รถเมล์สาย 29 ชนจนท.อาสาบรรเทาสาธารณะภัยดับ

รถเมล์ขสมก.สาย 29 พาผู้โดยสารเข้าอู่ย่านหัวลำโพง พุ่งชนจยย.ล้มคว่ำอาสาสมัครหน่วยบรรเทาสาธารณะภัย ดับคาถนน สาหัส 1 ราย

ด้านโชเฟอร์ เผย ก่อนถึงอู่เห็นจยย.วิ่งย้อนศรมาอย่างเร็วพยายามหักหลบแต่ไม่ทันพุ่งชนอย่างจัง ขณะที่ตำรวจยังไม่แจ้งข้อหารอสอบอีกครั้ง เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 25 ตุลาคม ร.ต.ท.พงษ์เพชร จุลจำเริญทรัพย์ ร้อยเวร สน.นพวงษ์ ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถโดยสารประจำทางเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ทำให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส บริเวณถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม (ฝั่งติดกับสถานีรถไฟหัวลำโพง) แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์ รพ.จุฬา และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุพบรถ ขสมก.สาย 29 สีครีมแดง

วิ่งระหว่างรังสิต - หัวลำโพง หมายเลขทะเบียน 12-0330 กรุงเทพมหานคร หมายเลขข้างรถ 1-40089 จอดยู่บนถนนช่องทางด้านขวาฝั่งมุ่งหน้าไปทาง สน.นพวงษ์ ในสภาพด้านหน้ารถเมล์พังยับเยินไฟขวาแตก ส่วนรถจักรยานยนต์คู่กรณียี่ห้อยามาฮ่า รุ่นนูโว สีดำ-แดง หมายเลขทะเบียน มนค 993 กรุงเทพมหานคร พลิกคว่ำอยู่ด้านหน้าใต้ท้องรถ ขสมก.ในสภาพโช๊คหน้าหักงอเข้ามาติดกับตัวเครื่อง

ส่วนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเสียชีวิตทันทีในที่เกิด

เหตุทราบชื่อ นายสุรพงษ์ สุขสมวัด อายุ 26 ปี เป็นอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยแห่งประเทศไทย หน่วยโบ๊เบ๊ อยู่บ้านเลขที่ 92/15 ซอยริมทางรถไฟสายแปดริ้ว ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กทม.สภาพศพนอนหงายอยู่ใกล้กันกับรถจักรยานยนต์ ไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงยีนขายาว มีบาดแผลที่บริเวณใบหน้าจากการกระแทกกับกันชนรถ ขสมก.จนยุบ แขนและขาหัก เลือดไหลนองเต็มพื้น

นอกจากนี้มีผู้ซ้อนท้ายได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสอีก 1 ราย

ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้นำตัวส่ง รพ.กลาง ไปก่อนหน้านี้ ทราบชื่อต่อมา น.ส.นิสา มั่งมี อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นน้องสะใภ้ ของผู้ตาย จากการสอบสวนนายสมพร พูลเกษม อายุ 55 ปี โชเฟอร์รถเมล์ ขสมก.คันดังกล่าว ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถรับส่งผู้โดยสารมาจากย่านรังสิต และกำลังจะขับมาเข้าอู่ที่หัวลำโพง พอขับผ่านมาถึงที่เกิดเหตุได้เห็นผู้ตายขับ จยย.ซ้อนท้ายคนเจ็บ ในลักษณะย้อนศรพุ่งเข้ามาหารถของตนอย่างรวดเร็ว ซึ่งตนก็พยายามหักพวงมาลัยรถออกไปทางด้านขวาแล้วแต่ก็หลบไม่พ้นทำให้รถ จยย.ของผู้ตายพุ่งเข้าประสานงากับรถตนอย่างรุนแรง โดยช่วงเวลานั้นมีผู้โดยสารยังอยู่บนรถด้วย 1 คนแต่หลังเกิดเหตุไม่ทราบว่าหายตัวไปไหนแล้ว

ด้าน ร.ต.ท.พงษ์เพชร ร้อยเวรเจ้าของคดี กล่าวว่า

จากการสอบถามญาติของผู้เสียชีวิตในเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้รีบขับรถ จยย.ออกจากบ้านมาส่งน้องสะใภ้ ซึ่งกำลังจะไปขึ้นรถไฟที่สถานีหัวลำโพง เพื่อเดินทางไป จ.เชียงใหม่ ส่วนในเวลานี้จะยังไม่แจ้งข้อหากับใครทั้งสิ้นเพราะต้องรอสอบปากคำพยานผู้เห็นเหตุการณ์และคนขับรถ ขสมก.ที่ยืนรอมอบตัวอยู่ในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง