ศาลอุทธรณ์ยืนประหารชีวิต บรรยิน ตั้งภากรณ์ ฆ่าอำพรางเสี่ยชูวงษ์
โดยคดีนี้นางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง ภรรยาของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืด นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างระดับประเทศ และพนักงานอัยการ ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง กรณีเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2558 นายชูวงษ์ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์หรูสีดำ ชนต้นไม้ที่มี พ.ต.ท.บรรยิน จำเลย เป็นคนขับ มีนายชูวงษ์นั่งข้างๆ โดยชนต้นไม้ริม ถ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ระหว่างซอย48 กับซอย 50 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. เป็นเหตุให้นายชูวงษ์ ถึงแก่ความตาย
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือเเล้วเห็นว่าวันเกิดเหตุ จำเลยออกจากสนามกอล์ฟและอยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้ายในเวลา 20.11 น. โดยไปถึงบริเวณริม ถ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ระหว่างซอย 48 กับซอย 50 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. ในเวลา 22.21 น. ทั้งที่ห่างจากสนามกอล์ฟเพียง 37 กม. แต่ใช้เวลาสองชั่วโมงจึงนานเกินไป ที่จำเลยให้การว่าขับเร็ว 80 กม.ต่อ ชม. และหักหลบรถที่แซงล้ำมาในเลน พยานดูแล้วไม่มีรถขับสวนมาจริง และพบว่าจำเลยขับรถมาเร็วไม่เกิน 30 กม.ต่อชม. ขณะที่พบว่า ศพผู้ตายไม่ได้เกิดจากขับรถไปชนต้นไม้ แต่เกิดจาการถูกตีด้วยของแข็งที่ใต้ศีรษะ เมื่อพิจารณาจากรอยช้ำที่ใบหน้า เปลือกตา ม่านตา อาหารในกระเพาะเชื่อว่านายชูวงศ์ตายก่อนเวลา 22.00 น.
พิพากษาว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและเพื่อปกปิดการกระทำผิดของตน พิพากษายืนให้ประหารชีวิตนอกจากนั้นเป็นไปตามศาลชั้นต้น
ภายหลังฟังคำพิพากษา นางวันเพ็ญ ธนธรรมสิริ พี่สาวของนายชูวงษ์ กล่าวว่า ศาลอาญาพระโขนงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นคดีฆาตกรรมน้องชาย รู้สึกพอใจในคำพิพากษา ขณะนี้ถือว่า พ.ต.ท.บรรยินถูกศาลอุทธรณ์สั่งประหารชีวิตแล้ว 2 คดีคือคดีนี้ รวมทั้งคดีฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา
เมื่อถามว่าถ้าหากจำเลยยื่นฎีกาจะทำให้คดีการฟ้องร้องในทางแพ่งล่าช้าไปอีกหรือไม่ น.ส.วันเพ็ญ กล่าวว่า คิดว่าคงไม่ล่าช้า เพราะตอนนี้เหลือเพียงกระบวนการในชั้นศาลฎีกาซึ่งคดีจะถึงที่สุด ส่วนคดีแพ่งในส่วนของหุ้น ตอนนี้ก็รอคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์อยู่