เมื่อตอนสายวันที่ 13 ธ.ค. พ.ต.ท.ประเวช อุไรพรรณ สารวัตรเวร สภ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี
รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิอาริโยบ้านหมี่ว่า พบศพชายหญิงลอยอยู่ในคลองชลประทานเจ้าพระยาป่าสัก (อนุศาสนนันท์) หมู่ 2 ต.พุคา ต.บ้านหมี่ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.บ้านหมี่ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง พบเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ช่วยกันนำศพทั้งคู่ขึ้นมาจากคลองชลประทานก่อนหน้าแล้วในสภาพมีเชือกไนลอนผูกเอวติดกัน ทราบฝ่ายชายชื่อนายบุญส่ง แสงธูป อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 1/2 หมู่ 6 ต.สนามแจง อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี สวมเสื้อสีดำ กางเกงยีนขายาวสีน้ำเงิน ในตัวพบเงินสด 11,000 บาท ส่วนศพหญิงทราบชื่อนางไพรวัลย์ เกษศิลา อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 153/1 หมู่ 5 ต.บ้านกล้วย อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี สวมเสื้อแขนสั้นสีดำ กางเกงยีนขาสามส่วนสีฟ้า สภาพศพขึ้นอืด คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน
สอบสวนได้ความว่านายบุญส่ง อดีตทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ชลประทาน เป็นคนฐานะดี มีภรรยา 3 คน
ส่วนนางไพรวัลย์ยึดอาชีพเป็นแม่ค้าขายส้มตำ มีสามีแล้วแต่ไม่มีลูก ทั้งคู่คบหาจนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดทั้งที่ต่างฝ่ายต่างมีครอบครัวอยู่ก่อนแล้ว ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. นายบุญส่งได้หายออกจากบ้านไปพร้อมกับรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าคอนคอร์ด สีน้ำตาล ทะเบียน ง-1850 ลพบุรี โดยช่วงเวลาดังกล่าวพบว่านางไพรวัลย์หายไปด้วย ญาติทั้งสองฝ่ายพากันเข้าแจ้งความตำรวจให้ช่วยออกตามหา กระทั่งเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 ธ.ค.พบรถจักรยานยนต์ของนายบุญส่งจอดทิ้งอยู่ที่ริมคลองชลประทาน หมู่ 5 ต.บ้านกล้วย อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี โดยมีรองเท้าแตะของนายบุญส่งและรองเท้านางไพรวัลย์วางอยู่ข้างรถ ตำรวจเชื่อว่าน่าจะเกิดเหตุร้ายกับคนทั้งสองจึงประสานนักประดาน้ำช่วยกันงมหาศพในคลองชลประทานซึ่งมีระดับน้ำลึกและเชี่ยวกราก แต่ไม่พบ จึงเลิกค้นหากระทั่งมาพบศพอีกทีถูกกระแสน้ำซัดมาไกลร่วม 6 กม.
อย่างไรก็ตามระหว่างตำรวจชันสูตรศพอยู่นั้น ได้มีหญิงสูงอายุคนหนึ่งทราบเพียงว่าเป็นภรรยาคนที่ 3 ของนายบุญส่งเดินทางมาดูศพ
แต่เมื่อเห็นศพสามีในสภาพมีเชือกไนลอนผูกติดกับศพนางไพรวัลย์ หญิงคนดังกล่าวรีบจ้ำอ้าวกลับไปขึ้นรถกระบะโดยไม่ยอมเหลียวหลังมาดูและขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้เวลาไล่เลี่ยกันได้มีชายวัยกลางคนทราบว่าเป็นสามีของนางไพรวัลย์ที่ทราบข่าวเดินทางมาดูศพเช่นกัน เมื่อเห็นศพนางไพรวัลย์ ชายคนดังกล่าวถึงกับน้ำตาไหลพราก ได้แต่ยืนดูศพภรรยา ของตัวเองโดยไม่ยอมพูดอะไร หลังจากนั้นตำรวจได้นำศพทั้งคู่ส่ง รพ.บ้านหมี่ เพื่อชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งรวมทั้งจะได้ประสานญาติมารับศพไปตั้งสวดบำเพ็ญกุศลต่อไป ในชั้นต้นญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย เบื้องต้นตำรวจประมวลเหตุการณ์แล้วสันนิษฐานว่าทั้งคู่อาจจะ ไม่สมหวังในความรัก เนื่องจากต่างฝ่ายต่างมีครอบครัวอยู่ก่อนแล้ว จึงพากันมาที่ริมคลองชลประทาน นำเชือกผูกเอวติดกันแล้วพากันกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย