สลดน้องสาวอดีตรองผู้ว่านครศรีฯ ดับคา คลินิกดูดไขมัน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม สลดน้องสาวอดีตรองผู้ว่านครศรีฯ ดับคา คลินิกดูดไขมัน
น้องสาวอดีตรองผู้ว่านครศรีฯ ดับคา คลินิกดูดไขมัน ย่านรามคำแหงลูกชายโวยไม่ยอมส่งต่อโรงพยาบาล อ้างไม่อย่างให้เป็นคดีความ
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 21 ก.พ. 64 ที่วัดบำเพ็ญเหนือ ซอยเสรีไทย 60 แขวงและเขตมีนบุรี กทม. นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่าน้องสาวของตน นางศรัณย์ภัทร์ กาญจนสุวรรณ์ อายุ 54 ปี ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว อยู่บ้านเลขที่ 139/2 ถ.เสรีไทย แขวงและเขตคันนายาง กทม. ไปดูดไขมันที่คลินิกชื่อดังแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต เมื่อช่วงเที่ยงของวานนี้ ( 20 ก.พ.) ที่ผ่านมา
นายถาวรวัฒน์ กล่าวว่า น้องสาวเป็นคนที่สุภาพดีไม่มีโรคประจำตัว ร่าเริงแจ่มใส วันเกิดเหตุตนก็ไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนมองว่าคลินิกแห่งนี้ไม่ได้มาตรฐานไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุปกรณ์ หรือ ยาที่ใช้ในการรักษาต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ นอกจากนี้หมอที่เป็นคนทำก็มีอายุ 72 ปี และไม่ใช่หมอประจำคลินิก มักเข้ามาทำที่คลินิกเป็นเคสๆ ท่านอาจจะไม่มีความชำนาญ ต่อให้ทางลูกค้าจะมีการเซ็นยินยอมเข้ารับการผ่าตัดแล้วแต่นั้นไม่ได้หมายความว่าเขาเซ็นเพื่อมอบชีวิตให้
นายปณัญพงศ์ แสงเงิน อายุ 28 ปี เผยว่า ตนเป็นคนรับโทรศัพท์จากทางคลินิกที่แจ้งว่าแม่ชีพจรหยุดเต้น อยู่ระหว่างการทำ ซีพีอาร์ ตัวเองก็ถามทางคลินิกว่าสามารถส่งแม่ไปโรงพยาบาลได้หรือไม่ แต่ทางคลินิกตอบกลับมาว่า มันจะเป็นคดีความขอไม่ส่งไปที่โรงพยาบาล และทางคลินิกบอกว่า 90 เปอร์เซ็นต์คุณแม่ไปแล้ว ตนจึงรีบบอกให้พี่สาวไป
น.ส.อัยมิญห์ อิทธีรนันท์ อายุ 30 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า คุณแม่เป็นคนที่รักสวยรักงาม ซึ่งก่อนที่คุณแม่จะตัดสินใจไปดูดไขมัน คุณแม่ได้ไปปรึกษาโรงพยาบาลเอกชนและคลินิกหลายที่ ก่อนที่จะตัดสินใจทำที่คลินิกแห่งนี้
ซึ่งในวันเกิดเหตุคุณแม่จะต้องเข้ารับการดูดไขมันตั้งแต่เวลา 10 โมงเช้า และจะเสร็จในเวลาประมาณบ่าย 2 โมง ตามที่คุณแม่ได้นัดให้ตัวเองไปรับ แต่จู่ๆ น้องชายได้โทรมาบอกในช่วงเวลาประมาณ 13.19 นาที ว่าทางคลินิกติดต่อมาว่าคุณแม่ชีพจรหยุดเต้น ตัวเองจึงรีบไปที่คลินิกโดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที
แต่เมื่อไปถึงเห็นคุณแม่ในสภาพที่นอนนิ่ง ตัวแข็ง ตัวเย็นไปแล้ว นอกจากนี้ตั้งแต่เกิดเรื่องที่เกิดเหตุทางคลินิกได้มีการพยายามติดต่อเข้ามาพูดคุยในเรื่องของเงินชดเชย แต่ไม่ขอพูดคุยเพราะต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และตอนนี้เพจกับสถานที่ดังกล่าวได้ปิดไปแล้ว ซึ่งเกรงว่าคดีนี้จะเงียบหายไปไม่ได้รับความเป็นธรรม
พ.ต.อ.วิชัย ณรงค์ ผกก.สน.หัวหมาก เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้มีการเชิญแพทย์ ผู้ช่วยแพทย์ และพยาบาลที่อยู่ในคลินิกนั้นเข้าสอบปากคำไปแล้วทั้งสิ้น 6 ปาก สำหรับคำให้การนั้นอยู่ในสำนวนทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเปิดเผยได้โดยหลังจากนี้จะมีการเชิญฝั่งญาติของผู้ตายเข้าให้ปากคำกับทางตำรวจในภายหลัง ยืนยันจะทำสำนวนอย่างรอบคอบให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 21 ก.พ. 64 ที่วัดบำเพ็ญเหนือ ซอยเสรีไทย 60 แขวงและเขตมีนบุรี กทม. นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่าน้องสาวของตน นางศรัณย์ภัทร์ กาญจนสุวรรณ์ อายุ 54 ปี ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว อยู่บ้านเลขที่ 139/2 ถ.เสรีไทย แขวงและเขตคันนายาง กทม. ไปดูดไขมันที่คลินิกชื่อดังแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต เมื่อช่วงเที่ยงของวานนี้ ( 20 ก.พ.) ที่ผ่านมา
นายถาวรวัฒน์ กล่าวว่า น้องสาวเป็นคนที่สุภาพดีไม่มีโรคประจำตัว ร่าเริงแจ่มใส วันเกิดเหตุตนก็ไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนมองว่าคลินิกแห่งนี้ไม่ได้มาตรฐานไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุปกรณ์ หรือ ยาที่ใช้ในการรักษาต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ นอกจากนี้หมอที่เป็นคนทำก็มีอายุ 72 ปี และไม่ใช่หมอประจำคลินิก มักเข้ามาทำที่คลินิกเป็นเคสๆ ท่านอาจจะไม่มีความชำนาญ ต่อให้ทางลูกค้าจะมีการเซ็นยินยอมเข้ารับการผ่าตัดแล้วแต่นั้นไม่ได้หมายความว่าเขาเซ็นเพื่อมอบชีวิตให้
นายปณัญพงศ์ แสงเงิน อายุ 28 ปี เผยว่า ตนเป็นคนรับโทรศัพท์จากทางคลินิกที่แจ้งว่าแม่ชีพจรหยุดเต้น อยู่ระหว่างการทำ ซีพีอาร์ ตัวเองก็ถามทางคลินิกว่าสามารถส่งแม่ไปโรงพยาบาลได้หรือไม่ แต่ทางคลินิกตอบกลับมาว่า มันจะเป็นคดีความขอไม่ส่งไปที่โรงพยาบาล และทางคลินิกบอกว่า 90 เปอร์เซ็นต์คุณแม่ไปแล้ว ตนจึงรีบบอกให้พี่สาวไป
น.ส.อัยมิญห์ อิทธีรนันท์ อายุ 30 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า คุณแม่เป็นคนที่รักสวยรักงาม ซึ่งก่อนที่คุณแม่จะตัดสินใจไปดูดไขมัน คุณแม่ได้ไปปรึกษาโรงพยาบาลเอกชนและคลินิกหลายที่ ก่อนที่จะตัดสินใจทำที่คลินิกแห่งนี้
ซึ่งในวันเกิดเหตุคุณแม่จะต้องเข้ารับการดูดไขมันตั้งแต่เวลา 10 โมงเช้า และจะเสร็จในเวลาประมาณบ่าย 2 โมง ตามที่คุณแม่ได้นัดให้ตัวเองไปรับ แต่จู่ๆ น้องชายได้โทรมาบอกในช่วงเวลาประมาณ 13.19 นาที ว่าทางคลินิกติดต่อมาว่าคุณแม่ชีพจรหยุดเต้น ตัวเองจึงรีบไปที่คลินิกโดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที
แต่เมื่อไปถึงเห็นคุณแม่ในสภาพที่นอนนิ่ง ตัวแข็ง ตัวเย็นไปแล้ว นอกจากนี้ตั้งแต่เกิดเรื่องที่เกิดเหตุทางคลินิกได้มีการพยายามติดต่อเข้ามาพูดคุยในเรื่องของเงินชดเชย แต่ไม่ขอพูดคุยเพราะต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และตอนนี้เพจกับสถานที่ดังกล่าวได้ปิดไปแล้ว ซึ่งเกรงว่าคดีนี้จะเงียบหายไปไม่ได้รับความเป็นธรรม
พ.ต.อ.วิชัย ณรงค์ ผกก.สน.หัวหมาก เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้มีการเชิญแพทย์ ผู้ช่วยแพทย์ และพยาบาลที่อยู่ในคลินิกนั้นเข้าสอบปากคำไปแล้วทั้งสิ้น 6 ปาก สำหรับคำให้การนั้นอยู่ในสำนวนทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเปิดเผยได้โดยหลังจากนี้จะมีการเชิญฝั่งญาติของผู้ตายเข้าให้ปากคำกับทางตำรวจในภายหลัง ยืนยันจะทำสำนวนอย่างรอบคอบให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น