พี่สาว วันเฉลิม ถึงกัมพูชา หลังถูกอุ้มหายนานกว่า 5 เดือน (คลิป)

พี่สาว นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เดินทางไปกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เพื่อติดตามการถูกอุ้มหาย ของนายวันเฉลิม เมื่อ 5 เดือนก่อน ซึ่งศาลแขวงกรุงพนมเปญ ออกหมายเรียกพี่สาว ไปไต่สวนการควบคุมตัวหรือการกักขังโดยผิดกฏหมาย ในวันที่ 8 ธ.ค.นี้

น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาว นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เดินทางถึงกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา แล้ว หลังออกเดินทางเมื่อเช้าวันนี้พร้อมกับทนายความ จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และที่ปรึกษากฏหมาย ทั้งนายสมชาย หอมละออ ที่ปรึกษามูลนิธิผสานวัฒนธรรม และ น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผอ.มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ซึ่งศาลแขวงกรุงพนมเปญออกหมายเรียกให้ น.ส.สิตานัน เดินทางไปให้ข้อมูลเกี่ยวกับการควบคุมตัวหรือการกักขังโดยผิดกฎหมาย การครอบครองอาวุธที่เกิดขึ้นในบริเวณอพาร์ตเมนท์ Mekong Garden ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ในวันที่ 8 ธ.ค.นี้

โดยทั้งหมดต้องเข้ารับการกักตัวตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในที่กักตัวของรัฐ 2 วันและกักตัวเอง 14 วัน รวม 16 วัน จากนั้นจึงจะสามารถไปเตรียมการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อให้การต่อศาล ซึ่งนายสมชาย เปิดเผยว่า กระบวนการของศาลกัมพูชาใช้ระบบไต่สวน

เมื่อพนักงานอัยการทำการสอบสวนแล้วเห็นว่าคดีมีพยานหลักฐานพอสมควรที่เชื่อได้ว่า นายวันเฉลิมถูกบังคับให้หายสาบสูญไป อย่างน้อยที่สุด ก็ระบุได้ว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นแล้ว เช่นมีการกระทำความผิดในฐานะให้วันเฉลิมเสื่อมเสียเสรีภาพ หรือกักขังหน่วงเหนี่ยว หรือบังคับให้สูญหาย และหากพบว่าเสียชีวิตอาจมีข้อหาเพิ่มขึ้น

พี่สาว วันเฉลิม ถึงกัมพูชา หลังถูกอุ้มหายนานกว่า 5 เดือน (คลิป)

โดยพนักงานอัยการจะยื่นสำนวนไปที่ศาล เมื่อศาลได้รับสำนวนแล้ว ศาลจะทำการไต่สวน เพื่อยืนยันว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นจริงและจะสืบสวนต่อไปว่าใครเป็นผู้กระทำความผิด จึงถือว่าการเดินทางครั้งนี้มีความก้าวหน้าในกระบวนการยุติธรรมให้กับนายวันเฉลิม ที่ถูกอุ้มหายจากหน้าที่พักไปเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน และกลายเป็นความหวังอีกครั้งของครอบครัว ที่ยังไม่รู้ชะตากรรมของนายวันเฉลิม

ขณะที่ น.ส.พรเพ็ญ เปิดเผยว่าการเดินทางครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ประเด็นการบังคับให้สูญหาย เพราะเหตุการณ์วันเฉลิมไม่ใช่เหตุการณ์แรก และต้องการให้ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยกระดับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของคนของรัฐ ตอนนี้ยังไม่ได้มีการทำเรื่องการคุ้มครองพยานหรือความปลอดภัยแบบเป็นทางการ

นอกจากนี้ น.ส.สิตานัน กล่าวทั้งน้ำตาว่า "เราจะทำให้ดีที่สุด แม้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม แล้วให้โลกรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับวันเฉลิมคืออะไร ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ครอบครัวเราเสมอมา ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ"