แฉ! ฝรั่งเหี้ยม ฆ่าเมียไทย-ประวัติอาชญากรรมยาวเหยียดในสหรัฐฯ
วันที่ 6 พ.ค. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับตัวนายเจสัน ได้ในพื้นที่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ขณะที่เจ้าตัวบังคับโดรนเพื่อดูภาพมุมสูงอยู่ พบบาดแผลถลอกที่แขนใกล้ข้อศอก และขาซ้ายด้วยนั้น สอบเค้นจนทราบว่าก่อเหตุฆาตกรรมภรรยาและนำศพไปยัดถังทิ้งในป่า ก่อนหลบหนีข้ามมาที่ จ.เชียงใหม่นั้น
ในช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้มีโอกาสเข้าไปปูพรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็รู้สึกขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกภาคส่วน ที่เข้ามาช่วยเหลือในการค้นหาลูกสาวของตน ตนเห็นว่าเจ้าหน้าที่ร่วมมือร่วมใจกัน จึงมีความเชื่อมั่นในฝีมือเจ้าหน้าที่ตำรวจเลยไม่ได้ไปดูหมอทรงที่ไหนเพิ่มเติม
โดยขับรถหน้าตาเฉย ไม่สวมหมวกกันน็อก ใส่หน้ากากอนามัย ใส่แว่นตากันลม ผ่านด่านมุ่งหน้าตามทาง จ.แพร่ ไม่ได้มีท่าทีเร่งรีบแต่อย่างใด
จังหวะกลับออกมา คนร้ายน่าจะขับรถล้มเนื่องจากถนนลื่น พื้นที่มีฝนตกเล็กน้อย และคนร้ายมีการเร่งเครื่องยนต์ยิ่งทำให้จำได้ ประกอบกับหลังจากข่าวเริ่มดัง หลานตนเองซึ่งอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งมาเล่าว่า เห็นชายชาวต่างชาติขับรถจักรยานยนต์สีแดง ท่อดังเข้ามา ซึ่งเป็นคันเดียวกันกับที่เป็นข่าว รถคันนี้ปกติไม่เคยเข้ามาในหมู่บ้าน และหมู่บ้านไม่มีรถท่อดัง ทำให้เป็นที่จดจำง่าย เส้นทางหมู่บ้านตนเป็นทางตัน แต่คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้เส้นทางน่าน แพร่ ลำปาง ลำพูน เพื่อไปเชียงใหม่ อีกทั้งเส้นทางนี้ใกล้กว่าเส้นทางอื่น
ตนเองยังได้ข้อมูลจากชาวบ้านเพิ่มเติมว่าช่วงเช้าของวันที่ 4 พ.ค. เห็นคนร้ายเร่งเครื่องยนต์ผ่านหมู่บ้าน จึงคาดว่าชายชาวต่างชาติอาจพักอยู่ตามเถียงนา
ส่วนตัวรู้สึกตกใจว่ามีชาวบ้านมาบอกว่ามีคนเอาศพมาทิ้งไว้ใกล้บ้านตน แต่ตนก็ไม่ได้กลัว มองว่าคนก่อเหตุทำรุนแรงเกินไป ตนอยากทราบสาเหตุว่าทำไปเพราะอะไร ปกติแล้วตนเป็นแฟนข่าวอมรินทร์ทีวี ก็ติดตามข่าวเป็นประจำ ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุอาชญากรรมใกล้บ้านตัวเอง
นอกจากนี้ในวันที่ 3 พ.ค. ตนเองก็เห็นว่ามีรถวิบากคันที่นายเจสันใช้หลบหนีเพิ่งมาส่ง แต่นายเจสันไม่อยู่บ้านพร้อมรถกระบะ ซึ่งทราบภายหลังจากตำรวจว่าผู้ตายเป็นคนซื้อรถคันนี้ให้ หลังจากนั้นตนก็เห็นนายเจสันกลับเข้ามาบ้าน ก่อนแม่ฝ่ายหญิงมาและนายเจสันก็ขับรถออกไป ซึ่งแปลก เพราะปกตินายเจสันไม่เคยขับรถกระบะ ตนไม่คิดว่านายเจสันเตรียมการ เพราะที่ผ่านมาก็ดูซื้อของเข้าบ้าน เหมือนจะปักหลักอยู่แบบจริงจัง ส่วนถังขยะเขียว ยืนยันว่าในหมู่บ้านไม่มี คาดว่าคงซื้อมาใหม่ ตามห้างสรรพสินค้าที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านพัก
หลังถูกจับ ตำรวจเมืองมี้ด ที่โคโลราโด ได้สอบสวนขยายผล ก่อนที่บุกไปตรวจค้นโกดังเก็บของแห่งหนึ่งของเจสัน และพบอาวุธปืนถูกซุกซ่อนอยู่อีก 7 กระบอก ทำให้จำนวนอาวุธปืนที่ตำรวจยึดได้มีทั้งสิ้น 79 กระบอก หลังจากนั้น ตำรวจได้ส่งตัวเจสันฝากขังชั่วคราวที่เรือนจำในเขตปกครอง เวลด์ เคาน์ตี้ เพื่อรอการพิจารณาคดีในชั้นศาล เมื่อ 31 ธ.ค. 63 แต่นายเจสันได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว และหลบหนีมายังประเทศไทย
นอกจากนี้ นายเจสัน มีประวัติอาชญากรรมยาวเหยียดในสหรัฐฯ ประกอบด้วย คดีละเมิดคำสั่งคุ้มครอง ห้ามเข้าใกล้บุคคลตามคำสั่งศาล จำนวน 74 คดี ดีครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต 2 คดี คดีครอบครองอาวุธร้ายแรง (อาวุธที่ใช้ในสงคราม) 2 คดี คดีทำร้ายร่างกายอดีตแฟนสาว 1 คดี เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 62 ศาลตัดสินให้เจสันรับโทษจำคุกเป็นเวลา 2 ปี แต่โทษจำคุกนั้นให้รอลงอาญา
จากข้อมูลทั้งหมด นายเจสัน แม็ทธิว บัลเซอร์ วัย 32 ปี มีคดีอาชญากรรมติดตัวรวมทั้งหมด 79 คดี ก่อนหลบหนีเข้ามายังประเทศไทยและล่าสุดฆาตกรรมภรรยาชายไทย
VV
V