ผัวโหดพังประตูยิงเมียดับก่อนฆ่าตัวตายตาม พี่ชายเผยเคยห้ามกลับถูกฟันหัวแบะ
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม ผัวโหดพังประตูยิงเมียดับก่อนฆ่าตัวตายตาม พี่ชายเผยเคยห้ามกลับถูกฟันหัวแบะ
ผัวหึงโหดพังประตูเข้าไปยิงเมียดับแล้วฆ่าตัวตายตาม พี่ชายเมียเผย น้องเขยเป็นคนอารมณ์ร้อน ตนแค่ห้ามยังถูกฟันหัวแบะ เพิ่งรักษาตัวกลับมา ได้กลิ่นเหม็นเน่าในห้อง จึงเรียกเจ้าหน้าที่มาเปิดห้องก็พบว่าเป็นศพอืดทั้งคู่แล้ว
วันที่ 13 เมษายน 2564 เวลา 17.00 น. พ.ต.ต.อานนท์ ภักดิ์รุ่งเรือง สว.เวร สภ.ปลวกแดง ระยอง ได้รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นผู้ชายและผู้หญิง อยู่ภายในห้องนอน อ.ปลวกแดง จ.ระยอง จึงประสานแพทย์เวร รพ.ปลวกแดง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน และ หน่วยกู้ภัยปลวกแดง เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อเดินทางไปถึงบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านแฝดชั้นเดียว สีเหลือง พบชาวบ้านกำลังยืนออกันอยู่ จึงเข้าไปตรวจสอบ พบประตูบ้านซึ่งเป็นกระจกถูกของแข็งจนแตกเสียหายเป็นช่องโหว่ เข้าไปในตัวบ้านซึ่งมี 2 ห้องนอน ในตัวบ้านมีกลิ่นเน่าฟุ้งกระจายทั่วบ้าน เมื่อเปิดประตูห้องนอนที่ปิดอยู่เข้าไป ก็ถึงกับสลดใจกับภาพที่เห็น เป็นภาพของศพผู้หญิงใส่ผ้าเช็ดตัวสีน้ำเงินผืนเดียวนอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้นข้างเตียง สภาพศพบวมอืด ตรวจสอบพบรอยอาวุธปืนเป็นรูตรงหน้าอกด้านซ้าย ใกล้กันบนเตียงพบศพผู้ชายใส่เสื้อยืดสีเหลืองเสื้อคลุมแขนยาวสีเทา กางเกงยีนส์ขายาว ใส่รองเท้าหุ้มข้อสีดำ นอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง สภาพศพขึ้นอืด มีบาดแผลเป็นรูที่หน้าอกด้านซ้าย ใกล้กับมือขวาของศพผู้ชายพบอาวุธปืนสั้นลูกซองไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก พร้อมปลอกกระสุนที่ยิงแล้วในรังเพลิง และยังพบปลอกกระสุนปืนลูกซองตกอยู่ที่พื้น 1 ปลอก มีรอยเลือดแห้งเกรอะกรังเต็มพื้นห้อง หลังตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน ก่อนจะส่งศพไปตรวจพิสูจน์ที่ รพ.ปลวกแดง เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต พร้อมรวบรวมหลักฐานอาวุธปืนไปตรวจสอบต่อไป
วันที่ 13 เมษายน 2564 เวลา 17.00 น. พ.ต.ต.อานนท์ ภักดิ์รุ่งเรือง สว.เวร สภ.ปลวกแดง ระยอง ได้รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นผู้ชายและผู้หญิง อยู่ภายในห้องนอน อ.ปลวกแดง จ.ระยอง จึงประสานแพทย์เวร รพ.ปลวกแดง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน และ หน่วยกู้ภัยปลวกแดง เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อเดินทางไปถึงบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านแฝดชั้นเดียว สีเหลือง พบชาวบ้านกำลังยืนออกันอยู่ จึงเข้าไปตรวจสอบ พบประตูบ้านซึ่งเป็นกระจกถูกของแข็งจนแตกเสียหายเป็นช่องโหว่ เข้าไปในตัวบ้านซึ่งมี 2 ห้องนอน ในตัวบ้านมีกลิ่นเน่าฟุ้งกระจายทั่วบ้าน เมื่อเปิดประตูห้องนอนที่ปิดอยู่เข้าไป ก็ถึงกับสลดใจกับภาพที่เห็น เป็นภาพของศพผู้หญิงใส่ผ้าเช็ดตัวสีน้ำเงินผืนเดียวนอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้นข้างเตียง สภาพศพบวมอืด ตรวจสอบพบรอยอาวุธปืนเป็นรูตรงหน้าอกด้านซ้าย ใกล้กันบนเตียงพบศพผู้ชายใส่เสื้อยืดสีเหลืองเสื้อคลุมแขนยาวสีเทา กางเกงยีนส์ขายาว ใส่รองเท้าหุ้มข้อสีดำ นอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง สภาพศพขึ้นอืด มีบาดแผลเป็นรูที่หน้าอกด้านซ้าย ใกล้กับมือขวาของศพผู้ชายพบอาวุธปืนสั้นลูกซองไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก พร้อมปลอกกระสุนที่ยิงแล้วในรังเพลิง และยังพบปลอกกระสุนปืนลูกซองตกอยู่ที่พื้น 1 ปลอก มีรอยเลือดแห้งเกรอะกรังเต็มพื้นห้อง หลังตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน ก่อนจะส่งศพไปตรวจพิสูจน์ที่ รพ.ปลวกแดง เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต พร้อมรวบรวมหลักฐานอาวุธปืนไปตรวจสอบต่อไป
จากการตรวจสอบทราบชื่อผู้เสียชีวิตทั้งสองคน ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน ประกอบด้วยนายวรวุฒิ ไชยชาติ อายุ 36 ปี และ น.ส.จิตรา โนนเวียงแก อายุ 34 ปี ทั้งคู่ทำงานอยู่ในบริษัทแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซีตี้
จากการสอบสวนนายเมธี โนนเวียงแก พี่ชายของผู้หญิงที่เสียชีวิต ได้ให้การว่า
ตนเองได้อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้กับน้องสาว และ น้องเขยที่เสียชีวิต โดยเมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา เห็นทั้งสองคนทะเลาะกันอยู่ที่หน้าบ้าน จึงเข้าไปห้ามพร้อมบอกว่าทะเลาะกันตรงนี้ไม่อายเพื่อนบ้านหรือ พอตนเดินคล้อยหลังเข้าไปในบ้าน น้องเขยก็คว้ามีดฟันศีรษะ และ ใบหูเกือบขาด หลังเกิดเหตุเข้ารับการรักษาที่ รพ.ระยอง จนกระทั่งเริ่มดีขึ้นก็ไปพักกับเพื่อน และ กลับเข้ามาพักที่บ้านเกิดเหตุ เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น.วันที่ 9 เม.ย. โดยมีน้องสาวอยู่คนเดียว จนกระทั่งในช่วงเช้า น้องเขยก็ขับรถยนต์มาจอดแล้วเข้ามาในบ้าน เรียกน้องสาวให้เปิดประตูห้องนอน แต่น้องสาวไม่ยอมเปิดประตู น้องเขยจึงพังประตูห้องเข้าไป แล้วก็เข้าไปทะเลาะกันในห้องต่อ โดยที่ตนไม่กล้าไปดู เพราะกลัวจะถูกทำร้ายอีก ก่อนที่จะทั้งสองจะเงียบเสียงไป ได้ยินเสียงดังสองครั้ง คล้ายกับเสียงของตกลงพื้นอย่างแรงโดยไม่คาดคิดว่าเป็นเสียงปืน จึงออกจากบ้านไป
จนกระทั่งต่อมา เมื่อวันที่ 12 เม.ย.ขณะเข้ามาบ้านกับแฟน ก็ไม่พบน้องสาวและน้องเขยคิดว่าคงอยู่ในห้องนอน แต่ก็ได้กลิ่นเหม็นพยายามเดินหาจนไปเจอถุงขยะเข้าไปดูก็ไม่ใช่ แฟนบอกว่าอาจเป็นกลิ่นทุเรียนจึงไม่สนใจ จนมาถึงช่วงเย็นวันนี้ สังหรณ์ใจจึงเรียกเพื่อนบ้านที่เป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯมาช่วยดู ก่อนที่จะช่วยกันเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าทั้งสองเป็นศพขึ้นอืดในห้องนอนแล้ว จึงแจ้งตำรวจทันที
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าฝ่ายชายลงมือยิงฝ่ายหญิงก่อนจะลงมือยิงตัวเองเสียชีวิต แต่ถึงอย่างไรก็ตามได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ จ.ระยอง มาเก็บหลักฐานรอยนิ้วมือ และ คราบเขม่าดินปืน และรอผลพิสูจน์ศพจากแพทย์ก่อนจึงจะสรุปสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป
จากการสอบสวนนายเมธี โนนเวียงแก พี่ชายของผู้หญิงที่เสียชีวิต ได้ให้การว่า
ตนเองได้อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้กับน้องสาว และ น้องเขยที่เสียชีวิต โดยเมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา เห็นทั้งสองคนทะเลาะกันอยู่ที่หน้าบ้าน จึงเข้าไปห้ามพร้อมบอกว่าทะเลาะกันตรงนี้ไม่อายเพื่อนบ้านหรือ พอตนเดินคล้อยหลังเข้าไปในบ้าน น้องเขยก็คว้ามีดฟันศีรษะ และ ใบหูเกือบขาด หลังเกิดเหตุเข้ารับการรักษาที่ รพ.ระยอง จนกระทั่งเริ่มดีขึ้นก็ไปพักกับเพื่อน และ กลับเข้ามาพักที่บ้านเกิดเหตุ เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น.วันที่ 9 เม.ย. โดยมีน้องสาวอยู่คนเดียว จนกระทั่งในช่วงเช้า น้องเขยก็ขับรถยนต์มาจอดแล้วเข้ามาในบ้าน เรียกน้องสาวให้เปิดประตูห้องนอน แต่น้องสาวไม่ยอมเปิดประตู น้องเขยจึงพังประตูห้องเข้าไป แล้วก็เข้าไปทะเลาะกันในห้องต่อ โดยที่ตนไม่กล้าไปดู เพราะกลัวจะถูกทำร้ายอีก ก่อนที่จะทั้งสองจะเงียบเสียงไป ได้ยินเสียงดังสองครั้ง คล้ายกับเสียงของตกลงพื้นอย่างแรงโดยไม่คาดคิดว่าเป็นเสียงปืน จึงออกจากบ้านไป
จนกระทั่งต่อมา เมื่อวันที่ 12 เม.ย.ขณะเข้ามาบ้านกับแฟน ก็ไม่พบน้องสาวและน้องเขยคิดว่าคงอยู่ในห้องนอน แต่ก็ได้กลิ่นเหม็นพยายามเดินหาจนไปเจอถุงขยะเข้าไปดูก็ไม่ใช่ แฟนบอกว่าอาจเป็นกลิ่นทุเรียนจึงไม่สนใจ จนมาถึงช่วงเย็นวันนี้ สังหรณ์ใจจึงเรียกเพื่อนบ้านที่เป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯมาช่วยดู ก่อนที่จะช่วยกันเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าทั้งสองเป็นศพขึ้นอืดในห้องนอนแล้ว จึงแจ้งตำรวจทันที
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าฝ่ายชายลงมือยิงฝ่ายหญิงก่อนจะลงมือยิงตัวเองเสียชีวิต แต่ถึงอย่างไรก็ตามได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ จ.ระยอง มาเก็บหลักฐานรอยนิ้วมือ และ คราบเขม่าดินปืน และรอผลพิสูจน์ศพจากแพทย์ก่อนจึงจะสรุปสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น