ลงดาบยูทูบเบอร์ช่องSPD ขับเทสล่าลงหาด
จากกรณีนาย เนติเจน เนติรัตนไพบูลย์ หรือ สไปร์ท อายุ 28 ปี ยูทูบเบอร์ชื่อดัง ช่อง "SpriteDer SPD" ที่มีคนติดตามมากกว่า 14 ล้านคน และมีจำนวนผู้ชมมากกว่า 3.38 พันล้านครั้ง พร้อมทีมงานขับรถหรูยี่ห้อ Tesla สีดำ ลงไปทำคอนเทนต์บนชายหาดปากน้ำหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา
ปรากฏว่า รถเก๋งคันหรูได้ติดหล่มทรายบนชายหาด ที่มีคลื่นน้ำทะเลซัดถึง จนไม่สามารถวิ่งต่อไป ถูกนักท่องเที่ยวและชาวบ้านในพื้นที่วิพากษ์วิจารณ์ ถึงความที่ไม่เหมาะสม และเป็นแบบอย่างไม่ดีให้กับเด็ก และเยาวชนแฟนคลับ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 67 ทีมงานของช่องยูทูบ "SpriteDer SPD" จำนวน 4 คน ประกอบด้วย 1.นายตองชาย อินทร์ดี อายุ 28 ปี 2.นายพรหมเมศ มณีโชติ 27 ปี 3.นายสัณหวัช มิลินทคุปต์ อายุ 24 ปี 4.นายแสงจ้า ทาพา อายุ 22 ปี ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุริยนต์ ชมมี ผกก.สภ.ปากน้ำหลังสวน เพื่อชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน แต่ทีมงานของชื่อยูทูบเบอร์ชื่อดังทั้ง 4 คน ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ และเดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเท่านั้น โดยอ้างว่า ถ้าพูดออกไปจะกระทบต่อบริษัท
ด้าน พ.ต.อ.สุริยนต์ ชมมี ผกก.สภ.ปากน้ำหลังสวน กล่าวว่า จากยูทูบเบอร์ชื่อดังขับรเก๋งไฟฟ้าขับลงชายทะเล เพื่อทำคอนเทนต์ ต่อมารถติดหล่มทราย จนต้องใช้รถยกนำดึงขึ้นจากชายหาด เมื่อช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์การกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสมตามที่เป็นข่าว
หลังจากนั้น สภ.ปากน้ำหลังสวน ได้เรียกทีมทำคอนเทนต์มารับทราบข้อกล่าวหา เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา "ร่วมกันกระทำการใดๆ อันเป็นการกระทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" ทั้งหมดเดินทางมาด้วยการสำนึกผิด จึงเปรียบเทียบปรับคนละ 5,000 บาท
ส่วนผู้ต้องหา 1 ราย คือ นายเนติเจน หรือ สไปร์ท คนขับรถเก๋ง ได้ติดต่อมายังพนักงานสอบสวนว่า ขณะนี้ได้เดินทางไปประเทศเกาหลี เมื่อกลับมาประเทศไทยจะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาทันที
ผกก.สภ.ปากน้ำหลังสวน กล่าวอีกว่า หลายคนถามมีกฎหมายที่หนักกว่านี้ไหม จริงแล้วมี พ.ร.บ.การส่งเสริมบริหารการจัดการธรรมชาติชายฝั่งทะเล กฎหมายนี้จะมีโทษหนักจำคุก 1 ปี ปรับ 100,000 บาท แต่กฎหมายฉบับนี้ แต่ละจังหวัดต้องตั้งอนุกรรมการพิจารณากฎหมาย เพื่อนำเสนอคณะกรรมการใหญ่ของกระทรวง โดยมีนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งตรวจสอบทางจังหวัดชุมพรแล้วอยู่ในระหว่างดำเนินการ สำหรับเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นใน จ.ชุมพรเป็นครั้งแรก คาดว่าอนาคตต้องมีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำขึ้นอีก