เพื่อนน้องกี้ เผยแชทสุดท้ายก่อนถูกสามีหึงโหดบุกยิงดับ

16 กุมภาพันธ์ 2564 ความคืบหน้ากรณีที่นายสุริชัย อังกูรเจริญพร หรือนิว อายุ 33 ปี เสี่ยเจ้าของร้านรับทำเบาะชาว จ.ระยอง ก่อเหตุใช้ปืนขนาด 9 มม. บุกกระหน่ำยิง น.ส.จันทร์จิรา พินิจรัมย์ อายุ 23 ปี ภรรยาของตัวเอง เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 111 ม.7 ต.กันทรารมย์ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ อย่างโหดเหี้ยมกระสุนเจาะเข้าบริเวณชายโครง และตามลำตัวรวม 4 นัด จนเสียชีวิตคาที่เมื่อคืนที่ผ่านมา (15 ก.พ.64)

 ล่าสุดญาติได้รับศพน้องกี้ ออกจากโรงพยาบาลบุรีรัมย์เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลยังบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านของผู้เสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว ขณะที่ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างพากันเดินทางมาให้กำลังใจครอบครัว และจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์พร้อมประณามการก่อเหตุของสามีโหด ที่บุกยิงภรรยาตัวเองเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยมต่อหน้าแม่ยาย และลูกติดภรรยาวัยเพียง 4 ขวบ เบื้องต้นญาติยังไม่กำหนดวันฌาปนกิจรอหารือกันอีกครั้ง

ขณะที่ น.ส.สุดารัตน์ หรือปาน อายุ 23 ปี เพื่อนสนิทของน้องกี้ ผู้ตาย เล่าว่า

 ช่วงกลางวันก่อนที่ กี้จะถูกสามียิงเสียชีวิตได้ไปนั่งเล่นที่บ้านตั้งแต่เช้า เพราะปกติกี้จะพาลูกสาวไปเล่นกับลูกของตนเองบ่อย แต่กี้ ก็ไม่เคยเล่าถึงปัญหาในครอบครัวให้ฟังแค่สังเกตว่ากี้ ดูหวาดระแวงเห็นรถวิ่งผ่านถนนก็บอกว่าคล้ายกับรถสามีตัวเอง ทั้งยังเคยบอกกับตนเองว่าหากเป็นอะไรไปไม่มีใครอื่นนอกจากนายสุริชัย สามีคนเดียวเท่านั้น แต่ตนก็ไม่ได้ถามว่าเพราะอะไรเพราะไม่อยากให้เพื่อนรู้สึกไม่สบายใจ ก็แค่ปลอบเพื่อนว่าอย่าคิดมากไม่มีอะไรหรอก กระทั่งประมาณบ่าย 3 โมงกี้ก็ไปรับลูกสาวที่โรงเรียนแล้วกลับบ้าน กระทั่งประมาณ 2 ทุ่มก็ได้ยินข่าวว่ากี้ถูกยิงเสียชีวิตก็ตกใจมาก ไม่คาดคิดว่าสิ่งที่เพื่อนพูดไว้จะเกิดขึ้นจริง

น้องปาน ยังบอกด้วยว่า ปกติ กี้เป็นคนไม่ค่อยพูดหรือระบายอะไรให้ใครฟังแม้แต่โซเชียลก็จะไม่ค่อยโพสต์อะไร แต่เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันวาเลนไทน์ ก็เห็นกี้โพสต์ข้อความว่า "สักดอกก็ไม่มี สักทีก็ไม่โดน" ซึ่งก็เป็นปกติเพราะส่วนใหญ่กี้จะโพสต์ข้อความขำๆ เล่นๆ เท่านั้น ไม่ได้เป็นลางสังหรณ์อะไร แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็อยากให้ตำรวจลงโทษผู้ก่อเหตุถึงที่สุดหากเป็นไปได้อยากให้ประหารชีวิตไปเลย ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิตเหมือนกัน

ด้าน น.ส.วรรณา คุณสวัสดิ์ พี่สะใภ้น้องกี้ ก็เล่าทั้งน้ำตาว่า

 ก่อนที่จะเกิดเหตุก็เคยได้ยินแม่พูดให้ฟังว่าทั้งคู่โทรมาบอกว่ามีปัญหาทะเลาะกันบ่อย ไม่รู้จะอยู่ด้วยกันได้อีกนานแค่ไหน แต่ตนก็ไม่ได้ถามอะไรน้องเพราะไม่อยากให้น้องคิดมาก แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์เศร้าสลดแบบนี้ขึ้นครอบครัวรับไม่ได้ เพราะคนเป็นสามีกันหากมีปัญหาก็ควรจะพูดคุยหรือแค่ทะเลาะกันก็น่าจะพอแล้ว ไม่น่าจะก่อเหตุรุนแรงถึงขั้นบุกมายิงถึงบ้านต่อหน้าแม่และลูกสาวของน้องแบบนี้ รับไม่ได้ทำกันขนาดนี้ไม่ต้องมาขอขมาเพราะไม่มีวันให้อภัย ก็อยากให้ตายตกตามกันไปอยากให้เขาสูญเสียเหมือนกับที่ครอบครัวต้องสูญเสียน้องเหมือนกัน เพราะหากปล่อยให้ประกันตัวออกมาก็คงจะมาก่อเหตุแบบเดิมซ้ำอีก

เครดิตแหล่งข้อมูล : nationtv