ฟังแล้วจุก! เด็กวัย14 ยอมรับวางแผนให้แฟนหนุ่มวัย16ลงมือฆ่าแม่แท้ๆ

จากกรณีที่เกิดเหตุสะเทือนใจกับเหตุการณ์เด็กหญิงอายุ 14 ปี ให้แฟนหนุ่มอายุ 16 ปีฆ่ามารดาของตัวเอง เหตุเกิดในห้องพักย่าน ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมานั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 65 พ.ต.ท.อุทิศ พาราษฎร สารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ เจ้าของคดี ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพเบิกตัวเด็กหญิงอายุ 14 ปี มาสอบปากคำเบื้องต้นเพื่อทำสำนวนฝากขังศาลเยาวชนผลัดแรกโดยหลังจากสอบคำของเด็กหญิง เสร็จก็จะนำตัวชายอายุ 16 ปีแฟนของเด็กหญิงที่เป็นผู้ลงมือฆ่ามาสอบปากคำด้วยเช่นกัน

เด็กหญิงได้ให้การ ยอมรับว่าวางแผนให้แฟนหนุ่มมาฆ่ามารดาจริง โดยเพิ่งวางแผนเมื่อวันที่ 7 เม.ย. และวันเกิดเหตุได้โทรนัดหมายกับแฟนหนุ่มให้มาลงมือฆ่าแม่ ส่วนสาเหตุที่ทำไป เด็กหญิงระบุว่าอาจเป็นเพราะจิตตก และ มาจากความโกรธแค้นที่ถูกดุด่าตั้งแต่เล็กจนโต บางครั้งเธอต้องการกำลังใจ แต่กลับถูกซ้ำเติม จนกลายเป็นคนเก็บกดและเกิดความแค้นสะสมจึงตัดสินใจลงมือในครั้งนี้

ด้านพี่ชายของเด็กหญิงที่พยายามเข้าช่วยเหลือมารดา แต่ได้ถูกแฟนหนุ่มของเด็กหญิงใช้มีดแทงได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า ได้ยินเสียงร้องโวยวายและมีเสียงคล้ายคนต่อสู้กัน จึงเปิดประตูห้องแต่เปิดไม่ได้เนื่องจากมีคนบล็อกประตูด้านนอกจน กระทั่งตนกระชากประตูจนเปิดได้และภาพแรกที่เห็นคือคนร้ายกำลังใช้มีดจ้องแทงแม่อยู่ และแม่ก็พยามต่อสู้จึงถูกแทงอีกหลายครั้ง ตนได้พยามเข้าไปช่วยแม่จึงถูกคนร้ายหันมาแทงได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้ยังช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ขณะที่หลานสาวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเป็นคนนิสัยดีมาก การที่ดุว่าลูก ๆ ก็เพราะรักและห่วงลูก พอทราบเรื่องก็ช็อกเหมือนกัน และยิ่งมาทราบว่าผู้ก่อเหตุนั้นคือลูกแท้ๆ ยิ่งรับไม่ได้ ตอนนี้แม้แต่ชื่อยังไม่อยากได้ยิน และในวันนี้จะมารับร่างผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จังหวัดเชียงใหม่

ต่อมา พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี ได้คุมตัวเด็กหญิงวัย 14 ปี และเยาวชนชาย วัย 16 ปี สองผู้ต้องหาที่ร่วมกันวางแผนฆ่ามารดาของฝ่ายหญิงและทำร้ายพี่ชายฝ่ายหญิงได้รับบาดเจ็บ โดยเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวออกมาจากห้องคุมขัง สภ.บางพลี เพื่อขึ้นรถห้องขังไปยังศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อขออำนาจศาลฝากขังผัดแรก

พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี เปิดเผยว่า สาเหตุของเหตุการณ์นี้น่าจะมาจากความไม่เข้าใจของเด็กที่มีต่อผู้ปกครอง มูลเหตุเรื่องนี้เกิดมาจากว่า ทั้งสองคนเป็นแฟนกัน โดยเด็กผู้หญิงเรียนอยู่ชั้น ม.2 ส่วนฝ่ายชายเรียนอยู่ชั้น ม.4 เนื่องจากสถานการณ์โควิดจากเด็กที่เคยเรียนดี พอมาเรียนออนไลน์ เวลาส่วนมากก็ใช้โทรคุยกันทำให้การเรียนไม่ดีจนผลการเรียนตก

เด็กผู้หญิงสอบตกไป 5 วิชา ผู้ปกครองก็ได้ดุด่าว่ากล่าว ตามประสาผู้ปกครอง เด็กผู้หญิงก็ไม่เข้าใจ ทำให้รู้สึกเหมือนถูกกดดัน เกิดความน้อยใจ ก็นัดฝ่ายชายมารับออกจากบ้านโดยเก็บเสื้อผ้าออกจากบ้านไปอยู่บ้านของฝ่ายผู้ชาย พอออกไปแล้วแม่ฝ่ายหญิงได้ออกตามหา และโทรตามให้กลับบ้าน พอถูกกดดันหนักๆ ฝ่ายชายจึงได้พาเด็กผู้หญิงกลับมาส่ง พอมาส่งผู้ปกครองของทางเด็กผู้หญิงได้ยึดโทรศัพท์ และดุด่าว่ากล่าว ทำนองว่า ยังเป็นเด็กกันอยู่ อย่าคบกันจนทำให้เสียการเรียน ก็ยึดโทรศัพท์ไว้ ให้ตั้งใจเรียน ปรากฏว่าเด็กผู้หญิงก็ไม่เข้าใจ

ฃพอฝ่ายชายกลับไปแล้ว เด็กผู้หญิงก็ได้ไปหาโทรศัพท์จนได้โทรศัพท์เครื่องเก่าของตนเอง แล้วก็สร้างเฟซบุ๊กขึ้นมาใหม่ แล้วแชทไปคุยกับฝ่ายชาย ซึ่งข้อความในแชทเป็นข้อความที่ค่อนข้างรุนแรง มีการนัดแนะมาเจอกัน ซึ่งขอไม่กล่าวเนื่องจากอยู่ในสำนวนคดี

สรุปคือมีการนัดแนะกันมาตามที่ปรากฏในข่าว ก็คือ มีการนัดมาเจอกันเมื่อคืน เด็กผู้หญิงเป็นคนวางแผนทั้งหมดเลย คือให้ทำอย่างโน้น ทำอย่างนี้ ทำอย่างนั้น แล้วพอถึงเวลา เด็กผู้หญิงก็ทำเป็นออกมาทิ้งขยะ เปิดประตูให้ ฝ่ายชายเข้ามาในห้อง แล้วก็ในช่วงจังหวะที่ผู้ปกครองของเด็กผู้หญิง เผลอฝ่ายชายได้ใช้มีดเข้ามาก่อเหตุ ปาดคอ แทงไปจำนวนหลายแผล ตามที่ปรากฏในข่าว พอพี่ชายตื่นขึ้นมาจะเข้าไปช่วย เด็กผู้หญิงก็ยังพยายามดันประตูไม่ให้เข้ามา แต่สู้แรงไม่ได้ พอดันเข้ามาได้ เด็กผู้ชายได้เข้าไปแทงพี่ชายของเด็กผู้หญิง จนได้รับบาดเจ็บ พอสายตรวจไปถึงที่เกิดเหตุก็ได้ควบคุมตัวไว้

จากการสอบถามเบื้องต้นสาเหตุน่าจะเกิดจากความไม่เข้าใจ น้อยใจ และก็ไม่เข้าใจความเป็นห่วงของผู้ปกครอง จึงทำให้การเกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้ขึ้น จากที่ดูเด็กไม่ได้มีอาการจิตตก ซึมเศร้า หรืออาการอะไร เพราะเท่าที่คุยกับผู้ปกครองของฝ่ายชาย น้องเป็นคนค่อนข้างเรียนเก่ง ส่วนเด็กผู้หญิง ปกติก็เรียนดี แต่เนื่องจากว่าอาจจะเป็นการแบ่งเวลาไม่เป็นมัวแต่มานั่งแชทคุยกัน เพราะปัญหาช่วงโควิดทำให้ไปมาหาสู่กันลำบาก และก็ช่วงเรียนออนไลน์อีก ก็ไม่ค่อยได้เรียนมั่วแต่มาคุยกัน จนทำให้ผลการเรียนตก