ตร.เคลียร์ คดีไฮโซแบงค์ล่าช้า เร่งรัดผลพฐ.แจ้งแต่สามีไม่ได้แจ้งพ่อ-แม่
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม ตร.เคลียร์ คดีไฮโซแบงค์ล่าช้า เร่งรัดผลพฐ.แจ้งแต่สามีไม่ได้แจ้งพ่อ-แม่
ผกก.ทองหล่อเคลียร์ คดีไฮโซแบงค์ รับล่าช้าจริง ทำหนังสือเร่งรัดผลตรวจจากพฐ.แล้ว ส่วนปมจอหมายสอบถามความคืบหน้า แจ้งสามีแล้วจึงไม่ได้แจ้งพ่อ-แม่
จากกรณีการเสียชีวิตของ นางกัลยรัตน์ อัครเดชเดชาชัย หรือ แบงค์ นักธุรกิจด้านธุรกิจความงามชื่อดัง เจ้าของ "อิมเมจินี่ และเดซี่ ดีว่าคลินิก" ที่ตอนแรกมีข่าวว่าจากไปด้วยโรคมะเร็ง หลังจากต่อสู้กับโรคร้ายนี้มานานหลายปี เมื่อวันที่ 3 ก.ย.2564 ซึ่งสร้างความเสียใจให้กับเพื่อน ๆ และคนในแวดวงสังคม ต่างออกมาแสดงความอาลัยเป็นจำนวนมาก
ต่อมาเวลา 10.00 น. วันที่ 23 พ.ย. 2564 ที่ สน.ทองหล่อ นายไตรรัตน์ ณ พัทลุง อายุ 80 ปี น.ส.กิรัติมา ณ พัทลุง อายุ 45 ปี ลูกสาว พร้อมด้วยนายเกรียงศักดิ์ อิ่มสมบูรณ์ ทนายความ เข้าพบ พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.ทองหล่อ และพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงสาเหตุการตายของนางกัลยรัตน์ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สรุปสาเหตุเป็นการ "ฆ่าตัวตาย"
โดยครอบครัวของผู้เสียชีวิตยังติดใจในสาเหตุได้ส่งจดหมายถึง ผกก.สน.ทองหล่อ เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี โดยนำใบมรณบัตรจากสำนักงานเขตวัฒนา มาแสดง ระบุสาเหตุการตาย "สำลักโลหิตจากบาดแผลถูกของมีคมบริเวณลำคอ"
ทั้งนี้นางกัลยรัตน์เสียชีวิตจนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลารวม 80 วัน ยังไม่ได้รับแจ้งผลการชันสูตรพลิกศพและสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง
ภายหลังทั้ง 3 คน เข้าพบเจ้าหน้าที่ประมาณ 20 นาที นายเกรียงศักดิ์ ออกมาเปิดเผยว่า ตำรวจได้ชี้แจงสาเหตุการสรุปสำนวนการเสียชีวิตล่าช้าแล้ว เนื่องจากผลการพิสูจน์หลักฐานประกอบต่างๆ ผลชันสูตรศพ ผลพิสูจน์หลักฐานการเสียชีวิตย่างละเอียดยังไม่ส่งถึงพนักงานสอบสวน
จึงยังไม่เรียกครอบครัวพ่อแม่ น้องสาว ผู้ตายสอบปากคำ ถ้าได้ผลเป็นทางการแล้ว มีประเด็นสงสัยอะไรถึงจะเรียกมาสอบสวน ถ้าสอบสวนพ่อแม่ผู้ตายตอนนี้อาจไม่เกิดประโยชน์
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุตำรวจได้เรียกสอบนายชวลิต อัครเดชเดชาชัย อายุ 58 ปี สามีผู้ตาย ทำธุรกิจร่วมกับภรรยา ที่พบศพเป็นคนแรก และน.ส.มังคุด อายุ 20 ปี ชาวเมียนมา แม่บ้าน เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ในห้องน้ำที่เกิดเหตุตำรวจพบทั้งมีดทำครัวและมีดคัตเตอร์ อย่างละเล่ม ส่วนบาดแผลพบที่บริเวณลำคอ 1 แผลแล้ว ยังพบบาดแผลที่แขนซ้ายอีกด้วย ซึ่งครอบครัวผู้เสียชีวิตพอใจเรื่องความคืบหน้าว่าสำนวนระดับหนึ่งเท่านั้น
ขณะที่น้องสาวผู้เสียชีวิตกล่าวเพิ่มเติมว่า ความสัมพันธ์ของครอบครัวกับสามีของพี่สาว ว่าไม่มีปัญหาอะไรกัน ส่วนมรดกของพี่สาวที่เป็นเจ้าของธุรกิจเสริมความงามคุณพ่อยืนร้องต่อศาลเพื่อขอตั้งให้ตนเป็นผู้จัดการมรดก แต่ไม่ทราบว่ามรดกของผู้เสียชีวิตมีจำนวนเท่าไหร่
ด้าน พ.ต.อ.โชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่าภายหลังจากที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้เข้ามาพูดคุย ก็ทราบและเข้าใจ ซึ่งตามกระบวนการแล้วคือรอผลการตรวจชันสูตร พิสูจน์หลักฐานอย่างละเอียด จากทางแพทย์และกองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งเวลานี้เจ้าหน้าที่ได้ทำหนังสือเร่งรัดไปแล้ว
ส่วนในเรื่องของการสอบปากคำก็ได้สอบไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามต้องรอผลการชันสูตรเป็นหลักก่อน ส่วนเรื่องจดหมายที่ครอบครัวทวงถาม ว่าไม่ได้รับการติดต่อเลยนั้น
เบื้องต้นตอนพบศพ เจ้าหน้าที่ทราบว่าผู้เสียชีวิตมีครอบครัว จึงแจ้งรายละเอียดไปทางสามีของผู้เสียชีวิต จึงไม่ได้แจ้งไปทางครอบครัว(พ่อแม่และน้องสาว)
จึงยังไม่เรียกครอบครัวพ่อแม่ น้องสาว ผู้ตายสอบปากคำ ถ้าได้ผลเป็นทางการแล้ว มีประเด็นสงสัยอะไรถึงจะเรียกมาสอบสวน ถ้าสอบสวนพ่อแม่ผู้ตายตอนนี้อาจไม่เกิดประโยชน์
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุตำรวจได้เรียกสอบนายชวลิต อัครเดชเดชาชัย อายุ 58 ปี สามีผู้ตาย ทำธุรกิจร่วมกับภรรยา ที่พบศพเป็นคนแรก และน.ส.มังคุด อายุ 20 ปี ชาวเมียนมา แม่บ้าน เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ในห้องน้ำที่เกิดเหตุตำรวจพบทั้งมีดทำครัวและมีดคัตเตอร์ อย่างละเล่ม ส่วนบาดแผลพบที่บริเวณลำคอ 1 แผลแล้ว ยังพบบาดแผลที่แขนซ้ายอีกด้วย ซึ่งครอบครัวผู้เสียชีวิตพอใจเรื่องความคืบหน้าว่าสำนวนระดับหนึ่งเท่านั้น
ขณะที่น้องสาวผู้เสียชีวิตกล่าวเพิ่มเติมว่า ความสัมพันธ์ของครอบครัวกับสามีของพี่สาว ว่าไม่มีปัญหาอะไรกัน ส่วนมรดกของพี่สาวที่เป็นเจ้าของธุรกิจเสริมความงามคุณพ่อยืนร้องต่อศาลเพื่อขอตั้งให้ตนเป็นผู้จัดการมรดก แต่ไม่ทราบว่ามรดกของผู้เสียชีวิตมีจำนวนเท่าไหร่
ด้าน พ.ต.อ.โชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่าภายหลังจากที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้เข้ามาพูดคุย ก็ทราบและเข้าใจ ซึ่งตามกระบวนการแล้วคือรอผลการตรวจชันสูตร พิสูจน์หลักฐานอย่างละเอียด จากทางแพทย์และกองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งเวลานี้เจ้าหน้าที่ได้ทำหนังสือเร่งรัดไปแล้ว
ส่วนในเรื่องของการสอบปากคำก็ได้สอบไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามต้องรอผลการชันสูตรเป็นหลักก่อน ส่วนเรื่องจดหมายที่ครอบครัวทวงถาม ว่าไม่ได้รับการติดต่อเลยนั้น
เบื้องต้นตอนพบศพ เจ้าหน้าที่ทราบว่าผู้เสียชีวิตมีครอบครัว จึงแจ้งรายละเอียดไปทางสามีของผู้เสียชีวิต จึงไม่ได้แจ้งไปทางครอบครัว(พ่อแม่และน้องสาว)
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น