ดับฝัน ป้าติ๋ม แม่บ้านชวดรับมรดก100ล้าน!


ดับฝัน ป้าติ๋ม แม่บ้านชวดรับมรดก100ล้าน!

จากกรณี แหม่มแคทเธอรีน นักธุรกิจหญิงฝรั่งเศส อายุ 59 ปี เจ้าของวิลล่าให้เช่าบนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จบชีวิตตัวเองริมสระน้ำในวิลล่าหรูเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยก่อนเสียชีวิตเธอได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินมูลค่า 100 ล้านให้ ป้าติ๋ม แม่บ้านคนสนิท

เกี่ยวกับเรื่องนี้ล่าสุดมีรายงานว่า พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย (ศปชก.) ภ.จว.สุราษฎร์ธานี มอบหมายให้ พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ ร่มไทร รอง ผกก.สอบสวน สภ.กาญจนดิษฐ์ ปฏิบัติหน้าที่คณะพนักงานสอบสวนประจำ ศปชก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดี

1.บริษัท จี.วี.เอ็น.อี.จำกัด
2.บริษัท แม็กซิเคท จำกัด ในฐานะนิติบุคคล
3.นางแคทเทอร์รีน โจรี่ โรแล็นด์ เจอร์แมน เดลาโคท
อายุ 59 ปี สัญชาติฝรั่งเศส (เสียชีวิต) ข้อหา ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ, เป็นบุคคลต่างด้าวประกอบธุรกิจที่ไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบกิจการด้วยเหตุผลพิเศษตามที่กำหนดไว้ในบัญชีหนึ่ง (การค้าที่ดิน ตามบัญชีหนึ่ง(9)), เป็นคนต่างด้าวได้ที่ดินมาโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และเป็นบุคคลต่างด้าวยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้ ถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทจำกัด หรือนิติบุคคลใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้

 




ดับฝัน ป้าติ๋ม แม่บ้านชวดรับมรดก100ล้าน!

4. นายทองใส คติสุข อายุ 50 ปี
5.นางรัชประภา โซเรดะ อายุ 36 ปี
ข้อหา ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ, ร่วมกันสนับสนุนช่วยเหลือให้คนต่างด้าวได้ที่ดินมาโดยผิดชอบด้วยกฎหมาย, เป็นผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว อันเป็นธุรกิจที่กำหนดไว้ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้ (การค้าที่ดิน ตามบัญชีหนึ่ง(9)) โดยคนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าว หรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่ผู้เดียวหรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทจำกัด หรือนิติบุคคลใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ รวมทั้งคนต่างด้าวซึ่งยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้กระทำการดังกล่าว

หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทางผู้บังคับบัญชาได้มอบหมายให้ ศปชก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เข้าสืบสวนสอบสวนนาน 7 เดือน จนพบพยานหลักฐานที่ทำให้เชื่อว่า การดำเนินธุรกิจในลักษณะนิติบุคคลที่มีบุคคลต่างด้าวเป็นกรรมการ เข้าข่ายความผิดลักษณะของตัวแทนอำพราง

โดยในการสืบสวนยังพบว่ามีสำนักงานกฎหมายเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องและให้การช่วยเหลือในการจดทะเบียนบริษัทนิติบุคคลของชาวต่างด้าว ซึ่งประเด็นของสำนักงานกฎหมายจะต้องมีการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมต่อไป


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์