เปิดปฏิบัติการบุกค้นบ้าน-บริษัทสารวัตรซัว รวบคีย์แมนเป็นต่อกรุ๊ป

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 3 มี.ค.2566 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย จเรตำรวจ (สบ 8) ปฏิบัติราชการสอบสวนกลาง สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจของกองปราบฯบก.ปอท. บก.ปอศ. บก.ปทส. บก.ปคม. บก.ปคบ. ออกปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมายกว่า 63 แห่งทั่วประเทศ เพื่อตรวจสอบหาหลักฐานที่เกี่ยวข้องที่เชื่อมโยงกับ พ.ต.ท.วสวัตติ์ หรือ "สารวัตรซัว" อดีต สว.ฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง ที่มีส่วนพัวพันกับเว็บไซต์รับพนัน

การเข้าตรวจค้นครั้งนี้ เจ้าหน้าที่มุ่งไปที่กลุ่มบริษัทนอมีนี และบ้านพักของบุคคลต่าง ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับ สารวัตรซัว โดยเป้าหมายสำคัญจะอยู่ที่บ้านพักของ สารวัตรซัว และที่ตั้งของบริษัทต่าง ๆ ในเครือเป็นต่อกรุ๊ป ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ เพื่อสืบค้นพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยเฉพาะเอกสารธุรกรรม เส้นทางการเงิน รวมถึงหลักฐานการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินต่าง ๆ

ประกอบด้วย บริษัท เป็นต่อ เอสเตท จำกัด, บริษัท เป็นต่อ เอ็กซ์เช้นจ์ จำกัด, บริษัท เป็นต่อ เอ็กซ์เช้นจ์ 2 จำกัด, บริษัท พีทีจี ซอฟต์แวร์ จำกัด ส่วนอีก 2 แห่งนั้นแจ้งเลิกกิจการไปแล้ว ได้แก่ บริษัท พีที ซอฟแวร์ บายเป็นต่อ กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท เป็นต่อ ทรานสปอร์ต บายเป็นต่อกรุ๊ป จำกัด

สำหรับผลการตรวจค้นที่บ้านหลังดังกล่าว พบเป็นบ้านเดี่ยวขนาด 2 ชั้น มีรถหรูเมอร์เซเดสเบนซ์ และ ออดี้ จอดอยู่หน้าบ้าน จำนวน 2 คัน ส่วนตัวนายจิ๋ว และแฟนสาว กำลังนอนพักผ่อนอยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอเข้าตรวจค้น

เบื้องต้นพบว่า นายจิ๋วนั้นมีหมายจับคดีร่วมกับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ หลอกเงินประชาชน ติดตัว 1 คดี และจากการตรวจสอบประวัติยังพบว่าเคยถูกดำเนินคดีขบวนการค้าประเวณี เมื่อปี 2554 อีกด้วย จึงทำการจับกุมตัวพร้อมอายัดทรัพย์สิน เช่น โฉนดที่ดิน สมุดบัญชีธนาคาร รถหรู มาตรวจสอบว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และเกี่ยวข้องกับเงินที่ได้จากการกระทำความผิดหรือไม่