ปาหินรถคอลัมนิสต์กลางกรุง!

กระจกแตกกลางกรุง!วอนกวดขัน

แก๊งปาหินโผล่เมืองกรุงอีกรายคราวนี้คอลัมนิสต์ นสพ.บ้านเมือง ให้เมียขับรถเก๋งพากลับบ้านพักย่านดอนเมืองกลางดึก ขณะผ่านมาถึงที่เปลี่ยวบนถนนเกษตร-นวมินทร์ เจอคนร้ายวัยรุ่นซิ่ง จยย.คนละคันตามประกบก่อนจะขว้างก้อนหินใส่กระจกหน้ารถแตกกระจายจนเกือบเกิดอุบัติเหตุชนรถบรรทุกด้านซ้าย วอนตำรวจกวดขันระวังเหตุ จนท. ตั้ง 2 ปม ขัดแย้งงานเขียน-พฤติกรรมเลียบแบบ
 
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 27 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายธีระพงศ์ พุกกะจันทร

อายุ 51 ปี คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์บ้านเมือง และอดีตบรรณาธิการนิตยสารชีวิตต้องสู้ อยู่บ้านเลขที่ 77/3 หมู่ 5 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา ว่าเมื่อกลางดึกของคืนวันเดียวกัน ได้ถูกคนร้ายปาก้อนหินใส่กระจกรถเก๋งจนเสียหาย เหตุ เกิดบริเวณถนนประเสริฐมนูกิจ ขาเข้า (เกษตร-นวมินทร์) ใกล้กับสวนอาหารเกาะลันตา แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม ซึ่งขณะนี้รถยังจอดอยู่ที่เดิม จึงเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบนายธีระพงศ์ และนางอรุณวรรณา ไหลกูล อายุ 42 ปี ภรรยา ยืนอยู่ข้างรถเก๋งมิตซูบิชิ แลนเซอร์ สีเขียว ทะเบียน 5ฐ 4668 กรุงเทพมหานคร สภาพกระจกหน้ารถแตกร้าวทั้งบาน
 
นายธีระพงศ์เปิดเผยถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมาว่า

เวลาประมาณ 01.00 น. ขณะขับรถออกจากบ้านเพื่อนย่านบางกะปิ เพื่อกลับบ้านพักย่านดอนเมืองมาตามถนนเกษตร-นวมินทร์ โดยมีภรรยาเป็นผู้ขับขี่ พอถึงบริเวณสวนอาหารเกาะลันตา ซึ่งเป็นที่เปลี่ยวและมืด มีวัยรุ่น 2 คน สวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้น ขี่รถ จยย.แบบผู้หญิงคนละคัน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ไม่สวมหมวกนิรภัย มาประกบที่เลนขวาด้านข้างคนขับ แล้วเร่งเครื่องแซงขึ้นไป จากนั้นหนึ่งในวัยรุ่นได้ขว้างก้อนหินใส่กระจกรถของตน เกิดเสียงดังสนั่นก่อนที่กระจกจะร้าวไปทั้งบาน ภรรยาของตนต้องเหยียบเบรกกะทันหัน จนรถเกือบเสียหลักจะพุ่งชนรถบรรทุกที่วิ่งมาข้างด้านซ้าย พอตั้งสติได้ภรรยาได้ขับรถไปจอดข้างทาง เพื่อลงมาดูความเสียหาย ก็สังเกตเห็นวัยรุ่นที่ก่อเหตุจอดรถ จยย.รอดูก่อนจะเร่งเครื่องหลบหนีไป ตนจึงไปแจ้งความที่ สน.โคกคราม ไว้เป็นหลักฐานแล้ว ด้าน จนท.ตั้งสาเหตุไว้ 2 เรื่องคือเรื่องส่วนตัวเกี่ยวกับงานหนังสือพิมพ์ หรือเป็นพฤติกรรมเลียนแบบ ซึ่งจะได้สอบสวนต่อไป
 
“เหตุการณ์ในครั้งนี้ ผมไม่คาดหวังว่าจะจับคนร้ายได้

เพราะทั้งผมและภรรยาจำรูป พรรณคนร้ายได้ไม่ชัดเจนนัก แต่อยากให้เป็นอุทาหรณ์กับประชาชนที่ใช้เส้นทางบนถนนในกรุงเทพฯ ให้มีความระมัดระวังมากขึ้น พร้อมทั้งอยากขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกวดขันดูแลเรื่องแก๊งซิ่ง จยย.และแก๊งปาหินให้มากขึ้น เพราะถ้าหากภรรยาของผมขับรถมาคนเดียว อาจถูกคนร้ายเข้ามาชิงทรัพย์ หรืออาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นก็เป็นได้ ยิ่งช่วงนี้มีกระแสข่าวคนร้ายปาหินใส่รถเก๋งเพื่อชิงทรัพย์อยู่บ่อยครั้ง จนอาจเป็นแฟชั่นให้กลุ่มแก๊งซิ่งวัยรุ่นมีพฤติกรรมเลียนแบบตามมาอีก” คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์บ้านเมือง กล่าวตอนท้าย.