จับตาคดีนัทปง ล่าสุดนายก.โผล่สารภาพปมไซยาไนด์

เรื่องราวคดีการเสียชีวิตของ "นัท ณัฐวุฒิ ปงลังกา" มีความคืบหน้าครั้งสำคัญ เมื่อ "นาย ก." บุคคลปริศนาในแชทหลุดเรื่องไซยาไนด์ ได้เดินทางมามอบตัวที่ สภ.บางกรวย พร้อมทนายความ โดยสวมหมวกและแว่นดำปิดบังใบหน้า ท่ามกลางกองทัพนักข่าวที่พยายามซักถาม แต่เจ้าตัวปิดปากเงียบตลอดทาง

จากการสอบสวนเครียด "นาย ก." ซึ่งทำงานเป็นช่างเลี่ยมกรอบพระในร้านทอง ยอมรับสารภาพหมดเปลือกว้า เป็นคนขโมยไซยาไนด์มาจากร้านทองที่ตนทำงานอยู่จริง โดยแอบตักออกมาประมาณ 2 ช้อนชา และนำไปมอบให้น้องนัทที่บ้านพักตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม (ประมาณ 1 เดือนก่อนเกิดเหตุ) ในจังหวะที่น้องนัทไม่อยู่บ้าน ซึ่งตำรวจมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดมัดตัวแน่นหนา

ปูพรมค้นหาหลักฐาน หลังการสอบปากคำ ตำรวจได้คุมตัว "นาย ก." ไปชี้จุดที่ร้านทองย่านบางแค เพื่อยืนยันแหล่งที่มาของสารพิษ โดยทางร้านยืนยันว่ามีการขออนุญาตครอบครองถูกต้องตามกฎหมาย และ "นาย ก." อาศัยจังหวะเผลอขโมยออกมา นอกจากนี้ยังมีการนำตัวไปค้นบ้านพักย่านกาญจนาภิเษกเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่ง "นาย ก." ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

เบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อหา "มีวัตถุออกฤทธิ์และวัตถุอันตรายประเภทที่ 3 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต" มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท

ข้อสังเกตจากผู้เชี่ยวชาญ: พฤติกรรมที่ขัดแย้ง ประเด็นที่น่าจับตามองที่สุดในตอนนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องที่มาของไซยาไนด์ แต่เป็น "พฤติกรรมของคนในบ้าน" โดย "อาจารย์ช้าง" (พ.ต.ท.ดร.ธนันวัฒน์ ธีรพัชยากุล) ได้ตั้งข้อสังเกตที่น่าสนใจว่า คดีนี้มีความซับซ้อนที่ตัวบุคคลมากกว่าตัวสารพิษ

จุดผิดปกติคือ เพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์ (บิ๊กและต้น) ซึ่งมีความรู้ด้านสาธารณสุขและการปฐมพยาบาล กลับมีท่าทีที่ดู "รู้ผลล่วงหน้า" หรือนิ่งเฉยผิดวิสัยคนทั่วไปเมื่อเห็นคนหมดสติ แทนที่จะรีบกู้ชีพ (CPR) หรือโทรแจ้งเหตุฉุกเฉินทันที กลับปล่อยเวลาผ่านไป ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดปกติสำหรับคนที่มีความรู้ทางวิชาชีพด้านนี้

 ขณะนี้ตำรวจยืนยันว่าการพบไซยาไนด์ในกระแสเลือดและกระเพาะอาหาร บ่งชี้ว่าต้องเกิดจากการ "กิน" เท่านั้น (ฉีดหรือดมจะไม่เข้ากระเพาะ) ซึ่งตัดประเด็นอุบัติเหตุทิ้งไปได้เลย เหลือเพียง 2 ประเด็นหลักคือ การทำร้ายตัวเอง หรือ ถูกผู้อื่นทำให้เสียชีวิต

แม้ "นาย ก." จะสารภาพเรื่องที่มาของสารพิษแล้ว แต่คดียังไม่จบแค่นี้ ตำรวจยังต้องสืบสวนต่อเพื่อสรุปสำนวนว่าสุดท้ายแล้ว เหตุการณ์ในบ้านวันนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ โดยจะมีการตรวจสอบที่เกิดเหตุซ้ำอีกครั้งในวันที่ 11 ธันวาคมนี้ พร้อมกับครอบครัวผู้เสียชีวิต เพื่อไขความจริงให้กระจ่างชัดที่สุด

เครดิตแหล่งข้อมูล :รีไร้ท์และเรียบเรียงจากรายการลุยชนข่าว--ช่อง8