จากเรื่องอื้อฉาวกรณีนายนิพนธ์ หรืออั้ม โตสิงห์ อายุ 16 ปี นักศึกษา ปวช.ปี 1 โรงเรียนไทยวิจิตรศิลป
ตกเป็นเหยื่อรับน้องโหดของกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ร่วมสถาบัน ด้วยวิธีสุดป่าเถื่อน สั่งให้กระโดดเอาศีรษะทิ่มทรายและกลิ้งบนกองไฟคนละหลายรอบ เป็นเหตุให้นายนิพนธ์ถูก ไฟลวกทั้งตัวและหมดสติ ส่วนเพื่อนนักศึกษารุ่นน้องอีก 2 คน ก็ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมา บริเวณชายทะเล ต.ธงชัย อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังเกิดเหตุทางผู้ปกครองนักศึกษารุ่นน้อง 3 คน เข้าแจ้งตำรวจกองปราบปรามดำเนินคดีกับ รุ่นพี่ ขณะที่นายนิพนธ์อาการทรุดหนักต้องเข้ารักษาตัว ที่ รพ.ชลประทาน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี แพทย์พบสมอง ได้รับความกระทบกระเทือนต้องผ่าตัดช่วยชีวิต แต่อาการยังไม่ดีขึ้นนั้น
ในที่สุดเหยื่อรับน้องโหดได้เสียชีวิตลงแล้ว โดยเมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 28 ต.ค.
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลชลประทาน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ว่า นายนิพนธ์ หรืออั้ม โตสิงห์ นักศึกษา ปวช.1 โรงเรียนไทยวิจิตรศิลป ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์รับน้องของ รุ่นพี่ร่วมสถาบัน ซึ่งนอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูได้เสียชีวิตลงแล้ว เมื่อไปถึงพบนายสมนึก โตสิงห์ และนางบุญส่ง โตสิงห์ พ่อแม่นายนิพนธ์ รวมทั้งนางสุทิน ไม้จีน แม่บุญธรรม ของนายนิพนธ์ เฝ้าอยู่หน้าห้องไอซียูด้วยอาการโศกเศร้า ที่ต้องเสียลูกชายอันเป็นที่รักต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
นางสุทินเปิดเผยด้วยน้ำตานองหน้าว่า นายนิพนธ์ ลูกชาย จากไปอย่างสงบเมื่อเวลา 16.00 น.
ก่อนเสียชีวิตอาการของลูกชายไม่ดีเลย โดยเมื่อ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา แพทย์ที่ดูแลรักษาบอกให้ครอบครัวทำใจไว้ระดับหนึ่ง เนื่องจากอาการนายนิพนธ์ หลังจากผ่าตัดรอบแรกมา แล้วก็มีแต่ทรงกับทรุดมาตลอด เพราะลำไส้ใหญ่ไม่ทำงาน และยังเกิดอาการต้านยา แม้หมอจะช่วยให้ยากระตุ้นก็ตาม ทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง เพราะขาดอาหาร ก่อนสิ้นใจญาติ ได้มาเยี่ยมกันอย่างใกล้ชิด และดูเหมือนลูกชายจะรู้ว่าตัวเองจะต้องจากไปแล้ว เขาพยายามผงกหัวขึ้นมาคุยด้วย แต่ก็ทำไม่ได้ ตนยังบอกกับเขาว่า หากชาติหน้ามีจริงขอให้ เกิดมาเป็นลูกกันอีก หรือไม่ก็เกิดมาเป็นหลานในครอบครัว อีกก็ได้ ตัวเขาเหมือนจะรับรู้และเสียไปในที่สุด