หนุ่มใหญ่ร้องเป็นแพะ ในคดีค้ายาเสพติด ตำรวจจับติดคุกฟรี 9 เดือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ต.ป่งขาม อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร ว่าอยากจะเรียกร้องขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ และอยากจะให้เป็นบทเรียนกับหลายๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่อยากให้เรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นอีกในกระบวนการยุติธรรมเมืองไทย

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ นายจันทร แสงกาศ อายุ 53 ปี ซึ่งอาศัยอยู่กับลูกสาวคนเล็กอายุ 10 ปี มีฐานะยากจน มีอาชีพรับจ้างทั่วไปและหาปลาในแม่น้ำโขงเลี้ยงชีพ นายจันทร เล่าว่าถูกตำรวจ สภ.หว้านใหญ่ จับกุมตัวตามหมายจับของตำรวจ สภ.ธาตุพนม จ.นครพนม เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2561 โดยตำรวจชุดจับกุมบอกว่าตนเองเป็น 1 ใน 2 ของผู้ค้ายาเสพติดที่ตรวจยึดยาบ้าได้จำนวน 193 เม็ด ที่ริมแม่น้ำโขงหลังโรงเรียนบ้านทรายมูล ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2561 เวลา 18.30 น.

"ตอนนั้นงงมากเพราะไม่เคยไปที่นั้นในเลย วันที่เกิดเหตุเวลา 18.00 น. ยังนั่งทานข้าวกับญาติพี่น้องอยู่เลย ด้วยความจำยอมขณะถูกตำรวจเข้าจับกุมก็ไม่ได้ขัดขืน ยอมไปสถานีตำรวจโดยดี เมื่อถึงขั้นสอบสวนก็ได้ปฏิเสธมาตลอด วันรุ่งขึ้นตำรวจก็ส่งตัวไปฟ้องศาลจังหวัดนครพนม แล้วส่งตัวไปฝากขังที่เรือนจำนครพนม จะทำเรื่องประกันตัวก็ไม่มีหลักทรัพย์พอเพราะด้วยตัวเองมีหาชีพหาปลา ที่ดินก็ไม่มี ทุกวันนี้ต้องอาศัยที่ของเทศบาลที่จัดให้เพื่อสร้างบ้านพัก จึงติดคุกตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา จนเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2562 ศาลพิจารณาว่าตนบริสุทธิ์สั่งยกฟ้องปล่อยตัวกลับบ้าน และต่อมาเมื่อเดือน ก.พ. 2563 ได้รับเอกสารจากศาลจังหวัดนครพนมยืนยันว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ ที่ผ่านมาก็ไปยืนหนังสือขอความเป็นธรรมแต่เรื่องก็เงียบหาย" นายจันทร กล่าว

นายจันทร บอกอีกว่าจากการที่ได้ฟังศาลท่านอ่านคำตัดสิน สรุปใจความได้ว่าที่ตัวเองถูกออกหมายจับนั้น เป็นเพราะว่าวันที่เกิดเหตุตำรวจได้ของกลางเป็นยาบ้าและโทรศัพท์มือถือ ในโทรศัพท์มือถือมีรายการที่โทรออกล่าสุดเป็นชื่อว่าเตี้ยสอง เลยเป็นที่มาของการถูกจับในครั้งนั้น จนถึงทุกวันนี้ตนเองยังคงสงสัยว่าแค่ชื่อเตี้ยตำรวจยังออกหมายจับได้ ทั้งที่ตัวเองตอนนั้นไม่มีโทรศัพท์ส่วนตัวด้วยซ้ำ เพียงแค่มีบ้านอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุเท่านั้น