จ่อเอาผิดเรียงตัว พระ-ชี-ศิษย์ ปล่อยอดีตพระตัดหัวต่อหน้า

จากกรณีอดีตพระธรรมกร ฐานธัมโม หรือ นายธรรมกร วังปรีชา อายุ 68 ปี อดีตเจ้าสำนักสงฆ์ภูหินกอง ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน บ้านนาแค ต.หนองบัว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู สร้างอุปกรณ์คล้ายเครื่องกิโยติน ก่อนลาสิกขาบทเมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นได้ใช้อุปกรณ์ดังกล่าว ตัดศีรษะตัวเองขาดจากลำตัว เสียชีวิตคาที่ภายในสำนักสงฆ์ภูหินกอง เป็นการถวายเป็นพุทธบูชา เพราะเชื่อว่าวิธีนี้จะทำให้ได้เป็นพระปัจเจกพระพุทธเจ้าในโลกหน้าตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

จากนั้นได้ทำการสืบสวน-สอบสวนพยานประกอบด้วย พระสงฆ์ ลูกศิษย์ และแม่ชี นอกจากนี้ยังเข้าไปตรวจสอบด้านหลังของที่พักสงฆ์ ที่มีโลงศพแกะสลักสวยงามสีน้ำตาลที่ได้บรรจุร่างของพระธรรมกร ที่ยังมีศีรษะวางอยู่ในโลงอีกใบ ที่ส่วนใหญ่บรรดาพระ ลูกศิษย์ แม่ชี พยายามที่จะอธิบายถึงความเชื่อต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าเป็นเรื่องของความเชื่อและความต้องการของผู้ตาย

ด้าน พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู กล่าวว่า คดีนี้ถือเป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชนทั้งประเทศ เนื่องจากเป็นการตายที่ผิดธรรมชาติและไปผสมกับความเชื่อ แต่ในทางกฎหมายไม่สามารถปักใจเชื่อได้ว่า เป็นการตัดหัวถวายเป็น "พุทธบูชา" เพื่อหวังที่จะให้ตนเองตรัสรู้เป็นพุทธเจ้า 

ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู กล่าวต่อว่า ตำรวจจึงไม่ปักใจเชื่อว่า เป็นการฆ่าตัวตาย เพราะกฎหมายบัญญัติเอาไว้ว่า เมื่อมีคนตายต้องคลี่คลายคดี จึงได้ขอนำศพไปชันสูตร โดยพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู จะร่วมกับแพทย์ รพ.หนองบัวลำภู ทำการชันสูตรเพื่อหาสาเหตุ จากนั้นในด้านการสอบสวน ก็จะมีการเชิญตัวพยานที่แบ่งออกเป็น 2 อย่างคือ 1.ด้านเอกสารจะทำการตรวจสอบว่า เป็นของจริงหรือไม่ หรือจะไปอ้างอิงในหลักคำสอนตามความเชื่อต้องมีการพิสูจน์กัน และ 2.พยานบุคคล ประกอบไปด้วย พระในสำนักสงฆ์ ลูกศิษย์ และบรรดาแม่ชี เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงว่า ทุกอย่างนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร รวมไปถึงการสร้างเครื่องประหารกิโยติน เมื่อสืบสวนสอบสวนแล้วเสร็จ ข้อเท็จจริงปรากฏ จะแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะกรณีทั่วไป เมื่อบุคคลทั่วไปเห็นว่า จะมีการเกิดภยันตรายกับบุคคลอื่นที่เป็นเหตุซึ่งหน้าแต่ไม่ช่วย ก็ต้องมีความผิดตามกฎหมาย จึงขอเวลาในการคลี่คลายคดีนี้ก่อน ส่วนผลจะออกมาอย่างไร คาดว่าไม่นานคงได้รู้ข้อเท็จจริง ในส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงต่อความเชื่อ และเกรงว่าบุคคลอื่นจะเอาเป็นเยี่ยงอย่าง จึงสั่งชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวทางลับ เพราะเกรงว่าจะเป็นการขยายความเชื่อที่ผิดจนนำไปสู่การเลียนแบบก็เป็นได้