เปิดคำพิพากษาศาลอุทรณ์ ก่อนลุงวิศวกรยิงเด็กหนีศาลฎีกา
ในคำพิพากษาบรรยายไว้ว่า
" .. ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิเคราะห์แล้วเห็นว่าเมื่อพวกของผู้ตายขับรถตู้มาจอดที่หน้าร้านขายของฝากกีดขวางทางออกของจำเลยแล้วมีการโต้เถียงกันนั้นยังไม่ปรากฏว่ามีถ้อยคำพูดที่ไม่สุภาพจากฝ่ายใด แต่หลังจากที่จำเลยกะพริบไฟใส่รถตู้และบีบแตรรถหลายครั้ง จำเลยเริ่มใช้ถ้อยคำพูดไม่สุภาพในลักษณะยั่วโทสะพวกของผู้ตาย โดยขณะนั้นจำเลยมีอาวุธปืนของกลางอยู่ใกล้ตัวแสดงว่าจำเลยและภริยามีโทสะและพอที่จะมีเหตุวิวาทกับพวกของผู้ตายที่จำเลยอุทธรณ์อ้างว่าเหตุการณ์ในขณะนั้นมีปากเสียงกันเพียงเล็กน้อยและจบลงแล้วจึงฟังไม่ขึ้น
เมื่อพวกของผู้ตายขับรถตู้และรถเก๋งออกไปแล้ว หากจำเลยมีสติรู้จักยับยั้งชั่งใจอารมณ์ร้อนโดยจอดรถสักพักหนึ่งก่อนเพื่อให้โทสะคลายลงแล้วค่อยขับรถออกไป เหตุทะเลาะวิวาทในคดีนี้คงไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอนแต่จำเลยกลับขับรถตามไปในทันทีขับแซงรถตู้และบีบแตรยาวใส่ แสดงให้เห็นว่าจงใจเจตนายั่วโทสะพวกของผู้ตาย มิได้บีบแตรเตือนดังที่จำเลยอ้างในอุทธรณ์ และจำเลยขับไปอยู่ด้านหน้า เมื่อพวกของผู้ตายซึ่งขับตามรถจำเลยไปมาบีบแตรยาวและเปิดไฟสูงใส่รถจำเลย อันเป็นการส่งสัญญาณความไม่พอใจและท้าทาย จำเลยชะลอความเร็วลงจนเกือบจะหยุดรถเพื่อให้พวกผู้ตายขับชนท้ายและบีบแตรในลักษณะส่งสัญญาณโต้ตอบกลับไป อันเป็นการรับคำท้าทายของฝ่ายผู้ตายกับพวก ทั้งมีเจตนายั่วโทสะฝ่ายผู้ตายให้เพิ่มมากขึ้นและไม่กรงกลัวว่าจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน
แม้ฝ่ายผู้ตายกับพวกทำร้ายร่างกายจำเลยก่อนจำเลยจึงใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นต่อเนื่องเชื่อมโยงกันมาไม่ขาดตอน นับระยะเวลาตั้งแต่ต้นจนจบเพียง 5 นาทีเศษ ตามพฤติการณ์เป็นกรณีจำเลยเป็นผู้เริ่มต้นก่อให้เกิดเหตุทะเลาะวิวาทและเมื่อจำเลยยั่วโทสะท้าทายจนฝ่ายผู้ตายโต้ตอบและสมัครใจร่วมวิวาทกับจำเลยแล้ว จำเลยไม่อาจกล่าวอ้างว่าฝ่ายผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุและเมื่อเหตุการณ์ทวีความรุนแรงขึ้น จำเลยจำต้องชักปืนออกมายิงเพื่อป้องกันชีวิตของจำเลยและคนในครอบครัวอันเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น .. "
เบื้องต้น มีรายงานว่า วันนี้(12-05-2021) นายวันชัย แสงสุวรรณ์ ทนายฝ่ายผู้เสียชีวิต (นายนวพล ผึ่งผาย หรือปอนด์ อายุ 17 ปี ) ได้เป็นตัวแทนฝ่ายโจทก์ผู้เสียหายเดินทางมารับฟังคำพิพากษาศาลฎีกา โดยนัดหมายในเวลา 09.40 น. ผู้พิพากษาได้รอทั้งจำเลย คือ นายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ อายุ 56 ปี วิศวกรบริษัทฯ เป็นจำเลยในความผิดฐานพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และทนายฝ่ายจำเลย จนเวลาล่วงเลยไปเกือบ 10.30 น. ไม่มีวี่แววว่าจำเลยและทนายฝ่ายจำเลยจะเดินทางมาตามนัด และไม่มีท่าทีว่าจะติดต่อกลับมา
ผู้พิพากษาจึงทำตามกระบวนการตามกฎหมาย คือสั่งยึดริบเงินประกันจำนวน 874,000 บาท พร้อมออกหมายจับ นายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ หรือลุงวิศวะ โดยภายใน 1 เดือนหากจับกุมตัวได้จะคุมตัวมาฟังคำพิพากษา แต่หากยังตามจับกุมตัวไม่ได้ จะอ่านคำพิพากษาลับหลัง จในวันที่ 17 มิถุนายน 2564 ในเวลา 09.00 น.