นิตยา-ผัว เผ่นหนีไปกัมพูชาแล้ว หลังโดนหมายจับ ปมเงิน 10 ล้าน

สองผัวเมียหลบหนีไปกัมพูชา หลังถูกหมายจับคดีวางเพลิงและแจ้งความเท็จ ปมเงิน 10 ล้าน ตำรวจเร่งติดตามตัว

จากกรณีเหตุไฟไหม้บ้านพักของกรมชลประทาน ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 โดยนางสาวนิตยา ตรีสุคนธ์ และนายฤทธิกร แสงสมพร สองสามีภรรยา ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจว่าเงิน 10 ล้านบาทที่วางไว้บนที่นอนหายไปในระหว่างเกิดเหตุไฟไหม้ อ้างว่าเป็นเหตุไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตาม หลังการตรวจสอบของตำรวจ พบว่าเหตุเพลิงไหม้เป็นการวางเพลิงโดยเจตนา และการแจ้งความดังกล่าวเป็นเท็จ จึงมีการออกหมายจับทั้งสองคน แต่ทั้งคู่ได้หลบหนีไปยังประเทศกัมพูชาแล้ว โดยทิ้งรถยนต์ปาเจโร่ไว้ที่จังหวัดตราด ความคืบหน้าคดีวันที่ 6 มีนาคม 2568

เมื่อเวลา 16.00 น. พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผู้กำกับการ สภ.รัตนาธิเบศร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนได้เดินทางไปยังจังหวัดตราดเพื่อนำรถยนต์ปาเจโร่ของผู้ต้องหากลับมาตรวจสอบที่โรงพัก โดยคาดว่ารถจะถูกขนย้ายด้วยรถสไลด์และถึง สภ.รัตนาธิเบศร์ ในวันที่ 7 มีนาคม นอกจากนี้ ทีมสืบสวนยังได้ประสานงานกับตำรวจท้องที่จังหวัดตราดล่วงหน้า เพื่อติดตามเบาะแสเพิ่มเติม ซึ่งคดีนี้มีความคืบหน้าไปมาก และเชื่อว่าน่าจะสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองได้ในเร็ววันเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ชี้แจงข้อสงสัยกรณีออกหมายจับล่าช้า
พ.ต.อ.พิสุทธิ์ ระบุว่า หลังเกิดเหตุ ผู้ต้องหาทั้งสองรายเริ่มต้นจากการเป็นผู้เสียหาย โดยมาแจ้งความว่าไฟไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรและเงิน 10 ล้านบาทหายไป ตอนนั้นตำรวจเกิดความสงสัยแต่ยังไม่มีอำนาจควบคุมตัว จึงทำได้เพียงสอบปากคำและเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อรอผลพิสูจน์ หลังสอบปากคำเสร็จจึงปล่อยตัวทั้งคู่กลับบ้านตามขั้นตอน เนื่องจากยังอยู่ในสถานะผู้เสียหาย

ต่อมา ครอบครัวนี้ย้ายออกจากบ้านตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ขณะที่ตำรวจรอผลการตรวจสอบสาเหตุเพลิงไหม้ จนกระทั่งวันที่ 4 มีนาคม ผลพิสูจน์ยืนยันว่าเป็นการวางเพลิง ตำรวจจึงรีบขอศาลออกหมายจับทันที

ผู้กำกับการยืนยันว่า คดีนี้แตกต่างจากคดีอาชญากรรมทั่วไป เช่น คดีฆาตกรรมที่รู้ตัวผู้ต้องหาและควบคุมตัวได้ทันที แต่กรณีนี้ผู้ต้องหาเริ่มจากเป็นผู้เสียหาย ตำรวจจึงต้องทำงานอย่างรอบคอบตั้งแต่วันแรกเพื่อหาหลักฐานจนนำไปสู่การออกหมายจับ

ผบก.ภ.จ.นนทบุรี ติดตามคดีใกล้ชิด
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เดินทางมาที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อติดตามความคืบหน้า โดยใช้เวลาประชุมกับทีมงานประมาณ 30 นาที หลังประชุมเสร็จ พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ เปิดเผยว่า ขณะนี้เชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งสองหลบหนีไปยังประเทศกัมพูชาแล้ว แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าใช้ช่องทางปกติหรือช่องทางธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลว่ามีบุคคล 2-3 รายให้ความช่วยเหลือในการพาหลบหนี และตำรวจทราบตัวบุคคลเหล่านี้แล้ว หากพบหลักฐานการกระทำผิดจะดำเนินคดีเพิ่มเติมแน่นอน ส่วนกระแสที่ว่าผู้ช่วยเหลืออาจเป็นนักการเมืองท้องถิ่นนั้น ตำรวจยังไม่เปิดเผยข้อมูลในขณะนี้

เหตุใดเลือกหลบหนีผ่านตราด
สำหรับคำถามที่ว่าทำไมผู้ต้องหาเลือกหลบหนีผ่านจังหวัดตราด แทนที่จะเป็นจุดผ่านแดนปอยเปต จ.สระแก้ว ซึ่งมีช่องทางมากกว่า พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ระบุว่า ยังไม่ทราบเหตุผลแน่ชัด ต้องรอจับกุมตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำก่อน พร้อมฝากถึงนางสาวนิตยาและนายฤทธิกร หากเห็นข่าวนี้ ขอให้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่เพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม

สรุป

คดีนี้ตำรวจดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เกิดเหตุ โดยขณะนี้มุ่งติดตามตัวผู้ต้องหาที่คาดว่าหลบหนีไปกัมพูชา พร้อมขยายผลถึงผู้ที่อาจมีส่วนช่วยเหลือ ขณะที่รถยนต์ปาเจโร่ของผู้ต้องหาจะถูกนำกลับมาที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมต่อไป