ผลชันสูตร วาวา พบสารเสพติด 4 ชนิด เตือนกลุ่มรับงานเอนฯ
ต่อมาเมื่อวันที่ 2 มี.ค. ผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์ผู้ผ่าเบื้องต้นพบสารเสพติดบางชนิดในร่างกายพริตตี้วาวา ได้แก่ เคตามีน ยาอี ยาบ้า และยานอนหลับไดอาซิแพม แต่จะส่งผลต่อการตายหรือไม่ ต้องรอผลแพทย์อย่างละเอียดอีกครั้ง สำหรับเคนมผงที่เคยเป็นคดีก่อนหน้านี้นั้น จะผสมไว้เสร็จแล้วจึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นชนิดเดียวกันหรือไม่
นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า จากกรณีการเสียชีวิตปริศนาของพีอาร์สาว ภายหลังรับงานเอ็นเตอร์เทน และผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์เบื้องต้น พบสารเสพติด 4 ชนิดในร่างกาย ได้แก่ เคตามีน ยาอี ยาบ้า และไดอะซีแพมหรือยานอนหลับ ซึ่งสารเสพติดที่พบมีส่วนประกอบคล้ายที่พบใน "ยาเคนมผง" และมีการแพร่ระบาดในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ "ยาเคนมผง" มีผลทำให้ผู้เสพมีอาการรุนแรงถึงเสียชีวิตได้ นอกจากนี้มีผลให้ประสาทหลอน คิดว่าจะถูกทำร้ายเป็นสาเหตุของการทะเลาะวิวาท มีผลกดระบบประสาท หายใจลำบาก ทำให้ผู้เสพเสียชีวิตได้ในที่สุด และสามารถเกิดขึ้นได้แม้จะเสพเป็นครั้งแรก
ทั้งนี้ เตือนกลุ่มนักเสพต้องระมัดระวังผลจากการออกฤทธิ์ของสารเสพติด โดยในบางรายอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต พร้อมแนะผู้ปกครองสอดส่องพฤติกรรมของบุตรหลานหรือคนใกล้ชิด หากพบมีพฤติกรรมเสี่ยงหรือพกสิ่งของต้องสงสัยว่าอาจจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติด หาทางพูดคุยด้วยเหตุผล ไม่ใช้ความรุนแรง บอกกล่าวถึงอันตรายที่อาจจะตามมา และรีบพาไปพบแพทย์เพื่อเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา
สามารถขอรับคำปรึกษาเกี่ยวกับยาและสารเสพติดได้ที่ สายด่วนยาเสพติด 1165 และหรือเข้ารับการบำบัดรักษาที่สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กรมการแพทย์ จังหวัดปทุมธานี และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ในส่วนภูมิภาค ทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ขอนแก่น อุดรธานี สงขลา และปัตตานี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pmindat.go.th