ช็อก! ครอบครัวเผยไฮโซแบงค์ ไม่ได้ตายเพราะมะเร็ง-ไม่เชื่อฆ่าตัวตาย


ช็อก! ครอบครัวเผยไฮโซแบงค์ ไม่ได้ตายเพราะมะเร็ง-ไม่เชื่อฆ่าตัวตาย

จากกรณีการเสียชีวิตของ นางกัลยรัตน์ อัครเดชเดชาชัย หรือ แบงค์ นักธุรกิจด้านธุรกิจความงามชื่อดัง เจ้าของ "อิมเมจินี่ และเดซี่ ดีว่าคลินิก" ที่ตอนแรกมีข่าวว่าจากไปด้วยโรคมะเร็ง หลังจากต่อสู้กับโรคร้ายนี้มานานหลายปี เมื่อวันที่ 3 ก.ย.2564 ซึ่งสร้างความเสียใจให้กับเพื่อน ๆ และคนในแวดวงสังคม ต่างออกมาแสดงความอาลัยเป็นจำนวนมาก


ช็อก! ครอบครัวเผยไฮโซแบงค์ ไม่ได้ตายเพราะมะเร็ง-ไม่เชื่อฆ่าตัวตาย

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 พ.ย.2564 ที่สน.ทองหล่อ นายไตรรัตน์ พร้อมด้วย นางแกมกาญจน์ และ น.ส.กิรัติมา ณ พัทลุง ในฐานะเป็นบิดา และน้องสาวของ นางกัลยรัตน์ อัครเดชเดซาชัย เดินทางมาติดตามความคืบหน้าการสืบสวนคดี โดยวันที่เสียชีวิตตำรวจได้สรุปสาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นว่าเป็นการ "ฆ่าตัวตาย" ซึ่งทางครอบครัวต่างข้องใจในสาเหตุการเสียชีวิตที่ตำรวจได้สรุปคดี

ทั้งนี้ นายไตรรัตน์ และ นางแกมกาญจน์ ณ พัทลุง พ่อและแม่ ได้ส่งจดหมายถึง ผกก.สน.ทองหล่อ เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อติดตามความคืบหน้าของการสืบสวน รวมถึงขอรับทราบรายงานการชันสูตรพลิกศพ ซึ่งจนถึงขณะนี้ นางกัลยรัตน์ ได้เสียชีวิตจนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลาร่วม 80 วัน ก็ยังไม่ได้รับการแจ้งผลการชันสูตรพลิกศพและสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงจากตำรวจผู้รับผิดชอบสำนวนคดี จึงได้เดินทางมาเพื่อติดตามความคืบหน้าของสำนวนคดีที่สน.ทองหล่อ ด้วยตนเอง

น.ส.กิรัติมา กล่าวว่า หลังจากที่นางกัลยรัตน์เสียชีวิต ตำรวจได้สรุปสาเหตุการเสียชีวิตว่าเป็นการ "ฆ่าตัวตาย" ทางครอบครัว คือ คุณพ่อ คุณแม่ รวมทั้งตนเองที่เป็นน้องสาว ต่างก็ไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นเช่นนั้น เพราะแม้ว่าพี่สาวจะป่วยจริงตามที่เป็นข่าว แต่เพื่อน ๆ ที่ใกล้ชิด และคนที่รูจักพี่สาวดี จะทราบว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา พี่สาวมีกำลังใจอย่างสูงในการต่อสู้โรคร้ายมาโดยตลอด เพราะพี่สาวเป็นผู้หญิงนักสู้ เข้มแข็ง มองโลกในแง่บวก


ช็อก! ครอบครัวเผยไฮโซแบงค์ ไม่ได้ตายเพราะมะเร็ง-ไม่เชื่อฆ่าตัวตาย

น.ส.กิรัติมา กล่าวต่อว่า ทางครอบครัวจึงได้เขียนจดหมายส่งถึง สน.ทองหล่อ เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา ร้องขอให้เร่งสอบสวนสาเหตุการตายของพี่สาว และแจ้งให้ทางครอบครัวได้ทราบเพื่อขจัดข้อข้องใจ แต่ถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครติดต่อกลับมา ประเด็นคือ ทางคุณพ่อคุณแม่ก็รู้สึกทุกข์ใจ และเสียใจกับเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้น ซึ่งทางครอบครัวต้องการรับทราบผลการสอบสวน และรายงานการชันสูตรพลิกศพ เพื่อให้ได้ทราบว่าสาเหตุการเสียชีวิตของพี่สาวที่แท้จริงคืออะไร

"ซึ่งโดยปกติแล้วดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วสำนวนคดีการเสียชีวิตลักษณะนี้ประมวลกฎหมายวธีพิจารณาความอาญา มาตรา 1 บิดามารดา ญาติ ก่อนสรุปสำนวนการ รวมถึงต้องดำเนินการสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้อง อาทิ สามี สอบสวนนำส่งพนักงานอัยการ แต่จนถึงขณะนี้ พี่แบงค์เสียชีวิตมาร่วม 80 วันแล้ว ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจท่านใดโทรแจ้งคุณพ่อคุณแม่ หรือเรียกเข้าไปให้ปากคำ ทางเราจึงต้องเดินทางมาด้วยตัวเองเพื่อร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตาม และเร่งรัดผลคดี และค้นหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงให้ครอบครัวได้รับทราบและเพื่อไขข้อข้องใจ" น.ส.กิรัติมา กล่าว

น.ส.กิรัติมา กล่าวว่า ที่ต้องเดินทางมาในวันนี้เพราะเหตุเกิดผ่านมานานกว่า 80 วัน แล้วแต่ทางพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ไม่มีการแจ้งความคืบหน้าในการดำเนินคดีใด ๆ กับทางครอบครัว ทั้งยังไม่เคยมีการเรียกสอบครอบครัวของผู้ตาย มีเพียงการเรียกสอบ สามี และแม่บ้าน ที่อยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุเท่านั้น ส่วนพ่อแม่และน้องสาว ไม่เคยถูกเรียกสอบแต่อย่างใด

ช็อก! ครอบครัวเผยไฮโซแบงค์ ไม่ได้ตายเพราะมะเร็ง-ไม่เชื่อฆ่าตัวตาย

น.ส.กิรัติมา กล่าวต่อว่า เรื่องการฆ่าตัวตายทางครอบครัวไม่เชื่อว่าพี่สาวจะเป็นผู้ก่อเหตุฆ่าตัวตาย เพราะพี่สาวเป็นนักสู้ เป็นคนเข้มแข็ง มองโลกในแง่บวก ธุรกิจที่ทำอยู่ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหาหนี้สิน และแม้ว่าพี่สาวจะมีอาการป่วยหนักที่ต้องรักษาตัวแต่ก็อยู่ในขั้นตอนการรักษาด้วยเคมีบำบัด (คีโม) ใกล้ครบขั้นตอนการรักษาแล้ว ซึ่งตัวพี่สาวเองก็ไม่ได้มีสัญญาณบ่งชี้ใด ๆ ว่าจะมีการก่อเหตุฆ่าตัวตาย

น.ส.กิรัติมา กล่าวอีกว่า ประกอบกับทางครอบครัวมีประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับเวลาการตายที่ระบุในเอกสารใบมรณะบัตร ที่มีการลงเวลาไว้ 20.45 น. ทั้ง ๆ ที่ทางครอบครัวทราบเรื่องจากทางบ้านพี่สาวว่ามีการพบศพพี่สาวเสียชีวิตในห้องน้ำประมาณ 19.30 น. จึงเกิดข้อสงสัยเกี่ยวช่วงเวลาที่คลาดเคลื่อน

น้องสาวผู้ตาย กล่าวด้วยว่า และอีกประเด็นคือเรื่องของอาวุธที่ใช้ตอนแรก มีการระบุว่า ใช้อาวุธมีดทำครัวในการก่อเหตุแต่ภายหลังมีการระบุว่าใช้คัตเตอร์ ซึ่งในวันนี้ได้นำเอกสารหลักฐานใบรับรองการตายที่มีการระบุว่าพี่สาวเสียชีวิตจากการสำลักเลือดจากบาดแผลถูกของมีคมบริเวณลำคอ มาแสดงต่อพนักงานสอบสวน


ช็อก! ครอบครัวเผยไฮโซแบงค์ ไม่ได้ตายเพราะมะเร็ง-ไม่เชื่อฆ่าตัวตาย

ด้าน นายเกรียงศักดิ์ อิ่มสมบูรณ์ ทนายความ ระบุว่า ภายหลังจะเข้าพบพนักงานสอบสวนทราบว่าขณะนี้ในส่วนของเรื่องสำนวนยังต้องรอผลการพิสูจน์หลักฐานที่ทางตำรวจส่งให้สำนักงานพิสูจน์หลักฐานสำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบซึ่งอยู่ระหว่างการรอผลซึ่งตามขั้นตอนปกติจะมีการแจ้งผลภายใน 60 วันหลังจากส่งตรวจพิสูจน์แต่สามารถยื่นขอเลื่อนการส่งผลได้รอบละ 30 วัน จึงเป็นเหตุให้ทางตำรวจยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของการเสียชีวิตได้

ส่วนประเด็นเกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สินและมรดกของผู้เสียชีวิต ต่อจากนี้ทางครอบครัวจะมีการยื่นขอให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดก แม้ว่า ผู้ตายจะจดทะเบียนสมรสกับทางสามีแต่ผู้ตายไม่มีบุตร ทำให้ทายาทลำดับขั้นมีพ่อและแม่ของผู้เสียชีวิตรวมถึงสามีจึงต้องมีการร้องขอให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดกเพื่อแบ่งมรดกที่ขนาดนี้ต้องแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ สินส่วนตัวและสินสมรส ซึ่งคาดว่าจะมีการยื่นขอให้ศาลพิจารณา ตั้ง น.ส.กิรัติมา เป็นผู้จัดการมรดก


ช็อก! ครอบครัวเผยไฮโซแบงค์ ไม่ได้ตายเพราะมะเร็ง-ไม่เชื่อฆ่าตัวตาย

ด้าน น.ส.กิรัติมา ระบุภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวนว่า สำหรับประเด็นที่ทางครอบครัวต้องรอถึง 80 วันถึงมีการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวการฆ่าตัวตาย ยืนยันว่าทางครอบครัวมีการสงสัยตั้งแต่วันแรกแต่รอเวลาให้ทางตำรวจดำเนินการและรอให้ตำรวจเรียกเข้าให้ปากคำ แต่ตำรวจไม่มีการเรียกเข้าให้ปากคำจึงมีการส่งหนังสือเพื่อขอเข้าพบในวันนี้

น.ส.กิรัติมา กล่าวต่อว่า สำหรับตัวสามีของพี่สาวตั้งแต่เกิดเหตุยังไม่ค่อยได้มีการพูดคุยมากนัก และโดยส่วนตัวจะพบสามีของพี่สาวตามช่วงโอกาสสำคัญของทางครอบครัวเท่านั้น และทราบว่าในวันเกิดเหตุสามีของพี่สาวเป็นผู้แจ้งคนแรกว่าพบศพพี่สาวเสียชีวิตอยู่ในห้องน้ำ แต่ไม่ทราบว่าขณะเกิดเหตุภายในบ้านมีใครอยู่บ้าง

ช็อก! ครอบครัวเผยไฮโซแบงค์ ไม่ได้ตายเพราะมะเร็ง-ไม่เชื่อฆ่าตัวตาย


ช็อก! ครอบครัวเผยไฮโซแบงค์ ไม่ได้ตายเพราะมะเร็ง-ไม่เชื่อฆ่าตัวตาย


ช็อก! ครอบครัวเผยไฮโซแบงค์ ไม่ได้ตายเพราะมะเร็ง-ไม่เชื่อฆ่าตัวตาย


ช็อก! ครอบครัวเผยไฮโซแบงค์ ไม่ได้ตายเพราะมะเร็ง-ไม่เชื่อฆ่าตัวตาย

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์