โจ๋เชียงใหม่เลียนแบบซิ่งปาหินขวดเบียร์คืนเดียว2ราย

โจ๋ปากระจกโผล่เชียงใหม่คืนเดียว 2 ราย ใช้ทั้งหิน-ขวดปาใส่ โชคดีแค่บาดเจ็บ ตำรวจล่าตัวมาดำเนินคดี หวั่นเป็นตัวอย่างวัยรุ่นเลียนแบบก่อเหตุ

คดีอาชญากรรมปากระจกที่สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินนับวันจะลุกลามขยายตัว สาเหตุทั้งจากความคึกคะนอง หวังชิงทรัพย์ แม้จะคุมเข้มจับผู้ต้องหามาดำเนินคดีแล้วหลายราย แต่ก็เกิดเหตุซ้ำซากขึ้นมาอีก ล่าสุดใช้ทั้งหินและขวดเบียร์ก่อเหตุ  พฤติการณ์เลียนแบบแก๊งปากระจกออกมาอาละวาดอีกแล้วครั้งนี้พัฒนาจากหินมาเป็นขวดเบียร์แทน เหตุเกิดเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 23 ธันวาคม พ.ต.ท.ชัยยุทธ เรืองนภาเพ็ญ พนักงานสอบสวน สภ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งเหตุมีรถกระบะถูกปาด้วยขวดเบียร์ได้รับความเสียหาย ที่หน้าตลาดมะจำโรง ถนนสายเชียงใหม่-ฮอด ต.ยุหว่า จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยสายตรวจ ที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้อมาสด้า สีขาว ทะเบียน บม 6526 เชียงใหม่ จอดอยู่ข้างทาง สภาพกระจกด้านหน้าแตกละเอียดทั้งบาน ส่วนกระโปรงหน้ารถมีรอยยุบ
    

นายสุริยาศิริ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 167 หมู่ 1 ต.ดอยแก้ว อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เจ้าของรถ เล่าว่า 

ขณะขับรถอยู่บนถนนสายดังกล่าว มุ่งหน้าเข้าสู่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ตามปกติ ก็มีชายวัยรุ่น 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ ซ้อนท้ายกันสวนทางมา และก่อนที่จะสวนทางกันคนซ้อนท้ายได้ชักขวดเบียร์ขว้างมาที่กระโปรงหน้ารถอย่างแรง จนกระเด็นถูกกระจกหน้าแตกเสียหาย โชคดีที่ขับรถไม่เร็วมาก ทำให้ยังควบคุมรถหักหลบเข้าทางได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนวัยรุ่นทั้งสองขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปในความมืดอย่างรวดเร็ว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะตำรวจกำลังสอบปากคำและตรวจความเสียหายอยู่ในที่เกิดเหตุ ก็มีนายสุรชัย นิยมไพรพนา อายุ 21 ปี 

อยู่บ้านเลขที่ 211 หมู่ 12 ต.บ้านแปะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าผ่านมา แล้วจอดแจ้งความต่อตำรวจในที่เกิดเหตุ โดยให้การว่า ก่อนจะมาพบตำรวจประมาณ 5 กิโลเมตร ที่บริเวณหน้าศูนย์วิจัยและทดลองพันธุ์ข้าวสันป่าตอง มีชายวัยรุ่น 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ สวนทางไป และใช้ก้อนหินปาสวนมาอย่างแรงจนเกือบถูกใบหน้า แต่โชคดีที่หลบทัน ทำให้ก้อนหินถูกบริเวณไหล่ซ้ายจนปวดอย่างรุนแรง แต่กลัวว่าจะถูกย้อนกลับมาทำร้ายอีก จึงแข็งใจขี่รถจักรยานยนต์จนมาพบตำรวจดังกล่าว

หลังจากให้การแล้วอาการของนายสุรชัยก็หนักขึ้นจนขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านไม่ได้ 

เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลสันป่าตอง แพทย์ที่ให้การรักษาระบุว่า ไหล่ซ้ายถูกของแข็งกระแทกอย่างแรงจนมีอาการบวม และยกแขนไม่ขึ้น จึงให้ยาและให้นำตัวกลับไปพักฟื้นที่บ้าน อย่างไรก็ตาม หลังรับแจ้ง ศูนย์วิทยุ สภ.สันป่าตอง ได้วิทยุสกัดจับคนร้ายทั้งสอง แต่ไร้วี่แวว ด้านพ.ต.อ.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังตรวจสอบว่าผู้เสียหายทั้งสองมีความขัดแย้งกันมาก่อน หรือเป็นเหตุขัดแย้งเฉพาะหน้าหรือไม่ แต่หากไม่รู้จักกันมาก่อนและมาก่อเหตุ อาจเข้าข่ายพฤติการณ์เอาอย่างเหมือนกับแก๊งปาหินในภาคกลาง สำหรับคดีที่เกิดขึ้นแม้จะไม่รุนแรงถึงขั้นบาดเจ็บสาหัส แต่ก็เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน ซึ่งจะกำชับให้จับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายได้ใจ และไปก่อเหตุกับประชาชนทั่วไปได้อีก