เมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 27 ต.ค. พ.ต.ต.มารุต แก้วประเสริฐ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.วังทองหลาง รับแจ้งเหตุยิงกันได้รับบาดเจ็บบริเวณปากซอยรามคำแหง 39 แยก 4 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม.
จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชิษณุพงศ์ ยุกตะทัต ผบก.น.4 พ.ต.อ.กองพล สาราษฎร์ ผกก.สน.วังทองหลาง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กองพิสูจน์หลักฐาน และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุเป็นหน้าร้านขายข้าวมันไก่และก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ พบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน วณ 364 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในสภาพถูกยิงด้วยกระสุน 9 มม.
โจ๋กรุงระห่ำ! ยิงดะ ม. 3 เจ็บ เจอไป5นัด-เก๋งคัมรีพรุน
เข้าที่กระจกหน้าและหลัง กระจกข้างรถ กระโปรงหน้ารถรวม 9 นัด มีปลอกกระสุนตกเกลื่อนพื้น 7 ปลอก ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อนายพีระพงษ์ แก้วกล้าหาญ อายุ 17 ปี
นักเรียน ชั้น ม.3 ร.ร.วัดเทพลีลา พลเมืองดีนำส่ง รพ.รามคำแหง หลังถูกยิงเข้าที่บริเวณกลางหลัง 2 นัด ขาซ้าย 1 นัด ต้นขาขวา 1 นัด และแขนขวาใต้ศอก 1 นัด อาการสาหัส แพทย์ต้องผ่าตัดช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน น.ส.นรินพร อนุวัฒน์อังกูร อายุ 19 ปี ลูกจ้างร้านข้าวมันไก่ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ มีลูกค้ามานั่งในร้านประมาณ 10 คน นายพีระพงษ์มากับเพื่อนหญิงและชายอีก 2 คน
มีพนักงานของบริษัทแห่งหนึ่งขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี่คันที่ถูกยิงมาจอดหน้าร้าน เพื่อลงมาสั่งข้าวมันไก่ใส่ห่อกลับบ้าน เป็นจังหวะเดียวกับที่คนเจ็บกินเสร็จพอดี และลุกเดินมาจ่ายเงิน ทันใดนั้นได้มีคนร้ายวัยรุ่น 2 คน สวมหมวกกันน็อกขี่รถ จยย. ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนมาจอดหน้าร้าน คนซ้อนท้ายได้ชักปืนกระหน่ำยิงใส่นายพีระพงษ์ทันที กระสุนยังหลงไปโดนรถเก๋งที่จอดอยู่เป็นรูพรุนแล้วพากันหลบหนีไป
คนขับรถเก๋งโตโยต้าคัมรี่ ไม่ขอเปิดเผยชื่อเพราะเกรงจะเกิดผลกระทบต่องานบริษัทเผยเพียงว่า
รถคันดังกล่าวเป็นของบริษัท มีเจ้านายเป็นชาวญี่ปุ่น ตนนำรถมาใช้โดยเจ้าของบริษัทไม่ทราบ แค่แวะซื้อข้าวมันไก่ ใส่ห่อไปกินที่บ้าน รถกลับมาถูกยิงพรุนเสียหายไม่รู้ อีโหน่อีเหน่ สาเหตุไม่น่าจะเกี่ยวกับตนแน่นอน เพราะไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับใคร โชคดีที่ทำประกันภัยไว้อยู่แล้ว
ด้าน พ.ต.ต.มารุต แก้วประเสริฐ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีกล่าวว่า อาการคนเจ็บขณะนี้แพทย์ได้ช่วยเหลือผ่าตัดนำหัวกระสุนที่ฝังอยู่ออกมาหมดแล้ว ยังมีสติและสามารถพูดคุยได้ สาเหตุน่าจะเป็นพวกวัยรุ่นป่วนเมือง เพราะลักษณะยิงเป็นการยิงกราดไปทั่วหน้าร้าน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรอสอบปากคำนายพีระพงษ์ และเพื่อนอีกครั้งว่าเคยไปมีเรื่องบาดหมางกับใครหรือไม่ ก่อนจะติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป