แม่ เจมส์บอนล์ เผยลูกชายถูก ตร.กดหัวกับพื้นจนตาเขียว ขอดูกล้องไม่ยอมเปิด

จากกรณี นางปุนยวัจนา วรรคาวิสันต์ ภรรยาอดีต ผบ.มทบ.38 พร้อมทนายความ เตรียมพา นายอิศราชนุวัฒภ์ วรรคาวิสันต์ หรือ "เจมส์บอนด์" ลูกชาย เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ เพื่อแจ้งความ

 โดยอ้างว่า ระหว่างที่ "เจมส์บอนด์" นั่งรถยนต์กับเพื่อนกลับบ้านพัก โดยเพื่อนที่เป็นคนขับรถได้ถูกตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ที่ตั้งด่านบนถนนใกล้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เรียกตรวจแอลกอฮอล์

ทั้งนี้ "เจมส์บอนด์" ได้พยายามเข้าไปช่วยพูดเจรจาไกล่เกลี่ยให้ แต่กลายเป็นว่าถูกตำรวจทำร้ายร่างกาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 14 ก.ย. นางปุนยวัจนา ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า

 ลูกชายของตนไม่ได้ไปเที่ยวสถานบันเทิง แต่ไปประชุมเรื่องธุรกิจกับเพื่อนชาวต่างประเทศมา และมีการดื่มฉลองกันนิดหน่อยยังจุดที่ประชุม จากนั้นก็พากันกลับบ้านก็มาเจอด่าน ลูกชายของตนไม่ได้เป็นคนขับด้วย ยอมรับว่าลูกชายของตนกับเพื่อนก็ดื่มฉลองกันหลังประชุมเสร็จแต่ไม่มาก วัดแอลกอฮอล์คนขับได้แค่ 60 กว่ามิลลิกรัมเปอร์เซ็นเท่านั้น

ตนได้สอบถามลูกของตนว่าได้ไปปัดเครื่องหรืออุปกรณ์การเป่าแอลกอฮอล์ของตำรวจหรือไม่ ขณะที่ตำรวจกำลังให้เพื่อนของลูกเป่าฯ ลูกชายก็บอกว่าไม่ได้ไปปัด อยู่ห่างกันเกือบ 6 เมตร แต่ลูกชายของตนบอกว่าเดินไปหาตำรวจอีกคนที่มีกล้องเพื่อขอไกล่เกลี่ยเจรจา แต่ปรากฏว่าตำรวจก็พากันจับศีรษะลูกของตนกดลงกับพื้น จนศีรษะเปื้อนฝุ่น และกดแรงมากจนตาเขียวช้ำ

 ซึ่งตำรวจทำเกินกว่าเหตุหรือเปล่า เมื่อมาถึงโรงพัก ตนได้ขอดูภาพจากกล้องตำรวจก็ถูกปฏิเสธ และบอกว่าให้ไปสู้กันในชั้นศาล ลูกชายของตนนั้นยอมรับว่าเสียงดังไปหน่อยตอนช่วงที่เพื่อนถูกให้เป่าแอลกอฮอล์

เรื่องนี้ตนอยากจะดูคลิปกล้องของตำรวจ ซึ่งเชื่อว่าจะเห็นตอนกดหัวลูกชายตนแน่นอน ตนก็มีภาพสภาพลูกชายที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกกดหัวลงกับพื้น และมีใบตรวจร่างกายของแพทย์ด้วย

ซึ่งตนจะขอปรึกษาทนายความและผู้ใหญ่อีกครั้ง เพื่อดำเนินการกับตำรวจชุดที่กระทำกับลูกชาย เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมต่อไป