ไขปริศนา วิธีคลี่คลายคดี น้องชมพู่ ด้วยเครื่องมือทันสมัยสุดในเอเชีย
พยานหลักฐานส่วนหนึ่งจากทั้งหมด 16 ชิ้น ที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่เปิดเผยต่อสื่อมาก่อนหน้านี้คือเส้นผม 36 เส้นที่ถูกหั่นความยาวประมาณ 1 เซนติเมตร และเส้นขนอีกอย่างน้อย 3 เส้น
เส้นผม และเส้นขน ที่ตกอยู่ใกล้จุดพบศพน้องชมพู่ จึงเป็นพยานสำคัญส่วนหนึ่งที่พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพยายามหาความเชื่อมโยงไปสู่ตัวคนร้ายในทุกมิติ โดยในคดีนี้มีการตรวจพิสูจน์ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่และได้มาตรฐาน การตรวจเชิงวิทยาศาสตร์ด้วยแสงที่มีความแม่นยำสูง ละเอียดระดับนาโนเมตร จึงเกิดขึ้น
ทีมข่าว 3 มิติได้เดินทางไปที่สถาบันวิจัยแสงซินโคร ตรอน พร้อมกับได้รับการเปิดเผยว่า สถาบันเริ่มมีการตรวจเชิงนิติวิทยาศาสตร์ ด้วยอุปกรณ์เครื่องมือที่ทันสมัยที่สุดในเอเชีย โดยมีเครื่องมือหลายชนิด ที่จะแยกโครงสร้างของเส้นผม หรือเส้นขนได้ จนทราบที่มา และเมื่อเปรียบเทียบกับคดีในต่างประเทศ การใช้เครื่องมือที่มีความละเอียดสูงเช่นเดียวกับที่สถาบันมีอยู่ สามารถคลี่คลายคดีสำคัญๆมาแล้ว
เครื่องโทโมกราฟฟี ซึ่งจะนำตัวอย่าง เช่นเส้นผม เส้นขน ใส่หลอด เพื่อตรวจหาโครงสร้าง และการอ่านค่าหลังจากการหมุน 180 องศา ก็จะปรากฎเห็นภาพโครงสร้างของเส้นผม และเส้นขนอย่างละเอียด รวมทั้งการใช้รังษีเอ็กซ์ ตรวจโครงสร้างวัสดุระดับอะตอม เพื่อดูสถานะ ของธาตุที่อยู่ในวัตถุ ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้ช่วยคลี่คลายคดีเชิงนิติวิทยาศาสตร์มาแล้ว 3-4 คดี
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามที่ตำรวจจะคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ในหลายมิติ โดยนักวิทยาศาสตร์ จากหลายสาขา หลายสถาบันที่มีความเชียวชาญเฉพาะทาง รวมไปถึงนักกีฎะวิทยา ที่ตรวจช่วงเวลาชีวิตของหนอนและแมลง
โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า การคลี่คลายคดีไม่ได้ช้า เพราะการตรวจแต่ละขั้นตอนต้องใช้เวลา เช่นการตรวจโดยใช้ลำแสงซินโครตรอน ก็ต้องรอช่วงเวลาวันที่มีแสงมากทีสุด รวมทั้งการตรวจรอยตัดของเส้นผม กับมีด คดีนี้ตำรวจทำดีที่สุดและละเอียดทุกขั้นตอนเท่าที่พยานหลักฐานจะเหลืออยู่ให้ตรวจ โดยไม่ได้ ไต่สวนตามโลกโซเชียล จนเกิดปรากฎการณ์ประหลาดในสังคม ที่เกิดขึ้นกับคดีนี้
ส่วนการจำลองเหตุการณ์เสมือนจริง ตำรวจได้จำลองหลายสิบครั้งจนแน่ใจ ่ ขณะที่การสอบสวน นายไชย์พล ในช่วงเลาที่น้องชมพู่หายไป นายไชย์พลให้ปากคำไม่ชัดเจนว่าตัวเขาเองอยู่ที่ไหน