ลุ้น3ชีวิตถูกเป็นตัวประกัน ปิดล้อม11ชม.เสียงปืนดังลั่น

ปิดล้อมคอนโดกลางเมืองเชียงใหม่ จับผู้ต้องหาฉ้อโกงตุ๋นขายทะเบียนรถสวยแล้วชิ่งสูญหลายสิบล้าน คนร้ายขู่ให้ถ่อยตำรวจไม่ยอมเจรจา 11 ชม.ปล่อยลูกวัย 3 ขวบ ก่อนมีเสียงปืนดัง 4 นัด ตร.คุมเชิงลุ้น 3 ชีวิต

เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 5 มี.ค. พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.5 พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ นำกำลังตำรวจพร้อมหมายจับศาลอาญาพระโขนง เลขที่ จ.77/2564 ลงวันที่ 15 ก.พ.64 บุกเข้าจับกุม นายสุเมธ ครองวงศ์ อายุ 25 ปี ชาว จ.พะเยา และ น.ส.อาณดา (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ชาว จ.เชียงราย ตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.76/64 ลง 15 ก.พ.64 ผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันโดยทุจริตหรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชน ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ที่ผู้ออกได้ให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้ เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสดหรือใช้เบิกเงินสดและร่วมกันฟอกเงิน หลังสืบทราบว่าหนีมากบดานที่คอนโดหรูแห่งหนึ่งใจกลางเมืองเชียงใหม่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่

สืบเนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองมีพฤติกรรมหลอกลวงประชาชน โดยเปิดเว็บไซต์ www.monkeylucky44.com หลอกขายป้ายทะเบียนเลขสวยทั่วประเทศ พอมีคนหลงเชื่อโอนเงินซื้อก็จะบล็อกแล้วไปหลอกเหยื่อคนอื่น มีผู้เสียหายถูกหลอกสูญเงินหลาบสิบล้านและทยอยเข้าแจ้งความในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศไทยมากกว่า 20 คดี กระทั่งมีการสืบสวนสอบสวนหาหลักฐานขออนุมัติหมายจับดังกล่าว โดยการเข้าปิดล้อมจับกุมดังกล่าวนายสุเมธ ไหวตัวทันไม่ยอมให้ตำรวจเข้าไปจับกุม โดยระบุว่าอาศัยอยู่กับ น.ส.อาณดา หญิงสาวอีกคน และลูกสาววัย 3 ขวบ รวม 4 ชีวิต พร้อมตะโกนขู่ตำรวจว่าหากบุกเข้ามาจะต่อสู้และฆ่าทุกคนในห้องให้หมดและขอให้ตำรวจถอนกำลังเพื่อปล่อยให้หลบหนี แต่ตำรวจไม่ยอมปิดล้อมห้องไว้ ก่อนเชิญแม่ผู้ต้องหามาเจรจานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงยอมปล่อยตัวลูกสาววัย 3 ขวบออกมาจากห้อง ก่อนปิดห้องเก็บตัวเงียบต่อ

กระทั่งเวลา 17.00 น.ผ่านไปกว่า 11 ชั่วโมง ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมาจากในห้องรวม 4 นัด เจ้าหน้าที่พยายามสอบถามผู้ต้องหาแต่ไม่มีเสียงตอบรับจึงปิดล้อมห้องเฝ้าระวังอยู่ไม่บุกเข้าไปจนกว่าจะมั่นใจก่อนเข้าตรวจสอบ ความคืบหน้าจะรายงานต่อไป