จนมุม! เมียสารภาพร่วมมือกิ๊กฆ่าผัว ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ

จากกรณีวันที่ 13 กรกฎาคม 2563 ร.ต.อ.ปกรณ์เกียรติ ชินเทพ ร้อยเวรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถกระบะตกข้างทาง ถนนสายบายพาสชะอำ-ปราณบุรี ขาล่องใต้ ตำบลสามพระยา อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี จึงพร้อมด้วย แพทย์เวรโรงพยาบาลชะอำ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดเพชรบุรี กู้ภัยสว่างสรรเพชญธรรมสถานฯ หน่วยบรรเทาสาธารณภัยสิริน และตำรวจทางหลวงเพชรบุรี เข้าร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุ เป็นบริเวณ4แยก บริเวณหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์เพชรบุรี พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาวตอนครึ่ง ป้ายทะเบียน บพ-8390 จ.เพชรบุรี ในสภาพตกลงไปข้างทาง ด้านหน้ารถติดกับโคนต้นไม้ใหญ่ข้างทาง แต่แปลกรถไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด

ตรวจสอบภายในรถยนต์ พบศพของนายพิธยุทธ โพธิ์ภักดี อายุ 42 ปี ชาวจังหวัเสุพรรณบุรี ในสภาพสวมเสื้อกีฬาสีน้ำเงิน กางเกงขายาว นั่งเสียชีวิตอยู่ บนเบาะคนขับ ใบหน้าบวมปูด บริเวณดวงตาทั้ง 2 ข้าง และจมูกคล้ายถูกของแข็งทุบตีเป็นแนวยาว ใต้คางมีบาดแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ 1 แผล พบกองเลือดบริเวณที่พักเท้าฝั่งซ้ายจำนวนมาก เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6-7 ชั่วโม

ตรวจสอบในกระเป๋าคาดเอวสีม่วงของผู้ตาย พบสมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย 1 เล่ม ธนาคารออมสิน 1 เล่ม บัตรประชาชนใบขับขี่ 4 ใบ และเงินสดจำนวน 1,800 บาท บริเวณมือจับประตูฝั่งซ้ายด้านนอก พบรอยเลือดเป็นรอยนิ้วมือติดอยู่เจ้าหน้าที่จึงถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน โดยเจ้าหน้าที่ได้ส่งร่างผู้เสียชีวิตผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุ

โดยล่าสุด ช่วงบ่ายวันนี้ แพทย์จากโรงพยาบาลพระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี ยืนยันว่า สาเหตุเกิดจากการที่ ศีรษะได้รับบาดเจ็บ รุนแรง สมองพกซ้ำ และเลือดออก ใต้เยื่อหุ้มสมอง โดยทางคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ชะอำ ได้เรียกตัว ภรรยาผู้เสียชีวิต มาสอบตั้งแต่เช้ายันบ่าย เพื่อหาสาเหตุที่ทำให้นายพิธยุทธ โพธิ์ภักดี เสียชีวิต

ทั้งนี้ นางสาวเยาวภา โพธิ์ภักดี หรือปู น้องสาวนายพิธยุทธ โพธิ์ภักดี อายุ 42 ปี ที่พบว่าเสียชีวิต ไม่เชื่อว่าเหตุจะทำให้ผู้ตายเสียชีวิต เพราะสภาพรถยนต์กระบะคันดังกล่าวไม่มีร่องรอยการชน และมีคราบเลือดเป็นทางนอกรถเหมือนอุ้มร่างขึ้นมาวางไว้บนรถ อีกทั้งสภาพรถก็จอดเข้าเกียร์หนึ่ง

โดยนางสาวเยาวภาเผยว่าแพทย์ชันสูตรให้เหตุผลว่า ถ้าผู้ตายเสียชีวิตภายในรถจากอุบัติเหตุจริงจากสภาพบาดแผลที่ใบหน้าผู้ตายและที่บริเวณคาง ข้าวของในรถจะต้องกระจัดกระจายและต้องมีเลือดกระเซ็นต์ติดที่หน้ารถ กระจัดกระจาย แต่สภาพศพกลับนอนคว่ำหน้าลำตัวพาดไปยังที่นั่งข้างคนขับ และมีเลือดออกกองที่พื้นวางเท้าจำนวนมาก หมอบอกว่ามีบาดแผลที่ใต้ดวงตาและคางฉกรรจ์ แต่ไม่พบร่องรอยเลือดกระเซ็นต์ภายในรถจึงไม่น่าจะเสียชีวิตภายในรถอย่างแน่นอน

ล่าสุดเมื่อเวลา 21 .00 น.วันที่ 14 กรกฎาคม 2563 ผู้ก่อเหตุคดีฆาตกรรมอำพราง ฆ่าสามีตนเอง แล้วจัดฉากว่าเป็นอุบัติเหตุ โดยเหตุเกิดขึ้นที่ถนนสายบายพาสชะอำปราณบุรี เมื่อเช้ามืดคืนวันที่ 12 กรกฎาคมนี้ นางอุไร ยอดทอง ผู้เป็นแม่ของผู้ก่อเหตุ บอกว่าลูกสาวได้รับสารภาพด้วยน้ำตานองหน้า กับพ่อตนเอง เมื่อช่วงหัวค่ำบอกกับพ่อว่าเป็นคนลงมือฆ่าสามีเพียงคนเดียวแต่พ่อไม่เชื่อ จึงยอมรับว่าร่วมกับคนรักใหม่ โดยอ้างว่าสามีจะใช้มีดแทงตน คนรักใหม่จึงเข้ามาช่วยโดยผลักผู้ตายล้มลง หลังจากนั้นตนจึงใช้ไม้ตีที่ศีรษะจนเสียชีวิต

ต่อจากนั้นจึงนำศพขึ้นรถของผู้ตาย แล้วนำไปจัดฉากว่าเป็นอุบัติเหตุรถชนต้นไม้เสียชีวิตร่วมกับกิ๊ก โดยมีพ่อและแม่พร้อมลูกอีกสองคนเดินทางจากบ้านพักในตำบลหนองพลับอำเภอหัวหิน เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชะอำ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวน และจะตามผู้ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป