มีการเกิดอุบัตเหตุมี 5 จังหวัด ได้แก่ ยโสธร อำนาจเจริญ หนองบัวลำภู พังงา และระนอง โดยผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นกลุ่มวัยทำงาน จำนวน 290 คน รองมาเป็นกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 19 ปี จำนวน 152 คน
"จากการเรียกตรวจตามมาตรการ 3 ม 2 ข 1 ร มีการเรียกตรวจ 1,000,390 คัน พบการกระทำผิดและดำเนินคดีจำนวน 29,706 ราย ร้อยละ 2.97 เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนยานพาหนะที่เรรียกตรวจพบว่า ไม่สวมหมวกนิรภัยสูงสุดร้อยละ 9.04 รองมา ได้แก่ ไม่มีใบขับขี่ ร้อยละ 3.48 และจักรยานยนต์ไม่ปลอดภัย ร้อยละ 3.22 สำหรับผู้กระ ทำ ผิดและถูกดำเนินคดีแต่ละมาตรการ ได้แก่ ไม่มีใบขับขี่สูงสุด ร้อยละ 37.17 รองมาเป็นกรณีไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 34.37 และไม่คาดเข้มขัดนิรภัย ร้อยละ 12.14 โดยมีการตั้งด่านจุดตรวจ รวม 2,931 จุดตรวจ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นกำลังหลักประจำจุดตรวจ รวม 82,570 คน" นายบัญญัติ กล่าว
รอง ผอ.ศปถ. กล่าวอีกว่า ได้สั่งการศูนย์ฯปฏิบัติการทุกจังหวัด และจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจเข้มงวดในการตรวจแอลกอฮอล์และตรวจจับความเร็ว รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชนที่ใช้เส้นทางทุกคนแจ้งเหตุมีผู้ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร สายด่วนทางหลวง 1193 และสายด่วนสาธารณภัย 1784 ได้ทุกเวลาห้ามรถบัสขึ้นดอยอินทนนท์
ด้าน นายประจญ ปรัชญ์สกุล ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ 2551 ซึ่งเป็นวันหยุดยาวและเป็นช่วงรรรงค์ลดอุบัติเหตุ 7 วันอันตราย คือตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2550 - 3 มกราคม 2551 ในส่วนของ จ.เชียงใหม่นั้น คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังจำนวนมาก ประกอบกับช่วงเวลาดังกล่าวอากาศที่หนาวเย็นก็จะส่งผลให้นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ทางคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน จ.เชียงใหม่ ได้ประชุมปรึกษาหารือถึงมาตรการป้องกันอุบัติเหตุในช่วงเวลาดังกล่าว โดยในระยะเวลา 7 วันช่วงปีใหม่ จะไม่อนุญาตให้รถประจำทางและรถบัส 2 ชั้น หรือรถขนาดใหญ่ เดินทางไปขึ้นไปยังดอยอินทนนท์. ดอยสุเทพ, และดอยอ่างข่าง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรถที่มาจากต่างจังหวัดเนื่องจากเกรงว่าผู้ขับขี่ไม่มีความชำนาญเส้นทาง จนอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้
นายประจญ กล่าวอีกว่า ได้ขอความร่วมมือไปยังสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ จัดเตรียมรถรับจ้างขนาดเล็กในพื้นที่ไว้อำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว และมีการเตรียมพื้นที่จอดรถไว้รองรับจำนวนรถบัสขนาดใหญ่ไว้อีกด้วย อย่างไรก็ตามนอกจากมาตรการดังกล่าวแล้ว จ.เชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังได้ตั้งจุดตรวจบูรณาการจำนวน 140 จุด และมีจุดพักรถโดยสารทั้งขาเข้าและขาออกจาก จ.เชียงใหม่ ป้องกันอุบัติเหตุและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน อีกทั้งสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับวิทยาลัยเทคนิค 5 แห่งในเชียงใหม่นำนักเรียน นักศึกษา ออกบริการซ่อมตรวจสภาพรถฟรีตลอดช่วง 7 วันอันตราย
รถตู้หลับในเสยท้ายสิบล้อ
ที่ จ.ลำปาง เมื่อเวลา 04.00 น.วันที่ 29 ธันวาคม พ.ต.ท.ภาณุพันธ์ กันทะวงศ์ พนักงานสอบสวน สภ.สบปราบ จ.ลำปาง รับแจ้งอุบัติเหตุรถตู้ชนกับรถบรรทุกสิบล้อ เหตุเกิดบนถนนพหลโยธินสายตาก-ลำปาง ขาขึ้น หลัก กม.ที่ 562-563 ต.แม่กั๊วะ อ.สบปราบ จึงเดินทางไปตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเทศบาลตำบลสบปราบ ที่เกิดเหตุพบรถตู้โตโยต้า สีบรอนด์เงิน ทะเบียน นง 5027 นนทบุรี ติดสติกเกอร์ "รถรับส่งนักเรียน" ที่ประตูหลังรถ จอดแน่นิ่งอยู่กลางถนน โดยมีสภาพความเสียหายบริเวณด้านหน้ารถยุบทั้งแถบ ใกล้กันพบรถบรรทุกสิบล้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน 70-3564 กรุงเทพฯ จอดอยู่ด้านข้างถนน สภาพถูกชน อุบัติเหตุครั้งนี้ส่งผลให้ผู้โดยสารรถตู้บาดเจ็บ 11 ราย รวมทั้งนายกิตติ เงินประกายรัตน์ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48/177 ซอยรามคำแหง 104 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กทม. คนขับรถต่างร้องระงมขอความช่วยเหลือ เพราะประตูปิดล็อกสนิทไม่สามารถออกจากรถได้ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เหล็กและโซ่ดึงบานประตูออก จากนั้นจึงนำตัวทั้งหมดส่งโรงพยาบาลสบปราบในเวลาต่อมา
นายกิตติ คนขับรถตู้ ให้การว่า ขับรถพาครอบครัวและญาติเดินทางจากกรุงเทพฯ เพื่อไปเที่ยวปีใหม่ที่ จ.เชียงใหม่ กระทั่งมาประสบอุบัติเหตุที่บริเวณดังกล่าาว เนื่องจากขับรถระยะทางไกล ไม่ได้แวะหยุดพักผ่อน ทำให้เกิดมีอาการหลับในก่อนที่จะขับรถพุ่งชนท้ายรถบรรทุกสิบล้อที่ขับอยู่ด้านหน้า
ส่วน นายจีรศักดิ์ สาถั่ว อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 7 ต.มะมุ อ.กระบุรี จ.ระนอง คนขับรถบรรทุกสิบล้อ ให้การว่า ขับรถบนทุกสินค้าปุ๋ยอินทรีย์ยี่ห้อหนึ่งเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปส่งให้กับลูกค้า ที่ จ.ลำพูน เมื่อเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นเนินขึ้นเขาทางตรงระยะยาว ต้องใช้เกียร์ต่ำขับประคอง ขึ้นเขา ต่อมาถูกรถตู้คู่กรณีพุ่งชนจนรถได้รับความเสียหายรถแน่นถนนมิตรภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจราจรถนนมิตรภาพช่วงจาก จ.สระบุรี ถึงนครราชสี มาตั้งแต่คืนวันที่ 28 ธันวาคมถึงเช้าวันที่ 29 ธันวาคม หนาแน่นมีรถยนต์ทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถโดยสาร เดินทางกลับบ้านไปฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เป็นจำนวนมาก แต่รถยังสามารถเคลื่อนตัวไปได้ และติดขัดบ้างเป็นบางช่วงในเขตชุมชนและทางขึ้นลงเขา ส่วนตำรวจทางหลวง ตำรวจภูธรท้องที่และเจ้าหน้าที่ อปพร. ร่วมกันตั้งจุดบริการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรตลอดเส้นทางช่วง จ.สระบุรี ถึง อ.บัวลาย จ.นครราชสีมาปิกอัพประสานงาเก๋งดับ1เจ็บ5
เมื่อเวลา 03.25 น. วันที่ 29 ธันวาคม พ.ต.ท.พานิช อนุภาพประเสริฐ ร้อยเวร สภ.วังสะพุง จ.เลย รับแจ้งว่ามีเหตุรถยนต์ชนกับรถกระบะ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเหตุเกิดบนถนนสายวังสะพุง-ภูหลวง บริเวณโค้งหน้าป่าช้าจีน ต.วังสะพุง อ.วังสะพุง ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ยี่ฮอนด้าซิตี้ สีแดง หมายเลข กข.4632 เลย เสียชีวิต 1 คน มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บสาหัส 1 คนติดอยู่ในรถสภาพรถพังยับเยิน ทราบชื่อผู้เสียชีวิตอยู่ที่เบาะนั่งข้างคนขับ ชื่อนางดาวแข คำบุญยอ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 หมู่ 2 บ้านทรายขาว ต.ทรายขาว อ.วังสะพุง ส่วนคนขับรถยนต์ทราบชื่อ น.ส.อธิษนันท์ สุทธิโชติพัฒน์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 หมู่ 9 ต.วังสะพุง ได้รับบาดเจ็บสาหัสติดอยู่ในซากรถ
ส่วนรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน บต. 7156 เลย สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ภายในรถมีผู้บาดเจ็บสาหัสทั้งหมด 4 คน เจ้าหน้าที่นำตัวผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลวังสะพุง ประกอบด้วย นายสุวิน ทองแบบ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97 หมู่ 2 ต.เลยวังไสย์ อ.ภูหลวง จ.เลย คนขับรถกระบะ นางหนูหลั่น ศรีสวัสดิ์ อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 6 นางทองส่า คำยอด อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 151 และนางพิมพา ศรีชมพู อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 28 ทั้งหมดอยู่หมู่บ้านเดียวกัน
จากการสอบสวนทราบว่า น.ส.อธิษนันท์ หลังเสร็จจากการฉลองปีใหม่ได้ขับรถคันดังกล่าวไปส่ง น.ส.ดาวแข ผู้เสียชีวิตที่บ้านทรายขาว ขณะขับไปถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งและเกิดอุบัติเหตุเป็นประจำ ได้มีรถกระบะคันดังกล่าวมีนายสุวิน เป็นคนขับรถเพื่อพาญาติๆ ไปจ่ายกับข้าวที่ตลาดสดเทศบาล ต.วังสะพุง ขับสวนมา ทำให้รถทั้งสองคันได้พุ่งชนประสานงากันอย่างจัง ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าวดื่มขณะขับดับส่งท้ายปีเก่า5ศพ
เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 29 ธันวาคม ร.ต.อ.คเชนทร์ นิยมทอง ร้อยเวรสอบสวน ส ภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม รับแจ้งอุบัติเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสีย
ชีวิตที่หน้าปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งริมถนนเพชรเกษม กม. 46 จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการสอบสวนผู้พบเห็นเหตุการณ์ทราบว่า รถปิคอัพอีซูซุ รุ่นดีแมค 4 ประตู สีบรอนซ์ ทะเบียน ชต 5793 กทม. มีนายอลงกรณ์ กิจสะดวก อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75/1 หมู่ 1 ต.บ้านตาด อ.เมือง จ. อุดรธานี เป็นคนขับมาด้วยความเร็วสูงพุ่งเข้าไปชนท้ายรถกระบะ ยี่ห้อนิสสัน สีแดง ทะเบียน บร 9377 นครปฐม มีนายโสภณ เชื้อชาติ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลข ที่ 176/1 ม.2 ต.ดอนยายหอม อ.เมือง จ.นครปฐม เป็นคนขับ ทำให้นายโสภณบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนรถที่พุ่งชนท้ายเสียหลักข้ามเกาะกลางถนนไปชนเข้ากับรถยนต์โตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ษ ห- 5491 กทม. ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย คือ นายอลงกรณ์ กิจสะดวก นายศักดา เกษม นายสุเชาว์ พันมี นายภาคภูมิ เวบ้านแพ้ว และนายธิติ ละไมเสถียร ได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย คือ นายแก้ว ทรัพย์แสนดี นางรมณีย์ ทรัพย์แสนดี และนางสาวแคทรียา ทรัพย์แสนดี ทั้งนี้ จากการสอบสวนของตำรวจ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายอลงกรณ์ ได้ชวนเพื่อนไปเที่ยว จ.นครปฐม และดื่มสุราขณะขับรถมาตลอดทาง โดยพบขวดสุราอยู่ภายในรถด้วย