ปปส.เร่งแจง ปม เว็บแฉกะทิ-ชุดไทยผสมไอซ์ โผล่แดนจิงโจ้

ป.ป.ส.แจง ยาไอซ์ซุก กะทิ-ชุดไทย หลายร้อยกิโล ส่งพัสดุถึงออสเตรเลีย ชี้เป็นปฏิบัติการร่วมออสเตรเลีย-ไทย เผยมาจากเพื่อนบ้านพักโกดังปริมณฑล รอกระจายหลาย บ.ขนส่ง ลดความเสี่ยง

วันที่ 15 ก.ย. นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ( ป.ป.ส.) กล่าวถึงกรณีเว็บไซต์นิวส์ ของออสเตรเลีย รายงานเหตุ ตำรวจสหพันธรัฐออสเตรเลีย (Australian Federal Police หรือ AFP) บุกเข้ายึดสารเสพติดชนิดเมทแอมเฟตามีน (Methamphetamine) ซึ่งถูกละลายมาในกระป๋องกะทิ และจับกุมหญิง อายุ 29 ปี และชายอายุ 20 ปี สัญชาติ สปป.ลาว หลังตรวจสอบการขนส่งสินค้าทางอากาศ พบว่า มีกะทิกระป๋อง 86 ลัง ส่งมาจากประเทศไทย ถึงนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ว่า

การจับกุมดังกล่าว ป.ป.ส. ได้รับทราบข้อมูลจากมาตรการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดทางท่าอากาศยานนานาชาติและพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศ (Airport Interdiction Taskforce : AITF)  ภายใต้ปฏิบัติการ TASK FORCE STORM  

นายนิยม กล่าวอีกว่า โดยเมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา ป.ป.ส. ได้รับแจ้งจาก AFP กรณีเจ้าหน้าที่ศุลกากรซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ตรวจยึดยาเสพติดซุกซ่อนในพัสดุไปรษณีย์ 3 ชิ้นส่งจากประเทศไทยทางอากาศ โดยวันที่ 10 ส.ค. พัสดุชิ้นที่ 1 เป็นยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 8.9 กก. ซุกซ่อนในห่อผงกะทิ ส่งผ่านบริษัท DHL ระบุชื่อผู้ส่ง DHL EXPRESS ตั้งอยู่ จ.สมุทรปราการ  พัสดุชิ้นที่ 2 วันที่ 13 ส.ค. ตรวจยึดไอซ์น้ำหนักประมาณ 5 กก. ซุกซ่อนบริเวณคอเสื้อของชุดไทย ส่งผ่านบริษัทขนส่งแห่งหนึ่งใน กรุงเทพฯ และพัสดุชิ้นที่ 3 วันที่ 17 ส.ค. ตรวจยึดไอซ์ น้ำหนักประมาณ 813 กก. ซุกซ่อนผสมอยู่ในน้ำกะทิกระป๋อง (รวมน้ำหนักกะทิทั้งหมด) 24 ลัง ส่งผ่านบริษัทขนส่งแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ต่อมาวันที่ 11 ก.ย. ทางการออสเตรเลีย ขยายผลจับกุมผู้ที่มาติดต่อขอรับยาเสพติดดังกล่าวได้ 2 คน เป็นบุคคลสัญชาติลาว อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลีย 

นายนิยม กล่าวว่า เชื่อว่าการลักลอบส่งยาเสพติดทางพัสดุไปรษณีย์ทั้ง 3 ชิ้นนี้ เป็นการดำเนินการของเครือข่ายนักค้ายาเสพติดเดียวกัน จากข้อมูลการสืบสวน ยาเสพติดที่ตรวจยึดถูกลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยลักลอบนำเข้ามาแล้วทำการซุกซ่อน ดัดแปลง และนำมาพักคอยไว้ที่โกดังย่านปริมณฑล จากนั้นจะถูกนำส่งให้บริษัทขนส่งต่างๆหลายแห่ง เพื่อลดความเสี่ยงถูกตรวจสอบจับกุมของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะเร่งสืบสวนขยายผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติดังกล่าวต่อไป