เศร้า!หนุ่มโรงงานผูกคอดับ เครียดตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม เศร้า!หนุ่มโรงงานผูกคอดับ เครียดตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์
กรณีนายอัฐวุฒิ อายุ 35 ปี ชาวอำเภอบ้านไผ่ ขอนแก่น ผูกคอเสียชีวิต เมื่อกลางดึกวันที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งไม่มีร่องรอยของการทำร้ายร่างกายและการต่อสู้ และเมื่อเปิดดูข้อความในโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย พบข้อความแชทการกู้ยืมเงินจากแอพเงินกู้ ในช่วงเวลา 13.00 น. ของวันที่ 13 ม.ค. 66 ชื่อ แอปลิ้ง online loan Thailand ซึ่งนายอัฐวุฒิ ได้ติดต่อขอกู้เงินจำนวน 50,000 บาท ส่งงวดรวม 48 งวด ก่อนจะถูกหลอกให้โอนเงินไปก่อน แต่ไม่ได้เงินกู้ตามที่ขอกู้ และต่อมาปรากฎข้อความแชทที่แอดมินแหล่งเงินกู้นอกระบบแชทเยาะเย้ยผู้ตาย ก่อนที่ภรรยาและญาติๆ จะนำศพผู้ตายมาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบ้านเกิด โดยรับศพกลับมาเมื่อช่วงเย็นวานนี้
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 17 ม.ค.2566 ที่วัดคุ้มจัดสรร(หลวงปู่นิล) ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น นางภัทรพร อายุ 35 ปี ชาว อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ภรรยานายอัฐวุฒิ ที่เสียชีวิตจากการผูกคอตายที่ จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า เป็นภรรยา โดยแต่งงานกันได้ 1 ปีพอดี และวันที่ฝ่ายชายเสียชีวิตก็เป็นวันคล้ายวันเกิดในคืนวันที่ 13 ม.ค.2566 ต่อเนื่องวันที่ 14 ม.ค.2566 ด้วย
ภรรยานายอัฐวุฒิ พร้อมญาติๆ และชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมกันวางดอกไม้จันทน์ไว้อาลัยผู้ตายภายในศาลาตั้งศพ ก่อนจะเคลื่อนศพมาที่เมรุ เพื่อประกอบพิธีฌาปนกิจ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า น้องสาวผู้ตายที่ถือรูปผู้ตายเดินนำร้องไห้อย่างหนัก ญาติๆต้องพาออกนอกงาน เพื่อให้ดวงวิญญาณผู้ตายไปสู่สุขติ รวมทั้งภรรยาผู้ตายพร้อมญาติๆนำมะพร้าวมะล้างหน้าศพ และพูดกับผู้ตายให้หมดห่วง ก่อนที่พระสงฆ์จะจุดไฟประชุมเพลิง
นางภัทรพร ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวว่าเชื่อว่าจะเป็นเงินอีกจำนวนมากที่สามีถูกหลอกเอาไป และมากกว่าที่ออกข่าว แต่ก็ไม่รู้เท่าไหร่ เพราะสามีจะลบแชท LINE ออกตลอด เพราะว่าแอบไปทำการกู้เงินกับพวกมิจฉาชีพเหล่านี้เอง โดยตนเองไม่รู้ ตนเองเคยเตือนไปแล้วว่าอย่าไปยุ่งเพราะมันคือมิจฉาชีพแน่นอน ไม่มีใครมาเอาข้อมูลเราด้วยการให้ถ่ายภาพคู่กับบัตรประชาชน แต่ด้วยความที่สามีต้องการให้ครอบครัวสุขสบาย ตั้งใจจะไปทำงานต่างประเทศ โดยเคยบอกก่อนหน้านี้ว่า อยากจะไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นหรือไม่ก็เกาหลี เพื่อหาเงินมามากๆ โดยบอกว่าจะหาเงินมาเอง และรับปากว่าจะไม่ไปกู้ยืมผ่านพวกแอพพลิเคชั่นต่างๆ หรือพวกคอลเซ็นเตอร์มิจฉาชีพ แต่สุดท้ายสามีก็ไปแอบทำโดยที่ตนเองไม่รู้ แอบทำตอนที่ตนเองหลับ แล้วก็จะลบแชทออกตลอด ซึ่งเชื่อว่ายังมีอีกจำนวนมากที่แฟนไปยืมเงินมาให้มิจฉาชีพเหล่านี้หลอกลวงเอาไป
ภรรยาผู้เสียชีวิตกล่าวว่า อยากจะขอความเป็นธรรมอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือช่วยจับกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด เพราะเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ถูกหลอกและมีอีกหลายคนที่คิดสั้นที่จะฆ่าตัวตายเหมือนกับสามีของตนเอง
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 17 ม.ค.2566 ที่วัดคุ้มจัดสรร(หลวงปู่นิล) ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น นางภัทรพร อายุ 35 ปี ชาว อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ภรรยานายอัฐวุฒิ ที่เสียชีวิตจากการผูกคอตายที่ จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า เป็นภรรยา โดยแต่งงานกันได้ 1 ปีพอดี และวันที่ฝ่ายชายเสียชีวิตก็เป็นวันคล้ายวันเกิดในคืนวันที่ 13 ม.ค.2566 ต่อเนื่องวันที่ 14 ม.ค.2566 ด้วย
ภรรยานายอัฐวุฒิ พร้อมญาติๆ และชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมกันวางดอกไม้จันทน์ไว้อาลัยผู้ตายภายในศาลาตั้งศพ ก่อนจะเคลื่อนศพมาที่เมรุ เพื่อประกอบพิธีฌาปนกิจ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า น้องสาวผู้ตายที่ถือรูปผู้ตายเดินนำร้องไห้อย่างหนัก ญาติๆต้องพาออกนอกงาน เพื่อให้ดวงวิญญาณผู้ตายไปสู่สุขติ รวมทั้งภรรยาผู้ตายพร้อมญาติๆนำมะพร้าวมะล้างหน้าศพ และพูดกับผู้ตายให้หมดห่วง ก่อนที่พระสงฆ์จะจุดไฟประชุมเพลิง
นางภัทรพร ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวว่าเชื่อว่าจะเป็นเงินอีกจำนวนมากที่สามีถูกหลอกเอาไป และมากกว่าที่ออกข่าว แต่ก็ไม่รู้เท่าไหร่ เพราะสามีจะลบแชท LINE ออกตลอด เพราะว่าแอบไปทำการกู้เงินกับพวกมิจฉาชีพเหล่านี้เอง โดยตนเองไม่รู้ ตนเองเคยเตือนไปแล้วว่าอย่าไปยุ่งเพราะมันคือมิจฉาชีพแน่นอน ไม่มีใครมาเอาข้อมูลเราด้วยการให้ถ่ายภาพคู่กับบัตรประชาชน แต่ด้วยความที่สามีต้องการให้ครอบครัวสุขสบาย ตั้งใจจะไปทำงานต่างประเทศ โดยเคยบอกก่อนหน้านี้ว่า อยากจะไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นหรือไม่ก็เกาหลี เพื่อหาเงินมามากๆ โดยบอกว่าจะหาเงินมาเอง และรับปากว่าจะไม่ไปกู้ยืมผ่านพวกแอพพลิเคชั่นต่างๆ หรือพวกคอลเซ็นเตอร์มิจฉาชีพ แต่สุดท้ายสามีก็ไปแอบทำโดยที่ตนเองไม่รู้ แอบทำตอนที่ตนเองหลับ แล้วก็จะลบแชทออกตลอด ซึ่งเชื่อว่ายังมีอีกจำนวนมากที่แฟนไปยืมเงินมาให้มิจฉาชีพเหล่านี้หลอกลวงเอาไป
ภรรยาผู้เสียชีวิตกล่าวว่า อยากจะขอความเป็นธรรมอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือช่วยจับกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด เพราะเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ถูกหลอกและมีอีกหลายคนที่คิดสั้นที่จะฆ่าตัวตายเหมือนกับสามีของตนเอง
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น