พ่อลุยแจ้งความ ลูกชายผูกคอดับในค่ายทหาร ขอเอาศพไปผ่าชันสูตร


พ่อลุยแจ้งความ ลูกชายผูกคอดับในค่ายทหาร ขอเอาศพไปผ่าชันสูตร

จากกรณีที่ พลทหาร พิชวัฒน์ เวียงนนท์ อายุ 22 ปี ที่เสียชีวิตภายหลังหนีออกมาจากค่ายทหาร หลังถูกจับกลับไป ได้เสียชีวิตในค่ายโดยยืนผูกคอตายในห้องน้ำ ทางญาติๆ รู้สึกติดใจถึงการเสียชีวิตดังกล่าว

ล่าสุดเวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาติของทหารที่ผูกคอตาย เมื่อวานนี้ ในค่าย มทบ.27 ประกอบด้วย พ่อ คือนายอุเทน เวียงนนท์ อายุ 47 ปี นายปิยะพงษ์ เวียงนนท์ พี่ชาย และนางพิชญาพร คำภักดี ญาติ และกว่า 10 คน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองร้อยเอ็ด เจ้าของคดี ลูกชายผูกคอตาย เพื่อขอดูหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการตายของลูกชาย สาเหตุการตาย และสงสัยเชือกต้นเหตุที่ใช้ผูกคอตาย เพื่อขอตรวจสอบ พร้อมกับยื่นความจำนง ขอให้ลงบันทึกการขอย้ายศพลูกชาย ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งตรวจ และผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่ชัดเจน ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ขอนแก่น ว่าไม่เชื่อใจจึงขอย้ายไปทำการผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช ที่กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานรถกู้ภัยอโศก เดินทางไปรับศพจากจังหวัดขอนแก่นเพื่อส่งต่อเข้ากรุงเทพฯ โดยมีญาติร่วมเดินทางไปด้วย



นายอุเทน (พ่อผู้เสียชีวิต) กล่าวว่า ติดใจสาเหตุการตายของลูกชาย อยากได้ความยุติธรรม ไม่เชื่อว่าลูกชายจะผูกคอตาย เพราะเป็นคนร่าเริง ไม่เคยมีปัญหา เงินทองก็ไม่เคยติดขัด อยากได้เงินก็โอนเงินมาให้ตลอด โดยโอนมาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานียู่ ส่วนกรณีที่กลับบ้านลูกชายติดยานั้น ตนไม่มั่นใจและไม่ทราบ พ่อไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน มาขอดูเชือกผูกคอตาย ติดใจ ผบ.ร้อยที่ลูกชายบอกตลอดทุกครั้งที่กลับบ้านว่าทำร้ายลูก ลูกบอกว่ามีแม้แต่การหักกินเงินเดือนลูกชาย

ที่ตนเองอยากให้มีการสอบสวนตรวจสอบที่สุด ก็คือกรณีที่ลูกชายมักบอกเสมอว่า มีนายทหารคนนึงที่เป็น ผบ.ร้อย ชอบบังคับทำโทษลูกชายมาโดยตลอด ชอบเอาพริกหรือเกลือทาหลังลูก ตนเชื่อในสิ่งที่ลูกชายเล่า และยืนยันว่าจริง เนื่องจากเชื่อว่าลูกชายไม่โกหก เพราะเล่าให้ใครต่อใครฟังก็ ยังคงเป็นถ้อยคำเดิมๆ ซึ่งเรื่องนี้หากตรวจสอบสอบสวนจริงๆ จะรู้ว่ามีเรื่องแค่นี้เกิดขึ้นจริง เป็นเหตุให้หนีออกจากค่ายบ่อยๆ ซึ่งตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

 


พ่อลุยแจ้งความ ลูกชายผูกคอดับในค่ายทหาร ขอเอาศพไปผ่าชันสูตร


ทางด้านนายปิยะพงษ์ เวียงนนท์ พี่ชาย เปิดเผยว่า หลังจากตนเองเดินทางมาถึงพร้อมกับพ่อ ปรากฏว่าไม่เห็นอะไรเลย เพราะทางทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาขนกันไปหมดแล้ว ทั้งการนำศพ ถ่ายภาพบันทึกถ้อยคำ พร้อมกับนำศพ ส่งผ่าพิสูจน์ที่จังหวัดขอนแก่น ทั้งที่ตนเองบอกว่าขอให้รอก่อน วันนี้จึงตามมาติดตาม ความคืบหน้าที่พนักงานสอบสวน เพื่ออยากให้ได้รับความเป็นธรรมทางรูปคดี และอยากทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าน้องชายตายเพราะสาเหตุอะไร อยากดูแม้กระทั่งเชือกที่น้องชายใช้ผูกคอตาย แต่ไม่เห็นอะไรและทุกอย่างได้มีการดำเนินการไปหมดแล้ว สิ่งที่ต้องการที่สุดในตอนนี้ก็คือ มายื่นความจำนงกับพนักงานสอบสวนให้บันทึกถ้อยคำว่าขอรับศพจากจังหวัดขอนแก่นเพื่อนำไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวชกรุงเทพฯ โดยทุกคนจะตามไปด้วยภายในวันนี้ และหลังแจ้งความแล้วจะออกเดินทางทันที

สำหรับต้นเหตุของการที่น้องชายหนีทหารบ่อยๆ นั้น ซึ่งพอน้องชายหนีทหารกลับบ้าน และมีคนแจ้งไปให้พ่อทราบ พ่อจะโทรศัพท์กลับมาถาม ถึงสาเหตุการหนีทหารบ่อยๆ น้องชายเล่าว่า สาเหตุที่หนีทหารบ่อยๆ เนื่องจากมักถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งก็มีการพูดคุยกันตลอด ทุกครั้งที่มีข่าวว่าลูกชายหนีทหาร ตอนนี้ที่ติดใจที่สุดก็คือ สาเหตุการตายด้วย เพราะยังมีความเชื่อมากๆ น้องชายไม่ได้ผูกคอตายอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงสงสัยสาเหตุการตายและขอความเป็นธรรม เพราะน้องชายที่ตายไปก็เป็นชีวิตๆ หนึ่งของคนเหมือนกัน

 




ในขณะที่ นางพิชญาพร คำภักดี ญาติที่เดินทางมาด้วย กล่าวว่า ติดใจสาเหตุการตายที่สุดว่าทำไมน้องเพิ่งกลับค่าย โดยก่อนหน้านั้นก็ไม่มีท่าทีอะไร โดยไม่มีอะไรน่าจะเป็นสาเหตุ ปกติผู้ตายป่วยเป็นวัณโรคปอด ซึ่งก็ยอมรับว่าหนีทหารไปบ่อยๆ บางครั้งก็หนีมา เพราะตัวเองไม่สบาย และครั้งสุดท้ายก่อนผูกคอตาย อยากได้ก็ให้ความร่วมมือกับทหาร เมื่อเห็นว่าหนีออกมาก็นำส่งกลับสู่ค่าย โดยให้ความร่วมมือกับทหารที่ไปติดตามตัว ด้วยการพาไปตามตัว พร้อมกับเดินทางมาส่งกลับเข้าค่าย ตอนช่วงสามทุ่ม แต่พอถึงวันต่อมาในตอนเที่ยงก็มีการแจ้งข่าวไปว่า น้องชายผูกคอตายแล้ว ซึ่งพวกตนไม่เชื่อว่าเป็นการผูกคอตายเอง เพราะปกติไม่เห็นมีเรื่องอะไร

แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนได้ยินเสมอก็คือ ทุกครั้งที่หนีออกมาจากค่ายจะบอกว่าถูกตีถูกทำร้ายร่างกาย ถูกซ้อมอยู่บ่อยๆ เคยพูดแม้กระทั่งว่า ใครก็ไม่รู้หรอกถ้าไม่ใช่(ผู้ตาย) ก็จะไม่รู้ว่ามันเป็นอย่างไร เช่นบอกว่ามีการเหยียบคอ ตัดผม เอาพริกเอาเกลือทาหลัง จนทนไม่ไหว แต่พอไปถามทั้งทหารก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ แต่ผู้ตายก็ยืนยันว่ามีจริง ตอนนี้ที่สงสัยติดใจที่สุดก็คือ ตอนที่ส่งน้องกลับมายังค่ายก็ดีๆ แต่พอวันรุ่งขึ้นก็บอกว่าน้องผูกคอตาย ซึ่งพวกตนไม่เชื่อ

และหลังจากรับแจ้งเหตุ ก็บอกว่ากำลังรวบรวมญาติที่จะเดินทางมาดู แม่จะมารับศพ โดยไม่ให้มีการเคลื่อนศพ แต่ปรากฏว่าเมื่อมาถึง คำตอบบันทึกเรื่องศพ ผู้ตายออกไปแล้ว โดยบอกว่าอยู่ที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด ทำไมต้องเคลื่อนศพไปก่อน ก็ตอบว่ากลัวศพน้องเน่าก่อน ก็รีบนำส่งโรงพยาบาลก่อน ซึ่งเป็นเหตุให้สงสัยในสาเหตุการตายด้วยว่าทำไมไม่รอให้ญาติมาเห็น มาดูจุดการตายที่ชัดเจนก่อน ถือว่าเป็นข้อสงสัยว่าจะมีเงื่อนงำ

ส่วนกรณีการซ้อมการทำร้ายร่างกาย เชื่อว่ามีจริงเพราะมีหลายคนเห็น ร่องรอยบาดแผลและอาการบวมที่แผ่นหลังของผู้ตาย แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะคิดว่าอาจจะไม่เชื่อฟังผู้บังคับบัญชา ก็ต้องมีการทำโทษบ้างเป็นธรรมดา แล้วก็ยังเคยเตือนว่าอย่าหนีมาบ่อยเพื่อที่จะไม่ต้องให้ถูกทำโทษ และก็ไม่ได้ติดใจอะไร กับการทำโทษถ้ากระทำความผิด แต่ครั้งนี้ข้องใจสงสัย และปัจจัยเชื่อว่าน่าจะมีเงื่อนงำและสาเหตุอื่นอยู่เบื้องหลังการผูกคอตายดังกล่าว และต้องการจะติดตามเรื่องให้ถึงที่สุด เพื่อให้ทุกอย่างเกิดความชัดเจน เพราะยังไงทุกคนก็ไม่เชื่อว่าเป็นการผูกคอตายเอง

พ่อลุยแจ้งความ ลูกชายผูกคอดับในค่ายทหาร ขอเอาศพไปผ่าชันสูตร


พ่อลุยแจ้งความ ลูกชายผูกคอดับในค่ายทหาร ขอเอาศพไปผ่าชันสูตร

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : me
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 203.151.136.238

203.151.136.238,,238.136.151.203.sta.inet.co.th ความคิดเห็นที่ 2 [อ้างอิง]
wellcome


[ วันอาทิตย์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 10:42 น. ]
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์