เจ้าของชื่อตัวจริงแฉเน็ตไอดอลสาวสอง สวมรอยใช้ชื่อ-สกุลรับงาน7ปี
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม เจ้าของชื่อตัวจริงแฉเน็ตไอดอลสาวสอง สวมรอยใช้ชื่อ-สกุลรับงาน7ปี
จากกรณี น.ส.กนกญาดา จิตรอำพัน อายุ 24 ปี หรือน้องจอย เดินทางเข้าพบนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอคำปรึกษาหาแนวทางการดำเนินคดีกับ เน็ตไอดอล สาวสองชื่อดัง หลังนำบัตรประชาชนและข้อมูลส่วนตัวไปแสวงหาผลประโยชน์ เชิญชวนเล่นพนันออนไลน์ โฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จนตัวเองถูกออกหมายเรียกจากหลายหน่วยงาน
น.ส.กนกญาดา กล่าวว่า ตนรู้จักกับ สาวประเภท 2 ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นพี่ในโรงเรียน และต่อมาพี่เขา ต้องการใช้ชื่อที่เป็นชื่อผู้หญิง และมีเอกสารใช้ยืนยัน จึงขอยืมบัตรประจำตัวประชาชนไปดู ก่อนจะใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายบัตรประชาชนไว้
หลังจากเรียนจบก็ไม่ได้ติดต่อกัน กระทั่งเดือน พ.ค.58 มีการติดต่อมาบอกว่า อยู่โรงพยาบาล และขอให้ถ่ายบัตรใหม่ เพราะของเก่าทำหายไป แต่ครั้งนั้นไม่ได้ให้ จนปี 2563 ได้รับหมายเรียกให้ไปพบตำรวจกองปราบ เนื่องจากมีชื่อไปโฆษณาเชิญชวนให้เล่นการพนัน ให้ไปชี้แจงว่าเป็นคนเดียวกันหรือไม่ หลังจากตอนนั้นก็คิดว่าคงจะไม่มีอะไรแล้ว ต่อมาได้มีเอกสารจากหน่วยงานต่างๆส่งมาให้ไปชี้แจงตลอด ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565 ได้รับหนังสือจากสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจาก เน็ตไอดอลคนดังกล่าว ได้ถ่ายรูปโฆษณาคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยใช้ชื่อของน้อง รวมถึงอีกหลายครั้ง
ที่ผ่านมาเคยเห็นมีการเปลี่ยนชื่อเฟซบุ๊กโดยเปลี่ยนจาก น.ส.กนกญาดา จิตรอำพัน เป็น น.ส.กนกญาดา จิตอำพน หรืออีกหลายๆ ชื่อ หลังเกิดเรื่องก็พยายามติดต่อกลับไปแต่ก็ติดต่อไม่ได้ ถูกบล็อกทุกช่องทาง จากนี้ไปจะเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเขา เพราะทำให้เราเดือดร้อน และเป็นห่วงเรื่องอนาคตหากต้องไปทำงานที่ไหนแล้วมีชื่อตัวเองกระทำผิดต่างๆ
ล่าสุด "คะแนน" กนกญาดา จิตรอำพัน เน็ตไอดอลที่ถูกกล่าวหา ได้เดินทางไปร่วมรายการ ถกไม่เถียง เพื่อชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าว โดยมี น.ส.กนกญาดา หรือน้องจอย ผู้ที่ออกมาร้องเรียนเรื่องดังกล่าว มาร่วมรายการด้วย โดยมี ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือ ทนายแก้ว รองประธานคณะกรรมการเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมายสภาทนายความ มาร่วมพูดคุยในเรื่องของกฏหมาย
โดย "คะแนน" ยอมรับว่า นำชื่อของ จอย ไปใช้เป็นของตัวเองจริง เพราะชื่อถูกโฉลก ตัวเองมีความเชื่อในทางสายมูมากๆ ในสมัยเรียนหมอดูเคยบอกไว้ ว่าถ้าใช้ชื่อนี้จะดีแต่ไม่เคยเอาชื่อไปใช้ในทางที่ไม่ได้ ยืนยันไม่เคยเอาไปทำธุรกรรมอะไรเลย เพราะไม่มีบัตรประชาชนจริง ส่วนที่ต้องมาขอรูปบัตรประชาชนอีกรอบนั้น ก็เพราะเฟซบุ๊กมีปัญหา ต้องใช้บัตรประชาชนในการยืนยันตัวตน จึงให้รุ่นน้องที่สนิทกับจอยทักมาขอ ซึ่งที่จอยติดต่อตนไม่ได้ก็เพราะเฟซบุ๊กมีปัญหาเช่นกัน ซึ่งตนเองยอมรับผิด ว่าไม่ได้บอกจอยว่า จะเอาชื่อไปทำอะไรบ้าง เพราะไม่คิดว่าจะมีปัญหาระยะยาว แต่พอเข้าวงการก็ไปเปลี่ยนชื่อของตัวเอง แต่มีการปรับนามสกุลให้ไม่เหมือนกันเล็กน้อย ยอมรับผิดว่า ติดกระดุมผิดมาตั้งแต่เม็ดแรก คิดว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดกฏหมาย และไม่ได้คดโกงใครเพราะทำแต่งาน เลยคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหลังจากเปลี่ยนชื่อแล้ว
ส่วนคำถามที่ว่า ที่นำชื่อของจอยไปใช้ เพราะอยากมีตัวตนเป็นผู้หญิง แต่เป็นเพราะความเชื่อในเรื่องของความถูกโฉลก และสายมูเท่านั้น
ส่วนเรื่องของเอกสารเกี่ยวกับการจ่ายภาษี คาดว่าอาจจะเป็นเพราะความผิดพลาดในเรื่องเอกสาร อาจจะพิมพ์พลาด เพราะนามสกุลต่างกันนิดเดียว ซึ่งเรื่องนี้ คะแนนจะรับผิดชอบเอง แต่ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีกก็ให้เป็นตาม กม.ได้เลย ยืนยันจะไม่เกิดอะไรแบบนี้อีก พร้อมกับขอโทษทั้งตัวจอย และครอบครัวของจอย โดยหลังจากนี้จะต้องพูดคุยกันเรื่องของการเยียวยา และยอมที่จะเปลี่ยนนามสกุลให้ไม่เหมือนกับจอยอีก ส่วนถ้ามีบุคคลเอาชื่อ นามสกุล และรูปภาพของคะแนน ไปสวมรอยอีก ก็จะต้องช่วยเหลือน้องจอย เนื่องจากคะแนนเอาชื่อของน้องมาใช้ ทางจอยเอง ก็รู้สึกสบายใจขึ้น และก็ยอมจบเรื่องราวแต่โดยดี
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น