รองผบช.น. เปิดปมขัดแย้งระหว่าง 2 สถาบัน พบมีเรื่องกันอย่างต่อเนื่อง
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม รองผบช.น. เปิดปมขัดแย้งระหว่าง 2 สถาบัน พบมีเรื่องกันอย่างต่อเนื่อง
พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผบช.น. เผยเหตุยิงกันที่แยกรัชโยธิน พบ 2 กลุ่มเคยมีการด่าทอกันมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 เดือน และ 2 สถาบันมีปัญหากันมาอย่างต่อเนื่อง
จากกรณีบช.น.ตั้งโต๊ะแถลงผลการสืบสวนเหตุยิงกันที่แยกรัชโยธิน โดยพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ย้ำว่าเป็นการ์ดอาชีวะต่างสถาบัน ของคณะราษฎร เกิดจากความโกรธแค้นส่วนตัว ไม่ได้เป็นการสร้างสถานการณ์อย่างที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์แต่อย่างใด ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2563 ที่บช.น. พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผบช.น. ดูแลงานสืบสวน กล่าวว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุ มีกลุ่มชายวัยรุ่น ลักษณะเป็นพรรคพวกกันประมาณ 3-4 คน ใส่เสื้อแขนยาวสีน้ำเงินคล้ายเสื้อทีม โดยพบว่า 1 ใน ชายวัยรุ่น ที่สวมหมวกนิรภัยสีขาวเต็มใบ สวมเสื้อแขนยาวสีเข้ม กางเกงขายาวสีครีม ได้ปาวัตถุคล้ายระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณหน้าร้านแม็คโดนัล อเวนิว เมเจอร์รัชโยธิน
หลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไปทางแยกรัชโยธิน และกลุ่มผู้ก่อเหตุได้มีการใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่วิ่งไล่ติดตามผู้ก่อเหตุ อีกประมาณ 4 นัด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกอาวุธปืนยิงใส่ คือนายประชากร ศักดิ์ศรีเท้า อายุ 20 ปี เป็นอดีตนักศึกษาช่างกลปทุมธานี
เจ้าหน้าตำรวจฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุพบว่านายภาสพงศ์ กุลอมรกานต์ อายุ 25 ปี อดีตนักศึกษาช่างกลมีนบุรีโปลีเทคนิค เป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงไปยังผู้ได้รับบาดเจ็บ ต่อมาได้มีกลุ่มผู้ชุมนุม พรรคพวกของผู้บาดเจ็บได้พยายามจับตัวนายภาสพงศ์ กุลอมรกานต์ จนเป็นเหตุให้ล้มลงได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณฟุตปาธถนนรัชดาภิเษกขาเข้า ข้างร้านวายเฮียร์
และได้พบอาวุธปืนที่บริเวณพื้นถนน ใกล้ตัวนายภาสพงศ์ จากนั้นจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นต่อศาลอาญาซึ่งศาลอนุมัติหมายจับ นายภาสพงศ์ ตามข้อกล่าวหาดังกล่าวข้างต้น ซึ่งขณะนี้นายภาสพงศ์ ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลทางโซเซี่ยลมีเดียทั้ง 2 กลุ่มเคยมีการด่าทอกันมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 เดือน และความขัดแย้งของสถาบันทั้ง 2 แห่ง ก็มีมาอย่างต่อเนื่องถือเป็นสาเหตุหนึ่งในก่อเหตุโดยผู้ก่อเหตุดังกล่าวอยู่ในการชุมนุมครั้งนี้
ส่วนกรณีที่บอกว่าเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมที่สวมใส่เสื้อสีเหลืองนั้น เป็นอีกหนึ่งคนที่มีการเชื่อมโยงอยู่ในโซเซี่ยลมีเดีย คล้ายกับคนใส่เสื้อแขนยาวสีดำสะพายเป้แต่สรุปว่าทั้ง 3 คน ที่ก่อเหตุมาด้วยกัน ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุในพื้นที่แยกเกียกกายเป็นคนละชนิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด
จากกรณีบช.น.ตั้งโต๊ะแถลงผลการสืบสวนเหตุยิงกันที่แยกรัชโยธิน โดยพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ย้ำว่าเป็นการ์ดอาชีวะต่างสถาบัน ของคณะราษฎร เกิดจากความโกรธแค้นส่วนตัว ไม่ได้เป็นการสร้างสถานการณ์อย่างที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์แต่อย่างใด ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2563 ที่บช.น. พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผบช.น. ดูแลงานสืบสวน กล่าวว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุ มีกลุ่มชายวัยรุ่น ลักษณะเป็นพรรคพวกกันประมาณ 3-4 คน ใส่เสื้อแขนยาวสีน้ำเงินคล้ายเสื้อทีม โดยพบว่า 1 ใน ชายวัยรุ่น ที่สวมหมวกนิรภัยสีขาวเต็มใบ สวมเสื้อแขนยาวสีเข้ม กางเกงขายาวสีครีม ได้ปาวัตถุคล้ายระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณหน้าร้านแม็คโดนัล อเวนิว เมเจอร์รัชโยธิน
หลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไปทางแยกรัชโยธิน และกลุ่มผู้ก่อเหตุได้มีการใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่วิ่งไล่ติดตามผู้ก่อเหตุ อีกประมาณ 4 นัด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกอาวุธปืนยิงใส่ คือนายประชากร ศักดิ์ศรีเท้า อายุ 20 ปี เป็นอดีตนักศึกษาช่างกลปทุมธานี
เจ้าหน้าตำรวจฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุพบว่านายภาสพงศ์ กุลอมรกานต์ อายุ 25 ปี อดีตนักศึกษาช่างกลมีนบุรีโปลีเทคนิค เป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงไปยังผู้ได้รับบาดเจ็บ ต่อมาได้มีกลุ่มผู้ชุมนุม พรรคพวกของผู้บาดเจ็บได้พยายามจับตัวนายภาสพงศ์ กุลอมรกานต์ จนเป็นเหตุให้ล้มลงได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณฟุตปาธถนนรัชดาภิเษกขาเข้า ข้างร้านวายเฮียร์
และได้พบอาวุธปืนที่บริเวณพื้นถนน ใกล้ตัวนายภาสพงศ์ จากนั้นจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นต่อศาลอาญาซึ่งศาลอนุมัติหมายจับ นายภาสพงศ์ ตามข้อกล่าวหาดังกล่าวข้างต้น ซึ่งขณะนี้นายภาสพงศ์ ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลทางโซเซี่ยลมีเดียทั้ง 2 กลุ่มเคยมีการด่าทอกันมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 เดือน และความขัดแย้งของสถาบันทั้ง 2 แห่ง ก็มีมาอย่างต่อเนื่องถือเป็นสาเหตุหนึ่งในก่อเหตุโดยผู้ก่อเหตุดังกล่าวอยู่ในการชุมนุมครั้งนี้
ส่วนกรณีที่บอกว่าเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมที่สวมใส่เสื้อสีเหลืองนั้น เป็นอีกหนึ่งคนที่มีการเชื่อมโยงอยู่ในโซเซี่ยลมีเดีย คล้ายกับคนใส่เสื้อแขนยาวสีดำสะพายเป้แต่สรุปว่าทั้ง 3 คน ที่ก่อเหตุมาด้วยกัน ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุในพื้นที่แยกเกียกกายเป็นคนละชนิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น