คิวพี สำนึกผิดเลิกขี่เจ็ตสกี เตรียมบวชขออโหสิกรรม 2 ศพ

จากกรณี คิวพี ชินดนัย นักแสดงซีรีส์ดัง วุ่นรักนักบิด ขับเจ็ตสกีพาแฟนสาวและมารดาของแฟนสาว ไปพุ่งชนเรือหางยาวข้ามฟากกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ต.บางกระเจ้า อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ทำให้นายประยูร อายุ 66 ปี คนขับเรือหางยาว และ นางปาริฉัจ อายุ 43 ปี ผู้โดยสารเรือ ตกเรือจมน้ำเสียชีวิต

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ นายชินดนัย แซ่ลิ้ม หรือ คิวพี อายุ 21 ปี พร้อมผู้เป็นพ่อเดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประภาส มั่งคั่ง รองผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ และ พนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม

คิวพี เปิดเผยว่า อยากขอโทษญาติผู้เสียชีวิตกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตนไม่มีเจตนาหรือความตั้งใจที่จะให้เกิดขึ้นแบบนี้ ตนไม่ได้มีเจตนาและมีความตั้งใจที่จะบวชอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต และพร้อมที่จะเยียวยาญาติผู้เสียชีวิตพร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง วันเกิดเหตุ ตนได้เข้ามาในพื้นที่ย่านพระประแดง และไม่ทราบว่ามีการเดินเรือข้ามฟาก ตนไม่ค่อยได้ขับเจ็ตสกีมาเล่นที่พระประแดง ส่วนใหญ่จะขับในบึงปิด ซึ่งในคืนที่เกิดเหตุเจ็ตสกีชนเรือหางยาวข้ามฟากนั้น ยอมรับว่ามองไม่เห็น เหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้น

"ผมขับเรือเจ็ตสกีมากับเพื่อนอีก 1 ลำ ซึ่งเขาแซงและนำผมไป แต่เขาเห็นและสามารถหักหลบได้โดยพ้นช่วงท้ายเรือ เมื่อมาถึงลำของผมมาจังหวะที่ระยะ 1 เมตรสุดท้าย ทำให้มองไม่เห็นและไม่ทันแล้วจึงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ก่อนเกิดเหตุผมไม่ได้กินเหล้าหรือเบียร์มา ส่วนภาพที่มีการถือรูปเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นเป็นรูปเก่าที่เก็บไว้ถ่ายเล่นๆ ผมมองไม่เห็นแสงไฟบนเรือของคุณลุงประยูรที่เสียชีวิต ส่วนแสงสว่างกลางแม่น้ำก็ไม่สามารถทำให้มองเห็นเรือหางยาวข้ามฟากได้ในระยะไกล"

"แต่เจ็ตสกีที่ผมขับวันนั้นมีไฟเป็นลักษณะ Daylight หลังจากนี้ผมคิดว่าจะไม่ขับเจ็ทสกีอีกแล้ว ตั้งใจว่าจะเลิกขับ หลังจากนี้จะไปร่วมพิธีงานศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย และมีความตั้งใจที่จะบวชเพื่อขออโหสิกรรมกับผู้เสียชีวิต เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าเกิดจากความประมาท อยากจะฝากถึงผู้ที่ขับเจ็ตสกีว่าอย่าขับในเวลากลางคืน สุดท้ายนี้อยากจะขอโทษกับญาติผู้เสียชีวิตแต่ไม่รู้จะใช้คำขอโทษอย่างไรดี"

ด้านพ่อของคิวพี เปิดใจบอกว่า ทั้งตนทั้งคิวพีรวมไปถึงครอบครัว รู้สึกเสียใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ รู้สึกสำนึกผิดในเรื่องที่เกิดขึ้น วันเกิดเหตุตนยอมรับว่ามาด้วย แต่มาคนละลำกับน้องคิวพี คืนวันเกิดเหตุน้องออกมาก่อนกับเพื่อน ส่วนตัวหลังจากเช็กบิลเสร็จก็ตามออกมา มาถึงน้องก็ชนแล้ว ตอนชนตนไม่เห็นเหตุการณ์ แต่ก็พยามขับเรือวนหาผู้บาดเจ็บจนกระทั่งแน่ใจว่าไม่เจอ จึงช่วยลากเรือเข้ามาที่ท่าน้ำ ในเรื่องของความรับผิดชอบตนในฐานะพ่อของน้อง ก็พร้อมที่จะรับผิดชอบและเยียวยาผู้ที่ได้เสียหายอย่างเต็มที่ ส่วนตัวของน้องคิวพีเองก็รู้สึกเสียใจและสำนึกผิด สภาพจิตใจย่ำแย่ หลังจากเป็นข่าวออกไปทำให้มีผลกระทบต่างตามมาหลายด้าน

"ผมอยากขอโอกาสสังคม ให้อภัยครอบครัวของผมโดยเฉพาะน้องคิวพี ซึ่งไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดอุบติเหตุในครั้งนี้ ผมในฐานะพ่อยอมรับผิดที่เป็นส่วนหนึ่งที่อบรมสั่งสอนลูกไม่ดี จนเกิดความประมาทขึ้นในครั้งนี้ ส่วนทางครอบครัวหรือญาติผู้เสียชีวิตยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันตั้งแต่เกิดเรื่อง ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการเข้าให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ก็ตั้งใจจะไปร่วมงานและพูดคุยกับทางครอบครัว โดยวันนี้จะให้ทางอาของคิวพี ไปร่วมงานศพสมุทรสาครก่อน แล้วดูเยียวยาเบื้องต้นก่อน ส่วนผมกับคิวพีตั้งใจจะไปที่ลพบุรีก่อนเพื่อพูดคุยและเยียวยาเบื้องต้น"

ด้านพ.ต.อ.ประภาส เปิดเผยว่า วันนี้คุณพ่อน้องคิวพีตั้งใจจะไปร่วมพิธีงานศพของคุณลุงประยูร ที่จ.สมุทรสาคร และนางปริฉัตรที่จ.ลพบุรี แต่เนื่องด้วยติดภารกิจต้องสอบปากคำร่วมกับผู้เชี่ยวชาญกับทางกรมเจ้าท่า คุณพ่อของน้องจึงมอบหมายให้คุณอาไปที่สมุทรสาครเพื่อจะไปเจรจาและเยียวยาญาติผู้เสียชีวิตตามสมควรในเบื้องต้น ในส่วนของจังหวัดลพบุรี ทางครอบครัว ของน้องก็จะไปเยียวยากับทางญาติผู้เสียชีวิตด้วยเช่นเดียวกันให้เต็มที่และเป็นที่น่าพอใจ

ส่วนการสอบสวนก็จะดำเนินการต่อไปที่สภ.พระประแดง พร้อมที่จะเร่งรัดการสอบสวนและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตำรวจได้เก็บข้อมูลและดำเนินการไปค่อนข้างมากแล้วจึงมาขอชี้แจงให้ฟังส่วนในเรื่องของน้องคิวพีก็พร้อมที่จะขอโทษกับสังคม พร้อมทั้งน้อมรับการกระทำที่เกิดขึ้นทั้งหมดที่ได้ทำลงไป