ภรรยาเชื่อสามีนักธุรกิจถูกอุ้ม พบพิรุธเส้นทางการเงินถูกโอนกว่า2ล้าน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม ภรรยาเชื่อสามีนักธุรกิจถูกอุ้ม พบพิรุธเส้นทางการเงินถูกโอนกว่า2ล้าน
ภรรยาเชื่อ นักธุรกิจเยอรมันถูกอุ้มแน่นอน ปักใจสงสัยคนที่อยู่กับสามีเป็นคนสุดท้าย พบพิรุธเงินถูกโอนออก มากกว่า 2 ล้าน โอนไปเข้าบัญชีที่กัมพูชา
จากกรณี นักธุรกิจชาวเยอรมัน อายุ 62 ปี ที่หายตัวไปหลังจากเดินทางไปพูดคุยเรื่องซื้อขายที่ดิน บนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีผู้พบเห็นครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 4 ก.ค.66 ก่อนที่เมื่อวานนี้ จะพบรถเบนซ์ของเจ้าตัวจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถข้างคอนโดฯ นาน 4วัน แต่ยังไม่พบตัวผู้สูญหาย
ล่าสุด พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 และชุดสืบสวนคลี่คลายคดีนี้ เข้ามาประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าคดี ก่อนที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง.ผบ.ตร. จะเดินทางเข้ามาติดตามความคืบหน้าคดีในภายหลัง
น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิวินวิน ยังพา ภรรยาปัจจุบันของนายฮันส์ ปีเตอร์ ผู้สูญหาย อดีตภรรยา, ลูกชายกับอดีตภรรยา 2 คน และเจ้าหน้าที่ของสถานทูตเยอรมัน เข้ามารอพบกับรอง ผบ.ตร.
ภรรยาคนปัจจุบัน เผยว่า ในวันเกิดเหตุตนนัดกับสามีว่า จะมีลูกค้าไปดูที่ดิน ในพัทยาในช่วงเวลาบ่ายโมง แต่ก่อนหน้านั้นเขาขอไปเจอลูกค้าคนสำคัญก่อน จนกระทั่งพอเวลาผ่านไปจนถึงบ่าย 2 โมงแล้ว ตนจึงพยายามโทรศัพท์ติดต่อไปหาสามีอีกครั้ง แต่ปรากฏว่าติดต่อไม่ได้ และเปิด-ปิดเครื่องสลับอยู่ตลอด ก่อนจะมีข้อความส่งกลับมาหาภรรยาว่า "อยู่กับลูกค้านะ เดี๋ยวโทรกลับ" ซึ่งผิดสังเกตมาก เพราะสามีไม่เคยส่งข้อความมาหาในลักษณะแบบนี้เลย ตนจึงรออีกสักพัก สุดท้ายก็ติดต่อไม่ได้
พยายามโทรติดต่อ ก็โทรติดบ้าง ไม่ติดบ้าง จนช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ก็มีข้อความส่งมาอีกว่า "วันนี้ฉันจะอยู่กับลูกค้านะ คนนี้สำคัญมาก ฉันต้องดีลกับเขา เซ็นสัญญาให้เสร็จ" ตนจึงพยายามโทรติดต่ออีกเรื่อยๆ จนวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ก็ยังติดต่อไม่ได้ จนมีข้อความสุดท้ายส่งมาอีกว่า "ฉันต้องอยู่กับลูกค้า และจะต้องไปกินข้าวกับลูกค้า" ก่อนที่หลังจากนั้น สามีก็ไม่ได้ส่งอะไรมาอีกเลย ส่วนเรื่องที่ดินในพัทยาที่ซื้อ-ขายกันของสามีนั้น มีการพูดคุยกันจริง แต่ในเรื่องที่ดินในพื้นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เขายังไม่ได้มาคุยเรื่องนี้เลย เพราะไม่ได้มีแผนจะขาย
ภรรยาบอกว่า เราคิดว่ากลุ่มคนที่อุ้มสามีไป น่าจะรู้จักสามี แต่ในเรื่องธุรกิจคาดว่ารู้แค่บางส่วนเท่านั้น และเชื่อว่าสามีโดนจับตัวไปแน่ๆ เพราะสามีไม่เคยผิดนัด และเป็นคนตรงเวลาตลอด ทุกครั้งจะเป็นคนมาก่อนเวลา หรือถ้าหากมีปัญหาจริงๆ จะโทรมาบอกก่อน จะไม่ชอบให้ครอบครัวเป็นห่วง
โดยทางครอบครัวไม่ทราบเลยว่า เกิดอะไรขึ้นกับสามี หรือว่าใครทำอะไรเขา เพราะเขาไม่เคยมีปัญหากับใคร ส่วนเรื่องเส้นทางการเงินที่พบว่าผิดปกตินั้น ยังไม่ทราบ และตอนนี้ยังขอไม่ลงรายละเอียด ส่วนเรื่องสงสัยใครหรือไม่นั้น ตอนนี้สงสัยคนในกล้องวงจรปิด คนที่อยู่กับสามีเป็นคนสุดท้าย แต่ก็ไม่ได้ไปกล่าวหาเขา
ภรรยายืนยันว่า ไม่ทราบความสัมพันธ์ระหว่างสามีกับนายหน้าขายที่ดินเลย รวมถึงเรื่องคดีค้ามนุษย์เมื่อปี 2561 นั้น เข้าใจผิดแล้ว ตอนนี้ครอบครัวไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย และอยากให้ทุกคนโฟกัสเรื่องการหาสามีก่อน
พร้อมอยากบอกไปถึงคนที่อุ้มสามีไปว่า ต้องการอะไรให้มาบอก ช่วยเอาสามีกลับมาเถอะ ทุกคนเป็นห่วงมาก เรารอกันอยู่ และจะหาเขาให้เจอ
โดยตอนนี้ทางครอบครัวยังหวังว่าสามียังมีชีวิตอยู่ และน่าจะอยู่ในประเทศไทย ทุกคนจะช่วยเขากลับบ้าน ส่วนเบาะแสล่าสุดก็คือเรื่องการพบรถ แต่ในส่วนข้อมูลที่พบสามีในพื้นที่สระแก้ว ยืนยันว่า ไม่ใช่สามี เป็นแค่คนหน้าคล้าย
ขณะที่ นายหน้าขายที่ดินที่ได้เจอนายฮันส์ ปีเตอร์ เป็นคนสุดท้าย บอกว่า ไม่ขอให้สัมภาษณ์ และให้เพียงข้อมูลว่า วันที่นัดไปนั่งดื่มกาแฟกับผู้สูญหาย ที่คาเฟ่ เป็นการนัดกันเพื่อพูดคุยกันเรื่องการซื้อ-ขาย ค่ายมวยเท่านั้น แต่ในส่วนหลังจากนั้น ก็ไม่ทราบจริงๆ ว่า ตัวของนายฮันส์ ขับรถตามมา เพราะไม่ได้มองกระจกหลังเลย
ทั้งนี้ มีรายงานว่าข้อมูลจากชุดสืบสวนว่า หลังจากนำตัวชาวเยอรมัน 3 คน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำแล้ว ที่สภ.หนองปรือ เมื่อคืนนี้ เบื้องต้นทั้ง 3 คน ไม่ให้การอะไรที่เป็นประโยชน์เลย
แต่จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินในบัญชีของนายฮันส์นั้น ปรากฏว่าเงินถูกโอนออกจากบัญชีตัวเองหลายครั้ง ยอดมากกว่า 2 ล้านบาท ส่วนคนที่เป็นคนโอน พบไม่ได้อยู่ในประเทศไทย เนื่องจากจากการตรวจสอบพิกัดข้อมูล พบอยู่ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา