รร.แจง! รุ่นพี่ป.5ราดซีม่าเด็ก9ขวบช่วยแก้เชื้อรา แม่โต้ลูกทรมาน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม รร.แจง! รุ่นพี่ป.5ราดซีม่าเด็ก9ขวบช่วยแก้เชื้อรา แม่โต้ลูกทรมาน
จากกรณีที่นางจินตนา อายุ 51 ปี บ้านที่อยู่ในตัว อ.เขาพนม จ.กระบี่ นำลูกชายวัย 9 ขวบออกมาจากโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ มารักษาตัวที่ รพ.เขาพนม เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 64 หลังจากลูกชายมีบาดแผลพุพองไปทั่วร่างกายโดยเฉพาะที่อวัยวะเพศ มีน้ำเหลืองไหลตลอดเวลา ปวดแสบปวดร้อนอยู่ตลอด
โดยผู้บาดเจ็บชื่อ ด.ช.ภูผา อายุ 9 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.2 ขณะนี้แพทย์ได้ให้ยาฆ่าเชื้อ และยาแก้ปวด พร้อมทั้งล้างบาดแผลพุพองตามร่างกาย ที่มีตั้งแต่ขา ลำตัว ไปจนถึงใบหน้า ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง หนักสุดที่อวัยวะเพศ ซึ่งมีพี่ชายวัย 10 ขวบ และพี่สาวอายุ 11 ขวบ คอยดูแลไม่ห่าง เนื่องจากทางแพทย์ให้นอนดูอาการ
วันที่ 24 มี.ค. 64 นางจิตตนา แม่ของผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าว
ลูกเล่าว่าเกิดขึ้นตั้งแต่วันเสาร์ที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา ลูกตนทั้ง 3 คนเรียนอยู่ที่โรงเรียนดังกล่าว เป็นโรงเรียนกินนอนแบบประจำ ลูกชายคนเล็กอยู่ชั้น ป.2 ได้ถูกรุ่นพี่ที่เป็นพี่เลี้ยง 2 คน เรียนชั้น ป.5และชั้น ม.4 ทำโทษ เนื่องจากลูกไม่ยอมออกกำลังกาย ใช้ยาซีม่าราดไปตามร่างกาย 6 ขวด จนลูกตนดิ้นทุรนทุราย ทำให้รุ่นพี่ไม่พอใจเข้ามากระทืบซ้ำ จนมีอาการปวดที่ศีรษะ
โดยผู้บาดเจ็บชื่อ ด.ช.ภูผา อายุ 9 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.2 ขณะนี้แพทย์ได้ให้ยาฆ่าเชื้อ และยาแก้ปวด พร้อมทั้งล้างบาดแผลพุพองตามร่างกาย ที่มีตั้งแต่ขา ลำตัว ไปจนถึงใบหน้า ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง หนักสุดที่อวัยวะเพศ ซึ่งมีพี่ชายวัย 10 ขวบ และพี่สาวอายุ 11 ขวบ คอยดูแลไม่ห่าง เนื่องจากทางแพทย์ให้นอนดูอาการ
วันที่ 24 มี.ค. 64 นางจิตตนา แม่ของผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าว
ลูกเล่าว่าเกิดขึ้นตั้งแต่วันเสาร์ที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา ลูกตนทั้ง 3 คนเรียนอยู่ที่โรงเรียนดังกล่าว เป็นโรงเรียนกินนอนแบบประจำ ลูกชายคนเล็กอยู่ชั้น ป.2 ได้ถูกรุ่นพี่ที่เป็นพี่เลี้ยง 2 คน เรียนชั้น ป.5และชั้น ม.4 ทำโทษ เนื่องจากลูกไม่ยอมออกกำลังกาย ใช้ยาซีม่าราดไปตามร่างกาย 6 ขวด จนลูกตนดิ้นทุรนทุราย ทำให้รุ่นพี่ไม่พอใจเข้ามากระทืบซ้ำ จนมีอาการปวดที่ศีรษะ
ต่อมาวันรุ่งขึ้นได้ไปแจ้งครูประจำชั้น แต่ครูบอกว่าไม่ต้องไปหาหมอ ให้ไปห้องพยาบาล และรับยาทาสีชมพูมาทา พร้อมยาแก้ปวด แต่อาการหนักขึ้น เพราะแผลเริ่มพุพองขึ้นเรื่อย ๆ
จนวานนี้พี่ชายและพี่สาวของน้องที่เรียนอยู่ได้มาเห็น ก็ไปหาช่างทำประตูที่เข้ามาซ่อมประตูโรงเรียน ขอโทรศัพท์ติดต่อมาที่ตนว่าน้องคนสุดท้องมีอาการบาดเจ็บหนัก จากการที่ถูกรุ่นพี่ทำร้าย ตนจึงพร้อมด้วยสามีได้เดินทางไปที่โรงเรียน แต่ก็ไม่พบครู จึงขอทางรปภ.ของโรงเรียนนำลูกออกมาส่ง รพ.เขาพนม เพื่อรักษาตัว ซึ่งขณะนี้ลูกต้องทรมานอย่างมากทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างมาก แต่ตนได้ติดต่อถามไปยัง รองผอ. ก็บอกว่าจะโทรกลับมาเท่านั้น ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนขอแค่อยากให้ทางโรงเรียนออกมารับผิดชอบ และชี้แจงข้อเท็จจริงว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร และพี่เลี้ยงสามารถทำกับรุ่นน้องอย่างรุนแรงแบบนี้ได้หรือไม่ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจทำให้พิการได้ หลังจากนี้ตนก็จะรอแพทย์ออกใบรับรอง และเดินทางไปแจ้งความเอาผิดต่อไป
นายศักดิ์ชัย สุวรรณราช ผอ.โรงเรียน ระบุว่า ขณะนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ตนได้ตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนเรื่องราวทั้งหมด ในเบื้องต้นนั้นได้เรียกครูและนักเรียนที่เป็นนักเรียนพี่เลี้ยงมาสอบถาม ก็ได้ความว่ารุ่นพี่ได้ทายาให้รุ่นน้อง เนื่องจากผู้บาดเจ็บมีโรคหิด แต่อาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์จึงทาไปจนบาดเจ็บ ส่วนการดูแลเด็กนั้น ทางโรงเรียนก็พร้อมจะช่วยเหลือเต็มที่ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนที่เกิดเหตุ นายสมยศ แก้วใหญ่ ครูผู้ดูแลหอพักที่ ด.ช.ภูผา พักภายในโรงเรียน เล่าว่า จากการสอบถามเด็กนักเรียนที่เป็นพี่เลี้ยง ทราบว่า
นักเรียนที่เป็นพี่เลี้ยงพาน้องภูผาไปทายาที่ห้องพยาบาล เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เริ่มทายา เพราะน้องมีอาการทางผิวหนัง คือเป็นหิด และเป็นเชื้อราในขาหนีบ กระทั่งถึงวันที่ 20 มี.ค. เห็นว่าอาการของน้องภูผาดีขึ้น นักเรียนพี่เลี้ยงก็ช่วยกันทายาเพิ่มให้อีก ซึ่งก็มีรอยผิวหนังลอกออกมาบ้างแต่พอถึงคืนวันจันทร์ที่ 22 มี.ค. 64 ที่ผ่านมา ก็เริ่มเห็นว่าน้องอาการเริ่มไม่ดี วันต่อมาคือวันที่ 23 มี.ค. ก็ให้พี่เลี้ยงพาน้องไปที่ห้องพยาบาลของโรงเรียน เพื่อจะประสานให้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล
แต่มาทราบอีกทีว่าน้องหายไปจากโรงเรียนในวันดังกล่าว สอบถามจนทราบว่าแม่ของน้องมารับกลับไปก่อนแล้ว ส่วนเหตุที่น้องมีอาการทางผิวหนัง เป็นเพราะนักเรียนบางคนมักจะไม่ค่อยชอบอาบน้ำ ทำให้เกิดความสกปรกหมักหมม อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าเด็กนักเรียนไม่ได้มีปัญหาทะเลาะส่วนตัวกันจนถึงขั้นทำร้ายกัน
นักเรียนที่เป็นพี่เลี้ยงพาน้องภูผาไปทายาที่ห้องพยาบาล เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เริ่มทายา เพราะน้องมีอาการทางผิวหนัง คือเป็นหิด และเป็นเชื้อราในขาหนีบ กระทั่งถึงวันที่ 20 มี.ค. เห็นว่าอาการของน้องภูผาดีขึ้น นักเรียนพี่เลี้ยงก็ช่วยกันทายาเพิ่มให้อีก ซึ่งก็มีรอยผิวหนังลอกออกมาบ้างแต่พอถึงคืนวันจันทร์ที่ 22 มี.ค. 64 ที่ผ่านมา ก็เริ่มเห็นว่าน้องอาการเริ่มไม่ดี วันต่อมาคือวันที่ 23 มี.ค. ก็ให้พี่เลี้ยงพาน้องไปที่ห้องพยาบาลของโรงเรียน เพื่อจะประสานให้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล
แต่มาทราบอีกทีว่าน้องหายไปจากโรงเรียนในวันดังกล่าว สอบถามจนทราบว่าแม่ของน้องมารับกลับไปก่อนแล้ว ส่วนเหตุที่น้องมีอาการทางผิวหนัง เป็นเพราะนักเรียนบางคนมักจะไม่ค่อยชอบอาบน้ำ ทำให้เกิดความสกปรกหมักหมม อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าเด็กนักเรียนไม่ได้มีปัญหาทะเลาะส่วนตัวกันจนถึงขั้นทำร้ายกัน
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น