จับหลาน-นศ.ราชภัฏ ฆ่าชิงทรัพย์ผจก.ทรู

จับน.ศ.หนุ่มราชภัฏสวนสุนันทา มือปืนสังหารผจก.ทรู วิชั่นส์

เผยเป็นหลานชายและพักอยู่บ้านเดียว กัน ตร.พบทรัพย์สินของผู้ตายซุกไว้ใต้เตียงในห้องนอน แต่ยังให้การปฏิเสธ พบปมเคยเข้าไปขโมยของในห้องแล้วถูกจับได้ โดนต่อว่าอย่างหนักเลยแค้น ขโมยปืนแม่เข้าไปฉกของอีกรอบ พอดีลุงกลับมาเจอเลยตัดสินใจฆ่าปิดปาก ตร.เผยสงสัยตั้งแต่แรกเพราะให้การมีพิรุธ ส่งสายตามจับตากระทั่งตัดสินใจออกหมายจับ เตรียมฝากขังต่อศาลพร้อมคัดค้านการประกันตัว หวั่นหลบหนีหรือไปทำลายหลักฐาน

จากกรณีนายอำพล กริตโสภณ อายุ 45 ปี ผู้จัดการฝ่ายการเงิน บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน)

ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตภายในห้องพักชั้นบนร้านน้องมิ้น คาราโอเกะ เลขที่ 2527/6 ถ.กรุงเทพฯ-นนทบุรี เขตบางซื่อ กทม. เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยอาคารดังกล่าวนายอำพล พักอยู่บนชั้นที่ 4 ขณะที่ชั้นอื่นๆ ก็มีญาติและหลานชายอีกคนพักอยู่ด้วย ตำรวจเชื่อว่าน่าจะเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ ขณะที่ญาติๆ ไม่ได้ให้การเป็นประโยชน์แต่อย่างใดนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. พ.ต.อ.นิยม คำสวัสดิ์ ผกก.สน.ประชาชื่น กล่าวว่า
 
ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว คือนายภานุพงษ์ หรือโบ๊ท ติยะวงศ์สกุล อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ชั้นปีที่ 2 คณะนิเทศศาสตร์ หลานของนายอำพล และพักอยู่บ้านเดียวกัน พร้อมของกลางไฟแช็กดูปองต์ 1 อัน สร้อยคอทองคำ (ปลอม) จำนวน 1 เส้น หนักประมาณ 10 บาท และใบเลื่อย โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านพักเมื่อกลางดึกวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา

พ.ต.อ.นิยม กล่าวว่า หลังจากตำรวจสืบสวนแล้วเชื่อว่าคนร้ายคือนายภานุพงษ์ จึงเสนอขอหมายจับที่ 3605/2550 ลงวันที่ 10 ธ.ค.2550 ศาลอาญา

โดยกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำลายสิ่งกีดกั้นสำหรับบุคคลหรือทรัพย์ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดไปในเมืองหรือหมู่บ้านหรือในชุมชน บุกเข้าจับกุมและตรวจค้นพบของกลางซึ่งเป็นทรัพย์สินของผู้ตายซ่อนอยู่ใต้เตียงนอนของผู้ต้องหา

"จากการสืบสวนพบว่าก่อนหน้านี้นายภานุพงษ์ เคยมีพฤติกรรมเข้าไปขโมยทรัพย์สินในห้องนอนของนายอำพล ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงแต่นายอำพล จับได้จึงถูกต่อว่าอย่างหนัก ซึ่งเป็นเหตุทำให้ผู้ต้องหาเคียดแค้นและพยายามที่จะเข้าไปขโมยทรัพย์สินของผู้ตายอีกครั้งหนึ่ง แต่นายอำพล มาเจอเข้าพอดี จึงถูกฆ่าตาย โดยอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นของแม่นายภานุพงษ์ ซึ่งช่วงเกิดเหตุให้การว่าถูกขโมยไปโดยไม่ทราบว่าเป็นฝีมือของใคร" พ.ต.อ.นิยม กล่าวและว่าวันเกิดเหตุนายภานุพงษ์ ก็อยู่ในบ้านด้วยและให้การวกวนมีพิรุธ ตำรวจจึงจับตาเรื่องมากระทั่งตัดสินใจออกหมายจับดังกล่าว

ผกก.สน.ประชาชื่น กล่าวอีกว่า ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ และไม่ยอมให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่

โดยร้องขอทนายความให้มาร่วมฟังการสอบสวนด้วย อย่างไรคดีนี้มีหลักฐานพอที่จะมัดตัวดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้ โดยในวันที่ 12 ธ.ค. เวลา 10.00 น. จะนำตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญา รัชดา ก่อนพิจารณาว่าจะขอเบิกตัวผู้ต้องหามาสอบเพิ่มเติมหรือไม่ เนื่องจากผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ และหากมีการยื่นขอประกันตัวทางเจ้าหน้าที่ก็จะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ อีกทั้งกลัวว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและไปทำลายพยานหลักฐาน