ค้นห้องพ่อเลี้ยง-แม่เลี้ยงพิยดา เชื่อมีเอี่ยวพาหนี ตะลึงเหยื่อแจ้งจับ40คดีทั่วประเทศ
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม ค้นห้องพ่อเลี้ยง-แม่เลี้ยงพิยดา เชื่อมีเอี่ยวพาหนี ตะลึงเหยื่อแจ้งจับ40คดีทั่วประเทศ
จากกรณีจับกุม น.ส.พิยดา ทองคำพันธ์ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นตัวการใหญ่ขบวนการหลอกขายไอโฟนผ่านอินสตราแกรม เป็นเหตุให้เหยื่อวัย 14 ปี ที่ถูกหลอกเครียดจนเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต
ความคืบหน้าช่วงเช้าที่ผ่านมา (29 ก.ย.) ตำรวจกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) นำหมายศาลเข้าตรวจค้นห้องพักใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ที่พ่อ และแม่เลี้ยงของ น.ส.พิยดา ไปเปิดพักไว้ ระหว่างรอการทำเรื่องประกันตัว น.ส.พิยดา กับศาลจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเช้าวันนี้ หลังวานนี้เข้ารายงานตัวกับตำรวจ สภ.นาหวาย
จากการค้นห้องพัก พ่อ-แม่เลี้ยง "พิยดา" ค้นพบ 1.โทรศัพท์ยี่ห้อไอโฟน 4 เครื่อง (หนึ่งในนั้นมีเครื่องของ ผู้ต้องหา) 2.เงินสดประมาณ 700,000 บาท การค้นดังกล่าว เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเนื่องจากคาดว่าทั้งคู่จะมีส่วนรู้เห็นในการพา น.ส.พิยดา หลบหนี อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ก็เตรียมอายัดตัวไปดำเนินคดีในท้องที่อื่นที่มีหมายจับจากคดีเดียวกัน
จากนั้นสภ.นาหวาย ทางพนักงานสอบสวนได้เชิญตัวพ่อและแม่เลี้ยงของนางสาวพิยดา เข้าทำการสอบปากคำด้วยเพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับคดีเพิ่มเติม นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังยึดทรัพย์สิน ประกอบด้วย รถยนต์ยี่ห้อ BMW รุ่น X1 พร้อมด้วยโทรศัพท์มือถือและเงินสดประมาณ 500,000 บาท รวมทั้งทรัพย์สินต่างๆ อีกจำนวนหนึ่งไว้เพื่อตรวจสอบด้วย
ทั้งนี้รายงานข่าวแจ้งว่าก่อนที่จะเข้ามอบตัวนั้น นางสาวพิยดา พร้อมด้วยพ่อและแม่เลี้ยง ได้เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเข้าพักในรีสอร์ตแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 ก.ย.64 ที่ผ่านมา หลังจากที่ทราบว่ามีการออกหมายจับนางสาวพิยดา โดยมีการเตรียมพร้อมเงินสดมาด้วยสำหรับการประกันตัว และได้เข้ามอบตัววานนี้
ล่าสุด พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือบช.สอท. หรือตำรวจไซเบอร์ กล่าวถึงการสืบสวนติดตามเอาผิด พิยดา ผู้บงการใหญ่หลอกขายมือถือว่า
จากการสืบสวนของตำรวจพบว่าผู้ต้องหาใช้บัญชีของบุคคลอื่น เพื่อส่งถ่ายเงินไปยังบัญชีส่วนตัวของผู้ต้องหามากกว่า 100 บัญชี โดยพบมีบัญชีที่มีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงผู้ต้องหาชัดเจนประมาณ 40 บัญชี ตอนนี้ตำรวจทราบบุคคลที่เป็นเจ้าของบัญชีต่างๆแล้ว และเตรียมออกหมายเรียกมาสอบปากคำ จากการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ต้องหาว่าจ้างบุคคลอื่นให้เปิดบัญชีและรับโอนเงินส่งต่อไปยังบัญชีส่วนตัวให้บัญชีละ 8,000 บาท โดยประกาศว่าจ้างเปิดบัญชีในโลกโซเชียลอย่างชัดเจน
พล.ต.ท.กรไชย กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพบข้อมูลผู้เสียหายแจ้งความเอาผิดผู้ต้องหามากกว่า 40 คดีทั่วประเทศ แต่บางพื้นที่ยังไม่สามารถดำเนินการออกหมายจับได้ เพราะไม่มีข้อมูลทางเทคนิคไปยื่นต่อศาลให้ออกหมายจับ ตำรวจ บช.สอท.อยู่ระหว่างสรุปข้อมูลพยานหลักฐานทางเทคนิคต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเชื่อว่าสามารถใช้ในการขอศาลออกหมายจับได้ และจะส่งต่อไปยังสถานีตำรวจต่างๆ ที่มีผู้เสียหายแจ้งความไว้ เพื่อออกหมายจับและอายัดตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดี
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น