ช็อก! รปภ. ฉกมือถือ น้องน้ำมนต์ หลังทำทีเข้าช่วยขณะรถชน โอนเงินซื้อทองเกลี้ยง

บุกรวบ รปภ. ฉกมือถือ ‘น้องน้ำมนต์' หลังทำทีเข้าช่วยขณะรถชน สุ่มหารหัสจนเจอ ก่อนโอนเงินซื้อทองไปขายเกลี้ยง โยนมือถือทิ้งบึงใน มข.

จากกรณี น.ส.มนชนิตว์ ช่วยบุญ อายุ 22 ปี หรือน้องนำมนต์ นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และรองนางสาวไทย ปี 2562 ประสบอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งเสียหลักชนต้นไม้ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตพร้อมเพื่อนอีก 2 ราย เหตุเกิดบริเวณใกล้คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาขอนแก่น เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2564 หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ส่งมอบทรัพย์สินผู้เสียชีวิตแก่ครอบครัวน้องน้ำมนต์ แต่พบว่าโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน รุ่น XR ของน้องน้ำมนต์หายไป

ล่าสุดเมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 2 มี.ค.2564 พ.ต.อ.ธนวัชร ดีบุญมี ณ ชุมแพ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ครอบครัวได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าโทรศัพท์มือถือน้องน้ำมนต์หายไป และพยายามสืบหาซึ่งคิดว่าน่าจะมีญาติ เพื่อนหรือคนใกล้ชิดเก็บไว้ แต่จากการสืบค้นตำแหน่งที่ตั้ง หรือโลเคชั่นของโทรศัพท์มือถือ กลับพบว่าอยู่ในพื้นที่ ต.บึงเนียม อ.เมือง จ.ขอนแก่น และพบบัญชีธนาคารของน้องน้ำมนต์ มีการโอนเงินผ่านแอปพลิเคชั่นไปจำนวนเงิน 13,569 บาท ไปใช้ซื้อทองคำน้ำหนัก 50 สต. ที่ร้านทองแห่งหนึ่งในตัวเมืองขอนแก่น

พ.ต.อ.ธนวัชร กล่าวต่อว่า ครอบครัวได้ประสานงานมายังชุดสืบสวน ภ.จว.ขอนแก่น เพื่อสืบหาผู้ก่อเหตุที่นำโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิตไป โดยแกะรอยคนร้ายรายนี้เรื่อยมา กระทั่งมีพยานหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายนัธทวัฒน์ ปุญญ์พัฒนกิจถาวร อายุ 44 ปี ชาว ต.บึงเนียม อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและเข้าไปช่วยเหลือในช่วงที่เกิดเหตุ

จากการคุมตัวมาสอบปากคำ เบื้องต้นให้การบ่ายเบี่ยง เจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาเค้นสอบ กระทั่งสารภาพว่าเป็นผู้เข้าไปช่วยเหลือน้องน้ำมนต์และเพื่อน ๆ ที่ประสบอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักพลิกคว่ำจริง และเป็นคนแรกที่เข้าถึงจุดเกิดเหตุ โดยเห็นโทรศัพท์มือถือตกอยู่จึงเก็บไว้และพยายามสุ่มรหัสโทรศัพท์โดยใช้เลขจากข้อมูลส่วนตัว กระทั่งสามารถเข้าไปดูข้อมูลในโทรศัพท์ได้

พ.ต.อ.ธนาวัชร กล่าวอีกว่า หลังจากผู้ต้องหาสามารถเข้าระบบโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิตได้ จึงเข้าระบบบัญชีธนาคารก็สามารถเข้าไปได้ จึงโอนเงินผ่านแอปพลิเคชั่นไปซื้อทองคำรูปพรรณ จากนั้นนำทองคำที่ได้ไปจำนำที่ร้านทองอีกแห่งหนึ่ง และนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายส่วนตัว ส่วนโทรศัพท์มือถือได้นำไปทิ้งที่บึงศรีฐาน ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้ตามถึงตัว

หลังจากผู้ต้องหาให้การรับสารภาพจึงประสานงานไปยังชุดประดาเพื่อทำการค้นหาของกลาง จนกระทั่งวันนี้เจ้าหน้าที่พบโทรศัพท์ของน้องน้ำมนต์จมอยู่กลางบึงศรีฐาน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้ง 3 ข้อหาเอาผิดกับผู้ต้องหาังกล่าว ประกอบด้วย ลักทรัพย์ในสถานที่เกิดเหตุหรือลักของโจร, ลักทรัพย์เงินสดจากบัญชีผู้อื่นและนำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นไปใช้เกิดความเสียหาย ก่อนควบคุมตัวดำเนินคดีที่ สภ.เมืองขอนแ่กน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป