แม่กราบป้ายโรงพักทวงความยุติธรรม ลูกสาวถูกข่มขืน แต่ตร.ไม่รับแจ้งความ
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม แม่กราบป้ายโรงพักทวงความยุติธรรม ลูกสาวถูกข่มขืน แต่ตร.ไม่รับแจ้งความ
เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2564 คลิปวิดีโอที่ถูกนำออกมาเผยแพร่ในโลกโซเซียล เป็นภาพผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนอนกราบป้ายโรงพักสถานีตำรวจภูธรชนบท โดยมีผู้หญิงอีกคนเป็นคนถ่ายคลิป และตะโกนถามว่าความยุติธรรมยังมีอยู่ไหม พร้อมทั้งมีเสียงคล้ายกับร้องไห้อยู่ตลอดเวลา
ส่วนอีกคลิปเป็นภาพภายในสถานีตำรวจภูธรชนบท ซึ่งเจ้าของคลิประบุข้อความว่าหลานสาว ถูกชายลักพาตัวไปข่มขืนทำอนาจาร เข้าแจ้งความ แต่ตำรวจไม่รับแจ้ง สุดท้ายทำอะไรไม่ได้ จึงต้องนอนกราบป้ายโรงพักขอความยุติธรรม
สอบถามทราบว่าผู้หญิงในคลิปทั้งสองคนเป็นแม่และน้าของหญิงสาววัย 27 ปี ที่ถูกชายลักพาตัวไปข่มขืนกระทำอนาจาร แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความ แถมยังโยนกันไปมาระหว่างสองโรงพัก ทำให้รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
ทั้งนี้วันต่อมาจึงพาลูกสาวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลชนบท โดยหมอบอกว่าจะแจ้งผลในอีก 2 สัปดาห์ ก่อนจะนำใบตรวจร่างกายเบื้องต้นไปแจ้งความที่ สภ.ชนบท แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความบอกให้ไปแจ้งความที่ สภ.แวงใหญ่ และยังบอกอีกว่า ลูกสาวอายุ 27 ปี บรรลุนิติภาวะแล้ว จะดำเนินคดีได้ต้องอายุ 15 ปีขึ้นไปและไม่เกิน 18 ปี หลังจากตำรวจไม่รับแจ้งความ ก็รู้สึกเสียใจและน้อยใจ เพราะลูกสาวตัวเองสติไม่สมประกอบ ถูกฝ่ายชายหลอกไปทำไม่ดี แต่กลับไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ไม่รู้จะทำวิธีไหน จึงออกมากราบป้ายหน้าโรงพัก ซึ่งตากแดดอยู่นานก็ไม่มีตำรวจมาเหลียวแลหรือสนใจ
นอกจากนี้ ทางครอบครัวของผู้เสียหาย ยังมีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอ ที่สอบถาม "นายปิ๊ก" ชายคนที่หลอกหญิงสาววัย 27 ปีไปล่วงละเมิด ซึ่งตอนแรกฝ่ายชายก็ปฏิเสธว่าไม่ได้มีอะไรกัน แต่สุดท้ายก็รับว่ามีอะไรกันจริง แต่อ้างว่าเกิดจากความรัก
ซึ่งครอบครัวผู้เสียหายมองว่า ทั้งพยานและหลักฐานชัดเจนขนาดนี้ ทำไมจึงไม่สามารถดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุได้ เพราะแม้ว่าผู้เสียหายจะมีอายุ 27 ปีแล้ว แต่ก็สติไม่สมบูรณ์ จึงอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมด้วย
ล่าสุดทางตำรวจสถานีตำรวจภูธรชนบท เชิญครอบครัวของหญิงผู้เสียหาย เข้าอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น กรณีที่ไม่รับแจ้งความในพื้นที่ว่า สาเหตุเพราะผู้เสียหายได้แจ้งความไว้ที่ สภ.แวงใหญ่แล้ว ซึ่งทาง สภ.แวงใหญ่ จะเป็นผู้ติดตามทำคดีนี้ให้ แต่ระหว่างตำรวจ สภ.ชนบทพยายามชี้แจงกับแม่และครอบครัวก็ไม่พอใจ จนเป็นเรื่องเป็นราวดังกล่าวเกิดขึ้น เชื่อว่าเป็นความเข้าใจผิดกัน พร้อมยืนยันว่าตำรวจดำเนินการตามขั้นตอน
ล่าสุด ตำรวจสภ.ชนบท ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านพักของผู้เสียหาย เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจและสอบถามรายละเอียดต่างๆ ซึ่งทางผู้เสียหาย รวมถึงน้าสาว ญาติพี่น้องยืนยันให้ตำรวจไปเอาตัวนายปิ๊ก มาสอบสวน และพูดคุยกันที่บ้าน จากนั้นตำรวจชุดสืบสวนสภ.ชนบทและชุดสืบสวนสภ.แวงใหญ่ เข้าทำการควบคุมตัวนาย ปิ๊ก มาสอบสวนที่บ้านของผู้เสียหาย
นายปิ๊ก ยอมรับสารภาพว่าได้โทรศัพท์มาหาฝ่ายหญิงว่าจะมารับที่บ้าน อ้างว่า ฝ่ายหญิงยืนยันว่าไปได้ เพราะบอกยายแล้ว และได้มีเพศสัมพันธ์กับฝ่ายหญิงจริง ไม่ได้เป็นการข่มขืน และยินดีรับผิดชอบแต่งงานกับฝ่ายหญิงให้ถูกต้องตามประเพณีทุกอย่าง เพราะอยากได้ฝ่ายหญิงเป็นภรรยาอยู่กินด้วยกัน ถ้าหากฝ่ายหญิงและญาติไม่ยอมรับก็ยินดีที่จะถูกควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่ หญิงผู้เสียหาย ยืนยันว่า ไม่รักและไม่ต้องการอยู่ด้วย เช่นเดียวกับ น้าสาวก็ไม่ยอมให้หลานสาวแต่งงานอยู่กินกับผู้ชายคนนี้เด็ดขาด ขอให้ตำรวจจับกุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด และไม่ต้องการเงินจากทางฝ่ายนายปิ๊กแม้แต่บาทเดียว
เบื้องต้น ตำรวจได้ควบคุมตัวนายปิ๊ก ผู้ต้องหาไปสอบสวน และแจ้งข้อกล่าวหาในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราหญิงซึ่งไม่ไช่ภรรยาของตนเอง ก่อนส่งตัวฝากขังที่ศาลจังหวัดพล ต่อไป
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น