ทางหลวงจับกัญชาอัดแท่งมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท

ทางหลวงจับหนุ่มสุราษฎร์ ซุกกัญชาอัดแท่งน้ำหนัก 400 กว่าโล มูลค่า 6 ล้านบาท

รับจ้างคนลาวขนกัญชาจากนครพนมส่งลูกค้าให้พัทลุง ได้ค่าจ้าง 1 แสน ตร.ระบุเริ่มมีสัญญาณลักลอบขนยามากขึ้น ด้านผู้ต้องหาร่ำไห้ ทำครั้งแรก ขอรับผิดไม่โทษใคร อ้างหารายได้ส่งลูกเรียนหนังสือ-ขอโทษลูกครอบครัว ที่กองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก) -  

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 19 พฤศจิกายน 50

พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พศิน นกสกุล ผบก.ทล. พ.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผบก.ทล.และเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายชุมพร พนมไพร อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/2 ม.3 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมของกลาง กัญชาอัดแท่ง น้ำหนักรวม 497 กก.มูลค่า 6 ล้านบาท บรรจุในถุงพลาสติกสีดำ รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็ก สีเทา ทะเบียนป้ายแดง ข- 7876 กทม. โทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย จำนวน 2 เครื่อง เงินสด 4,000 บาท โดยจับกุมได้ที่ ทางหลวงหมายเลข 4 ระหว่าง 495-496 ต.หาดพันไกร อ.เมือง จ.ชุมพร เมื่อวันที่ พ.ย.เวลา 09.30 น.

พล.ต.ท.อดิศร กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรจพบข้อมูลว่ามีการลักลอบขนกัญชาจากประเทศเพื่อนบ้านแถบภาคอีสานและภาคหนือ

ลำเลียงไปยังจังหวัดทางภาคใต้ จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกวดขันจับกุม ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านสกัดบริเวณหน่วยบริการทางหลวงเขาพาง จ.ชุมพร พบรถของกลางตามลักษณะที่สายรายงานมาจึงทำการเข้าตรวจค้น พบของกลางดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ที่กระบะหลังรถมีผ้าใบสีดำคลุมทับอีกชั้น
 

พล.ต.ท.อดิศร กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าผู้ต้องหารับจ้างจากคนสัญชาติลาวให้นำกัญชาทั้งหมดมาจากอ.ธาตุพนม จ.นครพนม

เพื่อไปส่งให้ลูกค้าที่ จว.พัทลุง โดยได้ค่าจ้างขนจำนวน 1 แสนบาท เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฏหมาย และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินการต่อไป
 

“จากการจับกุมครั้งนี้เป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามีการลักลอบขนยาเสพติดกันมากขึ้น หาคนขนยาได้ง่าย เพราะบุคคลเหล่านี้ยอมเสี่ยงเพื่อให้ได้รายได้จำนวนมาก ราคาสูงในประเทศราคาอยู่ที่ กิโลกรัมละ 12,000 บาท ในต่างประเทศตกกิโลกรัมละ 30,000 บาท จากการสืบสวนติดตามมีการนำมาเสพทั้งในและนอกประเทศ และได้กำชับให้ดูแลในส่วนของเมืองท่องเที่ยวที่จะมีฟูลมูลปาร์ตี้ ตอนนี้เราก็เร่งกวดขันถ้ามีเบาะแสก็จะสืบสวนจับกุมทันที”ผบช.ก.กล่าว

ด้านนายชุมพร รับสารภาพทั้งน้ำตาว่า ทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก และขอยอมรับผิด ไม่โทษใคร เสียใจที่ทำลงไปเพราะรู้ว่าเป็นสิ่งไม่ดี แต่ต้องการรายได้เพื่อไปส่งเสียลูก 2 คนเรียนหนังสือ และต้องขอโทษลูกๆขอโทษครอบครัวที่ทำแบบนี้ และคงจะไม่ซักทอดใครให้จบที่ตนเองไม่อยากจะทำผิดต่อใครอีก